Skip to main content
sharethis

พระศรีอริยวิโส จากธรรมสถานสวนศรีอาริยะธรรม จ.ขอนแก่น เล่าเหตุการณ์ที่ตัวเอง ถูกทหารจับมัดมือไพล่หลังเมื่อ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม เผยอยู่ที่ศาลาแดง เห็นม็อบถูกยิง นั่งทำภาวนาสู้ จนถูกทหารจับ

พระศรีอริยวิโส จากธรรมสถานสวนศรีอาริยะธรรม จ.ขอนแก่น เล่าเหตุการณ์ที่ตัวเอง ถูกทหารจับมัดมือไพล่หลังเมื่อ 19 พ.ค. ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ในงานชุมนุมเสื้อแดงที่วัดราชาธิวาส เมื่อ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา (ที่มาของภาพ: ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย)

 

ข่าวสด รายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่ห้องประชุมศาลาพิพิธภัณฑ์พระราชานุสรณ์ ร.4 ในวัดราชาธิวาส ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสตร์แห่งชาติ ร่วมกับสถานีวิทยุพระพุทธศาสนาแห่งชาติเอฟเอ็ม 104.25 จัดงานบรรยายธรรมในหัวข้อเรื่อง "บทบาทพระไทยในยุคโลกาภิวัตน์" โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 500 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดงระดับแม่ยกและแฟนพันธุ์แท้ เดินทางมาร่วมงานกันจนเต็มห้องประชุม 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานจัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตในเหตุชุมนุม และร่วมทอดผ้าป่า โดยผู้ที่มาร่วมงานต่างพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องการเมืองในกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย ท่ามกลางการจับตาอย่างใกลชิดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองความมั่นคงของทหาร 

พล.ต.ทองขาว พ่วงรอดพันธุ์ รองเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนา กล่าวว่า การจัดงานวันนี้ถือเป็นการจัดงานปกติของทางศูนย์ที่มีขึ้นทุกเดือน ไม่ใช่เป็นการจัดเพื่อคนเสื้อแดง แต่กลุ่มคนเสื้อแดงคงชวนกันมาร่วมรับฟัง ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องเสรีภาพของคนในระบอบประชาธิปไตย ที่มีสิทธิ์ไปไหนก็ได้ โดยเฉพาะการเข้าวัด ที่แม้แต่สุนัขคนยังเอามาปล่อยได้ แล้วทำไมคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจะเข้ามาร่วมรับฟังการบรรยายไม่ได้ ทั้งนี้ การอภิปรายในวันนี้ก็ไม่เกี่ยวกับการเมืองด้วย 

สำหรับการบรรยายธรรมในหัวข้อเรื่อง "บทบาทพระไทยในยุคโลกาภิวัตน์" พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นพิธีกรและกล่าวนำถึงเหตุที่พระต้องมาร่วมในการชุมนุมว่า ประเทศชาติมีความคิดแตกแยกรุนแรงในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พระสงฆ์กลุ่มหนึ่งเข้าร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดง เพราะเห็นว่าชาวบ้านที่อยู่ในละแวกเดินทางมาต่อสู้เรียกร้อง พระในต่างจังหวัดจำนวนหนึ่งจึงต้องเดินทางมาด้วยเพื่อดูแลชาวบ้าน เพราะเมื่อชาวบ้านเดือดร้อนพระจะอยู่เฉยได้อย่างไร แต่รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงกลับออกมาพูดว่า พระกลุ่มนี้ไม่ใช่พระ 

พล.ต.ทองขาว กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวมองว่าพระสงฆ์ที่มาร่วมกับคนเสื้อแดงถูกกล่าวหาว่าไม่ใช่พระ เป็นพวกไม่หวังดีกับชาติ หรืออนาคตอาจเป็นผู้ไม่จงรักภักดี แต่พระสงฆ์ที่สนับสนุนรัฐบาลนั้นกลับได้รับการส่งเสริมให้ออกรายการโทรทัศน์อยู่เสมอ โดยเฉพาะพระสงฆ์ที่ถูกจับกุมโดยทหาร และมีภาพปรากฏไปทั่วโลกนั้น ทางพระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคมได้ทราบเรื่องแล้ว รู้สึกไม่สบายใจมาก เพราะในประวัติศาสตร์มีเพียงพระพิมลธรรม วัดมหาธาตุ เพียงรูปเดียวที่ถูกข้อกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ และมาจนถึงยุคนี้ก็มีพระถูกจับและกล่าวหาว่าก่อความไม่สงบด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับไฮไลต์ของการจัดงานนี้ คือการนำพระสงฆ์ที่อยู่ในเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง 4 รูป มาร่วมเล่าถึงเหตุการณ์

