Skip to main content
sharethis

Facebook รายงานข่าวนักเรียน-นักศึกษา 5 คน รวมตัวรณรงค์ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดนหมายเรียกในความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ข้อหาชุมนุมห้าคนขึ้นไป กระทำการยุยง ให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย

 
รายงานข้อมูลจากใน Facebook uddthailand และAeaw วะ ฮะ ฮ่า ระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.บัญญัติ ทำทอง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย ได้ออกหมายเรียก เด็กนักเรียน ชั้น ม.5 อายุ 17 ปี และนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย 2 คน นักศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 2 คน รวมเป็น 5 คน ที่ออกไปรณรงค์ถือป้ายคัดค้านการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
 
 
ทั้งหมดโดนหมายเรียกในความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ข้อหา “ชุมนุมหรือมั่วสุมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยง ให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ทั้งนี้ภายในเขตพื้นที่ที่หัวหน้าผู้รับผิดชอบ ประกาศกำหนด ร่วมกันเสนอข่าว ทำให้แพร่หลายซึ่งสิ่งพิมพ์หรือสิ่งอื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน จนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน” และให้ไปรายงานตัวในวันที่ 20 กรกฎาคม 2553 เวลา 10.00 น.
 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ก.ค.53 กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ทั้ง 5 คน ได้รวมตัวทำกิจกรรมให้มีการยกเลิกการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ที่บริเวณหน้าตลาดสดเทศบาล 1 เทศบาลนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย ด้วยการปิดปากด้วยหน้ากากอนามับที่เขียนว่า “พ.ร.ก.” และเดินถือป้ายรณรงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ ในเขตเทศบาลเช่น หอนาฬิกา ศาลลากลางจังหวัด โดยถือป้ายที่มีข้อความ อาทิ “ผมเห็นคนตายที่ราชประสงค์” “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คงไว้เพื่อไม่ให้ความจริงปรากฏ” “นายกครับ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินนะ ไม่งั้นรัฐบาลจะพัง” ฯลฯ ก่อนที่จะสลายตัวกันไปอย่างสงบ
 
หนึ่งในกลุ่มนักศึกษา กล่าวในการทำกิจกรรมวันนั้นว่า การออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เพื่อที่ต้องการแสดงออกว่ากลุ่มนักเรียน นักศึกษาได้มีความสนใจทางด้านการเมือง ซึ่งไม่อยากให้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ได้เข้ามามีบทบาทในการปกครองเนื่องจากจะถูกมองจากต่างประเทศว่าไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตย จะกระทำหรือมีการเคลื่อนไหวอะไรก็ไม่ได้ ซึ่งการออกมาในครั้งนี้ก็ได้ทำตามมาตรการ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในการรวมกลุ่มไม่เกิน 10 คนและจะได้มีการรณรงค์อย่างสันติต่อไป
 
ทั้งนี้ ในวันเดียวกันนั้น มีการแจ้งข่าวผ่านทางเว็บบอร์ดประชาไท ระบุว่า หลังจากเสร็จจากการทำกิจกรรม ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้น ม.5 ได้ถูกทางโรงเรียนเชิญเข้าพบ โดยอาจารย์แจ้งว่าที่ให้มาพบเพียงอยากให้ยืนยันว่าได้มีการไปทำกิจกรรมจริงหรือไม่ ไม่ได้ถือเป็นการทำผิด แต่หาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) มีคำสั่งมาว่าอย่างไร ทางโรงเรียนก็ต้องดำเนินการตามนั้น อีกทั้งในตอนหัวค่ำยังถูกตำรวจเข้าพบที่บ้านและเข้าตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คด้วย
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net