น้องสาวช่างภาพอิตาเลียน ยังคงเรียกร้องรัฐบาลไทยเคลียร์สาเหตุการตาย 19 พ.ค.

อิสซาเบลลา โปเลนจิ น้องสาวของช่างภาพชาวอิตาเลียนซึ่งถูกยิงตายในวันที่ 19 พ.ค. 2553 เรียกร้องอีกครั้งให้รัฐบาลไทยเดินหน้าสอบสวนหาเหตุการตายของน้องชาย พร้อมเดินหน้าหาพยานหลักฐานจากกล้องถ่ายภาพของน้องชายต่อไป ด้านตัวแทน CPJ ระบุ ผู้ใช้อาวุธทั้งสองฝ่ายลอยนวลไม่ต้องรับผิด

30 ก.ค. ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย น้่องสาวของช่างภาพชาวอิตาเลียนซึ่งถูกยิงตายในเหตุการณ์พฤษภาเลือด 19 พ.ค. 2553 เรียกร้องอีกครั้งให้รัฐบาลไทยสอบสวนหาเหตุการตายของน้องชาย พร้อมเดินหน้าหาพยานหลักฐานจากกล้องวีดีโอของน้องชายต่อไป

น.ส.อิสซาเบลลาโปเลนจิ น้องสาวของนายฟาบิโอ โปเลนจิ ระบุว่า การที่กล้องของน้องชายหายไปนั้น ทำให้เกิดข้อกังขา และเธอยังพยายามติดตามหากล้องตัวที่นายฟาบิโอใช้งานในวันที่ถูกสังหารด้วยกระสุน ขณะที่มีการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากจะเป็นกุญแจสำคัญในการบ่งชี้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนที่นายฟาบิโอจะถูกยิงเสียชีวิตได้

น.ส.เอลิซาเบตตาระบุด้วยว่า หลังจากที่น้องชายเสียชีวิตลงก็ต้องการทราบความคืบหน้าของการสืบสวนสอบสวนจึงเดินทางกลับมายังประเทศไทยอีกครั้ง เพื่อรับฟังข้อสรุปและผลการสืบสวนสอบสวน แต่เธอรู้สึกว่าสองเดือนที่ผ่านมานั้นดูเหมือนจะเร็วเกินไปที่เธอจะได้รับข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากรัฐบาลไทย

ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย รายงานว่าน.ส.อิสซาเบลลา ได้เข้าพบ พ.ต.อ. ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสืบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตอิตาลี/ปทท. และผู้แทนกรมยุโรป เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2553 เพื่อขอทราบผลการติดตามคดีดังกล่าวโดยเฉพาะขอรับเอกสารผลการชันสูตรศพในขั้นสุดท้าย ซึ่งทาง DSI แจ้งว่า ได้รับสำนวนคดีจาก สน.ลุมพินีและผลการชันสูตรจาก สน.ปทุมวันแล้ว ขณะนี้ได้เรียกพยานในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำแล้ว โดยได้เล่าให้ น.ส. อิสซาเบลลา ทราบถึงเวลาที่นาย ฟาบิโอเสียชีวิตและจุดที่เกิดเหตุ ตลอดจนขั้นตอนต่อไปที่ทาง DSI จะสอบปากคำนายแพทย์ที่ชันสูตรศพและผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเพื่อระบุว่าบาดแผล ที่เกิดขึ้นเกิดจากกระสุนหรือเป็นสะเก็ดระเบิดประเภทใด ก่อนที่จะสรุปผลและชี้แจงให้ญาติผู้เสียชีวิตทราบอย่างเป็นทางการในเวลาภาย ใน 3 สัปดาห์ สำหรับการดำเนินการสืบสวนพยานต่างๆ และสรุปคดีนั้น ซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด ขณะเดียวกัน น.ส. อิสซาเบลลา ชี้แจงว่า ตามรายงานที่สรุปถึงเวลาและสถานที่เกิดเหตุที่เจ้าหน้าที่ระบุนั้นคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง พร้อมทั้งได้มอบหลักฐานจากภาพคลิปวิดิโอที่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ถ่ายไว้ขณะ ที่นายฟาบิโอเสียชีวิตและนำไปลงในเว็บไซต์ยูทูปว์ เพื่อประกอบการสืบสวน พร้อมทั้งย้ำว่า ตนต้องการให้ติดตามตัวชายไทยในภาพที่เห็นหน้าอย่างชัดเจนซึ่งเป็นผู้ที่เอา กล้องถ่ายภาพของนายฟาบิโอ ไปทันทีที่เห็นว่าถูกยิงล้มลงก่อนที่จะช่วยลากร่างของนายไปกับช่างภาพอื่นๆ เพื่อส่งโรงพยาบาล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่รับว่าอาจจะใช้วิธีการประกาศตามหาหรือมอบรางวัลแก่ผู้ที่ แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งรับปากว่าจะติดต่อกับน.ส.อิสซาเบลลาเป็นระยะเพื่อรายงานผลการสืบสวน

ด้านชอว์น คริสปิน จากคณะกรรมการคุ้มครองผู้สื่อข่าว (Committee to Protect Journalists หรือ CPJ) วิพากษ์ว่า กรณีการเสียชีวิตของนายฮิโระ มูราโมโตะ ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น และนายฟาบิโอ โปเลนจินั้น จบลงที่การสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเชิงการเมือง แต่ไม่มีการสืบสวนสอบสวนที่จะนำคดีไปสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งเรียกร้องให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

ชอว์น คริสปินระบุด้วยว่า ถึงขณะนี้ แม้ว่าฝ่ายคนเสื้อแดงจะปฏิเสธว่าดำเนินการชุมนุมโดยไม่มีอาวุธและสันติวิธี แต่จากรายงานพิเศษที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้สื่อข่าวจัดทำขึ้นโดยรวบรวมสัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่บาดเจ็บและอยู่ในเหตุการณ์วันสลายการชุมนุม ก็มีหลักฐานแน่ชัดแล้วว่ากองกำลังของทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายรัฐบาลฝ่ายผู้ประท้วงนั้นต่างมีอาวุธหนัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือผู้ใช้อาวุธทั้งสองฝ่ายไม่มีใครต้องรับผิด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท