ตำรวจรวบมือเผาเผาเซ็นทรัลเวิลด์ - ศาลปล่อยตัว "จตุพร การุณ" เป็นอิสระชั่วคราว

ศาลปล่อยตัว "จตุพร การุณ" เป็นอิสระชั่วคราว
ที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 08.50 น. เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมานายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. พร้อมด้วย นายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย แนวร่วม นปช. เดินทางไปรายงานตัวตามหมายเรียกของ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในข้อหาร่วมกัน หรือใช้ให้ ผู้อื่น หรือสนับสนุนการกระทำความผิดอาญา ฐานก่อการร้าย โดยมีกองเชียร์กลุ่มคนเสื้อแดงไปมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจประมาณ 300 คน ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโด กองปราบปรามอย่างแน่นหนา ซึ่งนายจตุพรและนายการุณ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ขณะที่นายคารม พลทะกลาง ทนายความ นปช. เตรียมหลักทรัพย์ยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน เป็นเงินสดคนละ 1 ล้านบาท และใช้ตำแหน่ง ส.ส. ในการยื่นขอประกันตัวต่อศาล ขณะเดียวกันนายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาอีกคนที่ดีเอสไอนัดให้มารายงานตัวนั้น ได้ทำหนังสือเลื่อนนัดรายงานตัวออกไปเป็นวันที่ 21 มิ.ย.53 เวลา 10.00 น. เนื่องจากหมายเรียกนัดกระชั้นชิดเกินไป ไม่สามารถหาหลักทรัพย์ประกันตัวได้ทัน รวมทั้งต้องการไปรายงานตัวที่ดีเอสไอ เมื่อเห็นว่าศาลอาญาไม่ใช่ที่ทำการของดีเอสไอ

ดีเอสไอยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 1
ต่อมา พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ยื่นคำร้องขอฝากขังนายจตุพรและนายการุณ ต่อศาลครั้งที่ 1 ระบุว่า เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 53 คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้ร่วมกันแจ้งข้อกล่าวหาและข้อหา กับนายจตุพรและนายการุณ ผู้ต้องหาว่า ร่วมกันหรือใช้ให้ผู้อื่น หรือสนับสนุนการกระทำความผิดอาญา ฐานก่อการร้าย ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 3 ปี-20 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000- 1,000,000 บาท เหตุเกิดระหว่างเดือน พ.ย. 52 ถึง พ.ค. 53 ที่ กทม. ปริมณฑล และเขตพื้นที่บางจังหวัดของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน

อ้างมีพฤติกรรมชุมนุมผิดกฎหมาย
พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้ต้องหาเป็นแกนนำหลักบนเวทีชุมนุมของกลุ่ม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมประท้วง โต้แย้ง เคลื่อนไหว เรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาโดยเร็ว มีพฤติการณ์ในการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ใช้ความรุนแรง ก่อวินาศกรรม มีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดในราชการสงครามในการก่อการร้าย หรือตอบโต้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ หรือประชาชนที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม เพื่อบังคับข่มขู่ให้บรรลุวัตถุประสงค์ ผู้ต้องหากับพวกสับเปลี่ยนกันบนเวทีชุมนุมปราศรัยปลุกระดม ปลุกปั่นให้ผู้ชุมนุมกระด้างกระเดื่อง เพื่อให้เกลียดชังรัฐบาล ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบหรือล่วงละเมิดกฎหมาย เพื่อบังคับข่มขู่คุกคาม ต่อต้านหรือปะทะกับเจ้าหน้าที่ของรัฐมาหลายครั้ง เช่น เหตุการณ์บุกรุกรัฐสภา บุกรุกสถานีดาวเทียมไทยคม ต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค เหตุการณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหารที่อนุสรณ์ สถานแห่งชาติ หรือเหตุการณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่สี่แยกคอกวัว หรือบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เผา สถานที่ราชการและเอกชน เผาห้างสรรพสินค้าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และเผาศาลากลางจังหวัดอีกหลายแห่ง จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก

