Skip to main content
sharethis

วันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค.53 ที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ได้มีการนัดหมาย รวมตัวของกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มนักกิจกรรมเนื่องในโอกาสครบรอบ 2 เดือน เหตุการณ์การสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 กิจกรรม “วันอาทิตย์สีแดง” และปฏิบัติการทางสังคม ในการแสดงศิลปะสด “แถวนี้มีคนตาย” จึงถูกจัดขึ้น เพื่อเตือนสังคมไม่ให้ลืมการตายของคนกว่า 90 ชีวิตไป เพราะที่นี่มีคนตาย และพวกเขาตายทั้งๆ ที่มาชุมนุมเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยตามความคิด ความเชื่อของพวกเขา และพวกเขาตายด้วยคมอาวุธจากการสั่งการของผู้มีอำนาจในสังคม 

16.00 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากประจำการบริเวณ “ป้ายราชประสงค์” เพื่อ “ปกป้อง” ไม่ให้มีการนำผ้าแดงไปผูกที่ป้ายราชประสงค์ นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบประจำการอยู่โดยรอบ ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงก็กระจายตัวกันอยู่ตามจุดต่างๆ โดยมีคนเสื้อแดงกลุ่มใหญ่ยืนรวมตัวกันอยู่ตรงหัวมุมถนนฝั่งห้างเซ็นทรัลเวิลด์ และได้มีการนำผ้าแดงไปผูกตามป้ายอื่นในบริเวณนั้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า ได้รับคำสั่งให้มาประจำการอยู่บริเวณป้ายราชประสงค์ ตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมาจากทั้ง 9 สน.จำนวน 150 นาย

ส่วนที่บริเวณหน้าวัดปทุมวนาราม เวลาประมาณ 16.30 น.เครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย ศูนย์อำนวยการเยียวยาสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอย.) BAN the Hollywood CLUB และกลุ่มเพื่อนสุรียะ ร่วมกันจัดกิจกรรม “ศิลปะการแสดงสด แถวนี้มีคนตาย” เพื่อรณรงค์ให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อันจะนำไปสู่การเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ สามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างสงบได้โดยเสรี และยุติบทบาทของคณะกรรมการปฏิรูปและคณะกรรมการปองดองประเทศไทยทุกชุดชั่วคราว เพื่อให้การตรวจสอบและค้นหาความจริงจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมมีความเป็นอิสระ โปร่งใส และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

จากนั้น กลุ่มอาสาสมัครนักแสดงซึ่งแต่งตัวเลียนแบบคนตายในกิจกรรม “ศิลปะการแสดงสด แถวนี้มีคนตาย” ครั้งแรกนี้ ได้เดินเท้าจากบริเวณ sky walk หน้าวัดปทุมวนาราม ไปเข้าร่วมกิจกรรมที่บริเวณแยกราชประสงค์ สร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้คนที่มารวมตัวกันได้เป็นอย่างดี 

เวลาประมาณ 17.20 น.นายสมบัติ บุญงามอนงค์หรือ บก.ลายจุดได้เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมที่บริเวณแยกราชประสงค์ โดยเข้าไปเจรจาขอผูกผ้าแดงที่ป้ายราชประสงค์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาการอยู่บริเวณนั้นก่อนจะมีการอนุญาตให้ผูกผ้าสีแดงที่รั้วกันบาทวิถี หน้าป้ายราชประสงค์ ทั้งนี้การมาของนายสมบัติได้รับความสนใจจากนักข่าวจำนวนมาก เนื่องจากนายสมบัติได้เคยถูกควบคุมตัวในขณะที่ได้มาทำการผูกผ้าแดงที่ป้ายราชประสงค์เพื่อเตรียมการจัดกิจกรรมวันอาทิตย์สีแดง เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.53 และได้ถูกนำตัวไปควบคุมที่กองบังคับการ ตชด.ภาค 1 ที่คลอง 5 ปทุมธานี จากความผิดฐานผ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นานถึง 2 สัปดาห์ ก่อนได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา

“การจับผมไม่ต้องเตรียม นี่ไม่ใช่ภาระผม การจับตอนนี้คนที่เป็นภาระคือคนจับ นี่เป็นภาระเขาไม่ใช่ภาระผม ผมใช้ชีวิตปกติ คือผมไม่มีปัญหา ผมไม่ต้องหลบแล้ว ผมใช้ชีวิตแบบนี้แหละ เส้นทางตรงๆ แบบนี้ คุณจะเจอผมทุกวันอาทิตย์ ถ้าอยากจะจับผม ถ้าจะกรุณา ก็ควรจะจับผมในวันอาทิตย์ ผมจะดีใจมาก และเมื่อถูกจับแล้วจะทำอะไรต่อก็ไม่ใช่หน้าที่ผมอีก คือผมว่าผมก็ได้ทำหน้าที่แล้ว” คำให้สัมภาษณ์ของนายสมบัติกับประชาไทภายหลังการถูกปล่อยตัว

ทั้งนี้ขณะที่นายสมบัติทำการผูกผ้าแดงกลุ่มประชาชนที่มารวมตัวกันอยู่โดยรอบได้พากันส่งเสียงตะโกน “ที่นี่มีคนตาย” หลังจากนั้นได้ร่วมกันผูกผ้าสีแดงบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เขียนข้อความไว้อาลัยลงบนสังกะสีซึ่งใช้กันพื้นที่ก่อสร้างเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นที่ตั้งของบอร์ดเขียนข้อความรำลึกถึงอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ที่ถูกเผาทำลายในช่วงเวลาที่มีการสลายการชุมนุม ต่อด้วยการร่วมกันจุดเทียนสีแดงเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะแยกย้ายกันเดินทางกลับอย่างสงบ

หญิงอายุราว 60 ปี ซึ่งมาร่วมกิจกรรมในวันนี้เล่าว่า ในวันนี้มาร่วมกิจกรรมเพียงคนเดียวเนื่องจากทราบข่าวทางเฟซบุ๊คโดยลูกชายเป็นผู้บอกข้อมูล เพราะต้องการมาร่วมรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้เธอเล่าด้วยว่าเธอและครอบครัวอยู่ที่ราชประสงค์ในวันที่มีการสลายการชุมนุม แม้เธอจะโชคดีทีครอบครัวไม่มีใครได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอรู้สึกเสียใจและจะไม่มีวันลืม

“ป้ามารำลึกถึงคนที่ตายที่นี่ ให้รู้ว่าเราไม่เคยลืมเขา ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นญาติกัน แต่เราก็ร่วมต่อสู้ด้วยกันมา คนเสื้อแดงเราไม่เคยทิ้งกัน” หญิงเสื้อแดงบอกเล่าความรู้สึก 

อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมถูกควบคุมตัวหนึ่งราย ทราบชื่อว่านายนที สรวารี นักกิจกรรมจากสมาคมสร้างสรรค์กิจกรรมอิสรชน (องค์กรสาธารณประโยชน์) โดยเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.นายนทีซึ่งได้เข้าร่วมกิจกรรมวันอาทิตย์สีแดง ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบจำนวน 4-5 นายเข้าควบคุมตัวที่บริเวณแยกราชประสงค์ หน้าห้างเกสรพลาซ่า หลังจากที่ได้พยายามตะโกนตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจอธิบายเรื่องการชุมนุมที่ขัดต่อการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ผู้ที่จะมาทำกิจกรรมที่แยกราชประสงค์อยู่ในความสงบ โดยอธิบายว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการชุมนุมเนื่องจากพบว่ามีการนัดแนะรวมตัวกันผ่านทางเฟซบุ๊คและการชุมนุมในระหว่างที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมาย มีโทษถึงจำคุก

“อย่าปิดปากเรา ขอเราพูดบ้าง ขอเราแสดงออกด้วย” นายนทีตะโกนขึ้นมา ขณะที่เจ้าหน้าที่พูดอธิบายถึงกฎหมายความมั่นคง

“ผมได้เห็นที่นี่ถูกเผา และคนถูกยิงด้วย อยากจะปรองดองอยากจะฟังเสียงเรา ก็ให้เราพูด ให้เราแสดงออกด้วย อย่าปิดปากเรา”

ทั้งนี้ระหว่างการเข้าควบคุมตัวนายนที กลุ่มคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างตะโกนช่วยด้วยมีคนถูกจับกุม ส่วนนายนทีได้ร้องตะโกนบอกว่า “ผมมาคนเดียว ไม่ได้ทำผิดตามมาตราไหน ไม่ได้มา 5 คน ไม่ได้มา 6 คน ผมมาคนเดียว กระทำเกินกว่าเหตุ นี่คือการกระทำเกินกว่าเหตุ” 

“ผมนายนที  สรวารี ผมทำงานที่สนามหลวง ช่วยคนเร่ร่อนอยู่ ผมคนจริง ทำอย่างนี้กับผม เกินกว่าเหตุ เกินกว่าเหตุ ผมไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ ตำรวจเริ่มต้นยั่วยุก่อนโดยใช้เครื่องขยายเสียง”

“วันอาทิตย์สีแดง วันอาทิตย์สีแดง” นายนทีตะโกน

เมื่อสอบถามกรณีมีการจับตัวนายนที พ.ต.ท.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี ให้ข้อมูลว่ามีการจับตัวผู้มาร่วมชุมนุมหนึ่งคนจริง แต่เป็นไปเพื่อให้สงบสติอารมณ์ เพราะเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้น และได้มีการนำตัวไปบันทึกปากคำที่ สน.ลุมพินี โดยจะมีการปล่อยตัวอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ระบุถึงวันเวลาที่จะทำการปล่อยตัว

หลังจากนั้น เมื่อเวลาประมาณ 18.40 น.นายนที ถูกปล่อยตัวจาก สน.ลุมพินี หลังได้มีการสอบปากคำและลงบันทึกประจำวันโดยแจ้งข้อหาส่งเสียงดังก่อให้เกิดความรำคาญ เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 100 บาท เนื่องจากได้ทำการการตะโกนตอบโต้กับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 

  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net