Skip to main content
sharethis

"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" แจงแนวคิดตั้งกองพลทหารราบที่ 7 ที่เชียงใหม่ ไม่เกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง ระบุเป็นแนวคิดที่มีมานานแล้ว ด้านแม่ทัพภาค 3 รับมีแนวคิดตั้งกองพลที่เชียงใหม่จริง ส่วนงบหมื่นล้านไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา

ตามที่มีกระแสข่าวว่าในการประชุมของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอฉ. ได้หารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อหาแนวทางสกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้เสนอแนวความคิดที่จะขยายกำลังทหารในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ด้วยการจัดตั้ง กองพลทหารราบที่ 7 ขึ้นนั้น (อ่านข่าวย้อนหลัง)

ล่าสุด เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานวันนี้ (24 ก.ค.) ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกระแสข่าวกองทัพเตรียมตั้งกองพลทหารราบที่ 7 (พล.ร.7) ใน จ.เชียงใหม่ ว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมือง แต่การตั้งกองพลดังกล่าวนั้นเป็นแนวคิดที่มีมานานแล้ว ซึ่งตนยังไม่เห็นรายละเอียด โดยการจัดตั้งจะต้องผ่านคณะกรรมการกลั่นกรอง และผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี

ส่วนที่ยังมีข้อเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลพยายามเร่งรัดให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามลำดับ ส่วนเรื่องการดำเนินการที่กระทบสิทธิมนุษยชน ต้องดำเนินการตรวจสอบไปตามขั้นตอน

ทั้งนี้ กรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ชุดของนายคณิต ณ นคร เสนอให้ยกเลิกตีตรวนผู้ต้องขังนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เสนอมา หากเสนอเข้ามาจะส่งเรื่องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณา

ด้าน พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า กองทัพมีแนวคิดดังกล่าวจริง แต่ขั้นตอนยังต้องผ่านความเห็นชอบจากสภากลาโหมและคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นโครงการที่คิดมานานแล้ว เพื่อดูแลงานด้านความมั่นคงทั้งหมดในภาคเหนือ ที่มีเขตติอต่อกับชายแดน และมักมีปัญหาลักลอบขนยาเสพติด รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศ

ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการควบคุมกลุ่มคนเสื้อแดงในภาคเหนือ ทั้งนี้เชื่อว่าการตั้ง พล.ร.7 คงเสร็จไม่ทันปีนี้ แต่ถ้าตั้งผู้บัญชาการกองพลได้ภายในเดือนตุลาคม ก็จะทำให้การจัดสรรกำลังพลเร็วขึ้น สำหรับกำลังพลจะเกลี่ยมาจากหน่วยทหารในภาคเหนือ ส่วนงบประมาณ 1 หมื่นล้านบาทนั้น ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องระดับผู้บังคับบัญชา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net