พ้นการคุ้มครองตามเอกสิทธิ์
ในคำร้องระบุว่า เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ใช่ผู้ถูกจับและยังไม่ได้มีการออกหมายจับ แต่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการ ที่ร่วมสอบสวนร่วมกันพิจารณาเห็นว่า มีพยานหลักฐานตามสมควรเพียงพอ จึงได้แจ้งข้อหาให้ทราบดังกล่าว และมีเหตุที่จะขอให้ศาลออกหมายขังผู้ต้องหาได้ โดยผู้ต้องหาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย และเป็นแกนนำหลัก สับเปลี่ยนกันพูดปราศรัยบนเวทีชุมนุมของกลุ่ม นปช. ได้ปลุกปั่น ยุยงส่งเสริมผู้ชุมนุม ให้เกลียดชังรัฐบาลหรือฝ่ายตรงข้าม จนกระทั่งกลายเป็นการชุมนุมที่ไม่สงบ หรือมีอาวุธปืนสงครามที่มีความร้ายแรง ก่อวินาศกรรม ก่อเหตุจลาจล เกิดการเผาบ้านเผาเมือง ห้างสรรพสินค้า ธนาคารต่างๆ รวมทั้งศาลากลางจังหวัดหลายแห่ง จนเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก ผู้ต้องหาได้ร่วมแรงร่วมใจหรือรู้เห็นเป็นใจ โดยมีเจตนาร่วมกันกระทำผิดอาญาฐานก่อการร้าย และ ขณะนี้ไม่อยู่ในระหว่างสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงไม่ได้รับการคุ้มครองเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 131

ฝากขังแล้วค้านการประกันตัว
ในคำร้องขอฝากขังยังระบุด้วยว่า การสอบสวนคดีนี้ยังไม่แล้วเสร็จ จำเป็นต้องสอบสวนพยานบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องในคดีอีกประมาณ 90 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆทางนิติวิทยาศาสตร์อีกจำนวนมาก อีกทั้งมีเหตุผลที่จะให้ศาลออกหมายขังผู้ต้องหาได้ จึงขออนุญาตศาลขอฝากขังผู้ต้องหา มีกำหนด 12 วัน นับแต่วันที่ 8 มิ.ย. 53 ถึงวันที่ 19 มิ.ย. 53 ท้ายคำร้องยังระบุด้วยว่า หากผู้ต้องหาขอประกันตัวต่อศาล คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากมีเหตุผลดังกล่าวตามข้างต้นประกอบกับผู้ต้องหามีส่วนร่วมในการปลุกปั่น และยุยงส่งเสริมให้ประชาชนก่อความไม่สงบขึ้น หรือกระทำผิดกฎหมายดังกล่าวมาก่อน และสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ยังไม่เป็นที่ไว้วางใจในเหตุการณ์รุนแรงต่างๆ หากปล่อยตัวไปอาจจะหลบหนีหรือไปก่อเหตุร้ายดังกล่าวขึ้นอีก

ศาลปล่อยตัวเป็นอิสระชั่วคราว
ขณะเดียวกัน นายคารม พลทะกลาง ทนายความของ นปช. ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการฝากขัง นายจตุพร และนายการุณ ต่อศาล โดยระบุว่า 1. นายจตุพร และนายการุณได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนดีเอสไอไปแล้ว 2. ได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนจะรวบรวมเอกสารหลักฐาน ยื่นคำให้การชี้แจงภายใน 30 วัน และ 3. ทั้งสองไม่เคยมีพฤติการณ์ข่มขู่พยาน หรือหลบหนี โดยทั้ง 2 มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ซึ่งหลังจากศาลพิจารณาคำร้องแล้วได้ให้ประกันตัวทั้ง 2 คนไป

นอกจากนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้ยื่นคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นาย ขวัญชัย ไพรพนา นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก และนายนิสิต สินธุไพร 5 แกนนำ นปช. เป็นครั้งที่ 3 อีก 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ 9-15 มิ.ย.นี้ เนื่องจากยังต้องสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินการทั้งหลายต่างๆ เพื่อป้องกันมิให้เกิด เหตุการณ์ร้ายแรง และหรือเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการระงับเหตุการณ์ร้ายแรง ต้องรอผลการตรวจสอบต่างๆด้วย ศาลอนุญาตขยายเวลาควบคุมตัวทั้ง 5 คนได้