พระศรีอริยวิโส จากธรรมสถานสวนศรีอาริยธรรม ตำบลวังเพิ่ม อำเภอสีชมพู จังหวัดขอน แก่น หนึ่งในพระ 4 รูปที่ถูกทหารจับกุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ได้เล่าเหตุการณ์วันที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. อาตมาพร้อมพระรูปอื่นๆ ได้ไปอยู่ประจำบริเวณสวน ลุมพินีประตู 5 โดยในวันนั้น ช่วงเช้ามีรถหุ้มเกราะของทหารเริ่มเข้ามาประชิดบริเวณด่านแยกศาลาแดง โดยอาตมาได้บอกให้พระสงฆ์ทั้งหมดวันนี้ไม่ต้องฉันอาหารเพล แต่ให้เอามาม่าและน้ำใส่ย่ามเอาไว้ เพราะเชื่อว่าในวันนั้นจะต้องมีการล้อมปราบกลุ่มผู้ชุมนุมแน่นอน

พระศรีอริยวิโสกล่าวอีกว่า หลังจากที่เตรียมตัวเสร็จพระสงฆ์รูปอื่นๆ ได้พากันถอยออกจากแยกไปอยู่พื้นที่ชั้นใน ส่วนอาตมาได้เดินย้อนสวนออกไปทางตึก สก.หน้าร.พ.จุฬาฯ บริเวณหน้าด่านและยังทราบอีกว่าการล้อมปราบวันนั้นจะล้อมปราบแบบวิธีกองโจร หากเจอผู้ชุมนุมก็จะยิงทิ้งทันที ซึ่งขณะนั้นอาตมาก็ได้เดินไปหลบบริเวณใต้ตอม่อสะพานไทยเบลเยียมบริเวณแยกศาลาแดง หลังจากนั้นไม่นานทหารเริ่มรุกคืบไปประชิดกับด่านพร้อมกับเริ่มยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมและการ์ด ก่อนจะบุกเข้าไปในพื้นที่สวนลุมพินี ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมวิ่งหลบหนีคนละทิศละทาง มีการ์ดและพระสงฆ์ถูกยิงและได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายรายแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ ขณะที่ทหารบุกได้มีการเผายางเป็นจุดๆ เพื่อชะลอการบุกของทหาร

พระศรีอริยวิโสกล่าวต่อว่า ช่วงที่ทหารยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพบว่ามีผู้เสียชีวิต และมีพระจำนวนหนึ่งพยายามเข้าไปช่วยนำศพและคนเจ็บใส่เสื่อ ช่วยกันลากออกมาอย่างทุลักทุเล แต่ก็ช่วยได้ไม่มาก ก่อนที่จะพากันร่นถอยออกมายังแยกสารสิน ซึ่งบริเวณดังกล่าวจะมีเต็นท์กาชาดปักหลักอยู่ด้วย แต่เมื่อไปถึงไม่พบกลุ่มญาติโยมเสื้อแดงอยู่บริเวณดังกล่าวแล้ว ทราบว่าพากันหลบหนีไปแล้วเนื่องจากทหารยิงปืนไล่ อาตมาจึงตัดสินใจนั่งทำจิตภาวนา โดยนำชีวิตเข้าไปเสี่ยงเพราะอยากทราบว่าเขาจะฆ่าพระหรือไม่ ซึ่งเป็นการพลิกแผนสู้ในอีกรูปแบบหนึ่งของอาตมา 

พระศรีอริยวิโสกล่าวต่อว่า ในขณะนั้นอาตมาได้ยินเสียงทหารบุกเข้ามาถึงเต็นท์ที่อาตมาอยู่ ซึ่งทหารตะโกนว่าให้ยอมจำนนและจะพากลับบ้านอย่างปลอดภัย ก่อนที่ทหารจะบุกเข้ามาควบคุมตัวอาตมาในเต็นท์ เมื่อทหารเข้ามาถึงตัวก็ได้จับกุมควบคุมตัวอาตมาพร้อมพระรูปอื่นจำนวน 4 รูป ซึ่งช่วงที่ทหารบุกเข้ามาพบว่ามีกลุ่มผู้สื่อข่าวต่างประเทศติดตามทหารเข้ามาด้วยประมาณ 10 คน โดยได้สอบถามอาตมาถึงเหตุผลในการเข้ามาร่วมการชุมนุมกับ นปช.หลังจากสัมภาษณ์เสร็จทหารได้ไล่ผู้สื่อข่าวออกทันที ก่อนที่จะนำพวกอาตมาไปควบคุมตัวในซอกตึกบริเวณแยกสารสิน เมื่ออาตมาเดินไปถึงบริเวณดังกล่าวพบผู้ชุมนุมที่ถูกจับมาไว้บริเวณนี้ไม่ต่ำกว่า 20 คน โดยทุกคนถูกปิดตาและพันธนาการมือทั้งสองข้างด้วยสายพลาสติกรัดสายไฟไว้ด้านหลัง ซึ่งทำให้ไม่สามารถหลบหนีได้ 

"หลังจากที่ทหารไล่นักข่าวไปหมดแล้วก็ได้แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวและเป็นกุ๊ยทันที โดยด่าทอพระที่ถูกจับกุมว่ารับเงินรับทองมาร่วมชุมนุม พร้อมทั้งขู่ต่างๆ นานา ว่าจะยิงให้ตาย โดยอาตมาก็ได้ขอร้องว่า อย่าทำเช่นนั้นเลย เพราะมันจะทำลายเกียรติภูมิของชาติไทยและกลุ่มของพวกท่านเอง" พระศรีอริยวิโสกล่าว

พระศรีอริยวิโสกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นไม่นานช่วงที่ทหารยังควบคุมตัวอาตมาพร้อมผู้ชุมนุมอื่นในบริเวณจุดดังกล่าว ได้เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นว่ามีระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวตกอยู่บริเวณหน้าตึก และมีทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาข้างในและพูดกับเพื่อนทหารด้วยกันว่า "รอดอยู่คนเดียว นอกนั้นถูกระเบิดไส้แตก" ยิ่งทำให้ทหารมีความโกรธแค้นกลุ่มคนเสื้อแดงมากยิ่งขึ้น โดยกระชากแขนอาตมาและบอกว่า "แน่นักหรือ ออกไปกับกู เพราะเขาคงไม่ยิงพวกมึง" ซึ่งอาตมาคิดว่าเป็นคำพูดที่หยาบคายมากที่พูดกับพระอย่างนี้ และอาตมาได้เถียงกับทหารอยู่พักหนึ่ง ยิ่งทำให้ทหารโมโหและจับมัดอาตมาจนแน่นเป็นแผล โดยมัดอาตมาตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00 น.กว่าจะแก้มัดก็เวลาประมาณ 20.00 น. 

จากนั้นก็ได้พาไปที่สวนลุมพินี ซึ่งขณะนั้นอาตมาปวดปัสสาวะขอให้แก้มัดก็ยังไม่ยอม จึงต้องเข้าห้องน้ำพร้อมกับมือที่โดนมัดไว้อย่างนั้น จากนั้นทหารได้นำตัวขึ้นรถและพาไปส่งที่ค่ายนเรศวร อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เมื่อไปถึงอาตมาได้พบกับ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. โดย พล.ต.ต.อำนวยได้ออกคำสั่งให้นำตัวพระทั้ง 4 รูปสึกในวันนี้ โดยให้เหตุผลว่า พระสงฆ์ที่ถูกจับกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

พระศรีอริยวิโสกล่าวว่า ช่วงที่นำพระผู้ใหญ่มาสึกพระสงฆ์ทั้ง 4 รูป ที่ถูกจับที่ค่ายนเรศวรไม่มีพระรูปใดเปล่งวาจาสึก เพราะคิดว่าไม่ได้กระทำผิดกฎหมายบ้านเมืองอะไร ที่มาชุมนุมเพื่อต้องการไม่ให้ใครมาฆ่าคนที่บริสุทธิ์ หลังจากที่อยู่ที่ค่ายนเรศวรครบ 48 ชั่วโมง ก็ถูกส่งฟ้องศาล โดยที่ค่ายคุมขังแห่งนี้อยู่ที่เดียวกับบรรดาแกนนำ นปช. ส่งฟ้องศาลทั้งหมดรวม 18 คน ก่อนจะนำตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ รวมกับผู้ชุมนุมอื่นอีก 70 คน โดยทั้งหมดถูกส่งไปรวมตัวกันในห้องขนาด 40 ตารางเมตร จนเวลานอนต้องใช้วิธีนอนตะแคง หลังจากอาตมาอยู่ที่นั่นหนึ่งคืนทางเรือนจำได้กระจายผู้ถูกจับกุมไปที่เรือนจำต่างๆ ซึ่งอาตมาได้ถูกส่งไปอยู่ที่เรือนจำคลองเปรม จนได้รับการประกันตัวในวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งบอกได้เลยว่า ช่วงที่ถูกนำตัวส่งที่คุกนั้นคือ "นรกชัดๆ"

 

ที่มา: พระถูกมัดไพล่หลัง เปิดตัวแฉ วันสลายม็อบโหด, ข่าวสดรายวัน, 14 มิ.ย. 53
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXdNakUwTURZMU13PT0

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net