ไม่ขัดข้องวิเชียรเลื่อนพบ พงส.
ด้านนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้าย กล่าวถึงกรณีศาลอาญาให้ประกันตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทยว่า ศาลอาญาอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ตามคำร้องของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ แต่ศาลอนุญาตให้ ปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางหลักทรัพย์ประกันคนละ 1 ล้านบาท ส่วนแนวทางการดำเนินคดีหลังจากนี้ดีเอสไอ จะทำการสืบสวนสอบสวนก่อนสรุปสำนวนสั่งฟ้องต่ออัยการ ส่วนกรณีนายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ดีเอสไอนัดให้มาพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมนายจตุพรและนายการุณ ได้แจ้งขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ ให้เหตุผลว่าเตรียมหลักทรัพย์ไม่ทัน ดีเอสไอพิจารณาแล้วไม่ขัดข้องอะไร อย่างไรก็ตาม คงต้องนัดมาพบที่ศาลอาญาเพื่อขอศาลออกหมายขังอีกครั้ง ส่วนกลุ่มแกนนำ นปช.ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายนเรศวร จังหวัดเพชรบุรี ถ้าพ้นอำนาจการควบคุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็จะกลับเข้าสู่การควบคุมดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งดีเอสไอก็จะนำตัวขอฝากขังกับศาลอาญาต่อไป

จับการ์ดแดงมือเผาเซ็นทรัลเวิลด์
ส่วนที่ บช.น. เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 แถลงข่าวจับกุมนายสายชล แพบัว อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 1 ต.บางชุด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท พร้อมบัตรสมาชิก นปช.ออกโดย พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ แกนนำ นปช. ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา ร่วมกันวางเพลิงทรัพย์ของผู้อื่น โดยจับกุมได้บริเวณท้องสนามหลวง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า หลังจากยุติการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลา 14.30 น. ผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันทุบทำลายกระจก ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เข้าไปในห้างเหตุเกิดบริเวณโซน อี ชั้นที่ 1 ลักทรัพย์สินมีค่าและวางเพลิงเผาทรัพย์ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 4 คน นายสายชล เป็น 1 ใน 4 และให้การรับสารภาพว่า เป็นบุคคลตามภาพถ่ายจริง แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้วางเพลิงและลักทรัพย์ ส่วนผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นการ์ดของ นปช. ได้รับค่าจ้างวันละ 500 บาท จากหัวหน้าชุด วันที่ห้างเกิดเพลิงไหม้ได้อยู่หน้าประตูห้างคอยห้ามผู้ชุมนุมเสื้อแดงไม่ให้เข้าไปในห้างและเห็นชายชุดดำเดินแยกออกไป จากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง พอเพลิงไหม้ตนก็ไปหลบอยู่ในวัดปทุมวนาราม

ผู้กองแดงสนามหลวงก็โดนรวบ
ขณะเดียวกัน เวลา 13.30 น. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทน ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐกร ประภายนต์ รอง ผกก.1 บก.ป. จับกุมตัวนายชุติพนธ์ ทองคำ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/171 หมู่ 9 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. ผู้ดำเนินรายการวิทยุธรรมะกับการเมือง สถานีวิทยุชุมชนเรดสกิลล์เรดิโอ คลื่น 96.35 FM ตั้งอยู่ที่ อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นายชุติพนธ์ กล่าวว่า จัดรายการวิทยุชุมชนแห่งนี้ทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมง ช่วงเกิดเหตุการชุมนุมทางการเมืองและมีความรุนแรงขึ้นในหลายพื้นที่ ถูก ศอฉ.ออกหมายเรียก และได้ประสานอย่างไม่เป็นทางการไปยัง ศอฉ.ขอเลื่อนการเข้ามอบตัวออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะสงบ ก่อนจะถูกจับกุมตัว ส่งไปที่ บก.ตชด.ภาค 1 คลองห้า จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ พ.ต.ต.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.1 บก.ป. พร้อมกำลังจับกุมนายสมบัติ มากทอง หรือแดง หรือ ผู้กองแดงสนามหลวง ผู้ต้องหาตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกราย ที่ย่านพัทยา จ.ชลบุรี ทำบันทึกและนำตัวไปควบคุมไว้ที่ บก.สนับสนุนทางอากาศ บก.ตชด.ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี

ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายชุติพนธ์นั้นถูก บช.ก.ขออนุมัติศาลออกหมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 14-20 พ.ค. 2553 เนื่องจากพบว่ามีการนำคลิปตัดต่อเสียงของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกเผยแพร่ ทางสถานีวิทยุชุมชนดังกล่าว ส่วนนายสมบัติมาจากเหตุการณ์ ปลุกระดมโจมตีรัฐบาล

         

ที่มาข่าว: ไทยรัฐ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท