Skip to main content
sharethis

ครม.เห็นชอบ กม.ไม่เอาผิดอาญากับผู้นำอาวุธปืนมาคืนราชการ พร้อมไฟเขียวขึ้นเงินเดือน ขรก.ล่อใจสตาร์ทตามฝีมือ ส่วน ก.พ.ไฟเขียวให้ ขรก.อายุเกิน 60 ทำงานต่อได้ถ้ามีความจำเป็น อีกทั้งยังแต่งตั้งกรรมการเปิดเผยข่าวสาร 5 คณะ

 
ครม.ผ่าน กม.นิรโทษกรรมคนเอาปืนมาคืนทางการ
 
ไทยรัฐออนไลน์  รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค.53 นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ยกเว้นความผิดทางอาญาแก่ผู้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด หรือยุทธภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต มามอบให้แก่ทางราชการ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 
 
โดยสาระสำคัญร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว คือการยกเว้นความรับผิดทางอาญาเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด หรือยุทธภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตมามอบแก่ทางราชการ โดยที่รัฐจะไม่ดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง สิ่งเทียมอาวุธปืน และกฎหมายว่าด้วยการควบคุมยุทธภัณฑ์ หากนำสิ่งดังกล่าวมามอบแก่นายทะเบียนท้องที่ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ อย่างไรก็ตาม มิให้ใช้บังคับแก่ผู้กระทำความผิดที่ถูกจับกุมหรือตกเป็นผู้ต้องหาก่อนวันที่ พ.ร.บ.นี้ใช้บังคับ และอยู่ระหว่างการสอบสวนหรือคดียังไม่ถึงที่สุด ทั้งนี้ มอบให้รมว.กลาโหม รมว.มหาดไทย รักษาการร่วมกันตามพ.ร.บ.นี้ และให้มีอำนาจออกประกาศกระทรวงเพื่อปฏิบัติตาม พ.ร.บ.นี้ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของตน
 
 
ครม.ขึ้นเงินเดือน ขรก.กำหนดฐานใหม่เท่าเอกชน
 
เว็บไซต์คมชัดลึก  รายงานด้วยว่านายศุภชัย กล่าวว่า ครม.ได้เห็นชอบร่าง กฎสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน (ฉบับที่..) พ.ศ. ... ซึ่งในกฎดังกล่าว ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 50 วรรคสอง ของพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 โดยกฎ ก.พ.ดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ 1. ให้ผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส หรือเทียบเท่าระดับ 7 - 8 ได้รับเงินเดือนไม่เกิน 37,830 บาท หรือ ที่ก.พ.กำหนด สำหรับผู้ที่ได้รับเงินเดือนสูงนี้ ให้รับเงินเดือนตามที่รับอยู่
 
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า 2.ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ หรือเทียบเท่าระดับ 10 - 11 ให้ได้รับเงินเดือนไม่เกิน 67,560 บาท หรือ ที่ก.พ.กำหนด สำหรับผู้ที่ได้รับเงินเดือนสูงกว่านี้ ให้รับเงินเดือนตามที่ได้รับอยู่ และ 3.ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทสายงาน และระดับอื่นที่ ก.พ.กำหนดให้ได้รับเงินเดือนในอัตราที่ ก.พ.กำหนด
 
รองโฆษกสำนักนายกฯ แถลงด้วยว่า ครม.ได้เห็นชอบในหลักการเรื่องที่สำนักงาน ก.พ.เสนอให้มีการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการพลเรือนสามัญ เพื่อปรับฐานเงินเดือนของข้าราชการให้ทัดเทียมหรือใกล้เคียงกับภาคเอกชน และดึงข้าราชการที่มีความสามารถให้ทำงานให้กับหน่วยงานราชการ ทั้งนี้นายศุภชัย เปิดเผยภายหลังว่าหลังจากนี้ ทาง ก.พ.ต้องไปกำหนดหลักเกณฑ์การปรับฐานะเงินเดือนแรกเข้าของข้าราชการ โดยจะนำหลักเกณฑ์ของภาคเอกชนเป็นหลัก และพิจารณาฐานเงินเดือนให้เหมาะสมกับบุคคล ความสามารถและวุฒิการศึกษา เบื้องต้นข้าราชการที่บรรจุใหม่จะไม่ได้รับเงินเดือนที่เท่ากัน เช่น ผู้ที่จบจากสถาบันในต่างประเทศ มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาจะได้รับเงินเดือนแรกเข้าสูงกว่าผู้ที่จบจากสถาบันในประเทศ ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาเป็นต้น ทั้งนี้อัตราเงินเดือนแรกเข้าที่ไม่เท่ากันดังกล่าว จะต้องมีความต่างไม่เกินร้อยละ 10
 
รองโฆษกสำนักนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่าสำหรับการพิจารณาฐานเงินเดือนแรกเข้า ทาง ก.พ.ได้กำหนดให้ปรับหลักเกณฑ์ใหม่ทุกๆ ปี ซึ่งในปีแรกของการปรับฐานเงินเดือนนั้น ก.พ.เป็นผู้กำหนด และหลังจากนั้นจะให้แต่ละหน่วยงานเป็นผู้พิจารณา สำหรับเป้าหมายการปรับฐานะเงินเดือนดังกล่าวได้ตั้งเป้าว่าจะทำให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบประมาณเพื่อปรับฐานเงินเดือนแรกเข้าประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี ส่วนการปรับฐานเงินเดือนดังกล่าวกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.54
 
 
ก.พ.ไฟเขียวให้ ขรก.อายุเกิน 60 ทำงานต่อได้ถ้ามีความจำเป็น
 
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ครม.อนุมัติปรับบัญชีเงินเดือนตามค่าครองชีพให้มีผลในเดือน เมษายน 2554 รวมทั้งมีการปรับระบบการให้เงินเดือนข้าราชการที่บรรจุเป็นครั้งแรก โดยเพิ่มความยืดหยุ่นให้สามารถที่จะให้ค่าตอบแทนที่สามารถจะเทียบเคียงกับ ภาคเอกชนได้ หลักคือมีการปรับขึ้นเงินเดือนแรกบรรจุ และยังเปิดโอกาสให้เงินเดือนแรกบรรจุเป็นช่วง แทนที่จะเป็นอัตราที่ตายตัว เพราะฉะนั้นถ้าเป็นกรณีของผู้ที่ซึ่งมีความสามารถพิเศษ มีประสบการณ์ หรือเข้ามาในตำแหน่งวิชาชีพที่มีความขาดแคลน จะสามารถได้เงินเดือนเริ่มต้นที่สูงกว่าเงินเดือนเริ่มต้นขั้นต่ำ
 
นายกฯ กล่าวว่า จะมีการออกประกาศของ ก.พ.ว่า กรณีของข้าราชการซึ่งอายุ 60 ปี และทางหน่วยราชการมีความจำเป็นให้ทำงานต่อในบางตำแหน่งซึ่งไม่ได้ กำหนดไว้เป็นการทั่วไป เช่น ในบางสาขาที่เรากำหนดเป็นการทั่วไปแล้ว ก็สามารถจะต่ออายุราชการได้ แต่ต้องเป็นกรณีซึ่งมีเหตุผลที่ชัดเจนว่ามีการขาดแคลนอย่างไร โดยขณะนี้มีบุคคลอยู่ประมาณ 20 รายที่ขออยู่ ทั้งนี้ เป็นหลักการว่านอกจากสาขาซึ่งเคยประกาศไปแล้ว อาจจะสามารถขอได้เป็นบุคคล แต่จะไม่ใช่ตำแหน่งบริหาร
 
 
ครม.อนุมัติส่งทัพไทยร่วมปราบโจรสลัดโซมาเลีย
 
เนชั่นทันข่าว รายงานว่า นายศุภชัย แถลงด้วยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กองทัพเรือจัดหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดไปปฏิบัติงานในอ่าวเอเดน และชายฝั่งโซมาเลียร่วมกับกองกำลังผสมทางทะเล โดยจะส่งกำลังพลรวม 171 นาย ไปปฏิบัติงานตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.53 นี้ รวมระยะเวลาปฏิบัติภารกิจ 98 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่ไปทำหน้าที่ได้รับสิทธิ์นับเวลาราชการเป็นทวีคูณ ตามมาตรา 24 ของพระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญ พ.ศ.2494 รวมถึงสิทธิ์ในการพิจารณาบำเหน็จพิเศษในเวลาฉุกเฉิน พ.ศ.2529 นอกจากนั้นแล้วได้อนุมัติให้ สำนักงบประมาณ สนับสนุนงบประมาณเพื่อการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว เป็นเงินจำนวน 270 ล้านบาท
 
 
ครม.ไฟเขียวร่วมมือจีเอ็มเอส สร้างทางรถไฟ
 
เว็บไซต์ไทยรัฐออนไลน์ รายงานวันเดียวกัน (16 ส.ค.53) ว่านายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมระดับรมต. 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง และเอกสาร 6 ฉบับที่จะได้รับการอนุมัติในการประชุมรมต. 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง หรือจีเอ็มเอส ครั้งที่ 16 ในวันที่ 20 ส.ค.นี้ ที่ประเทศเวียดนาม โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมประชุม รวมทั้งเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สามารถปรับปรุงถ้อยคำในแถลงการณ์ร่วมได้ในกรณีที่ไม่ใช่การ เปลี่ยนแปลงสาระสำคัญในการหารือการประชุมคณะทำงานและการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส 
 
ทั้งนี้ ในสาระสำคัญของ 6 ฉบับที่จะได้รับการลงนามในครั้งนี้ได้ผ่านกระบวนการพิจารณาและความเห็นชอบ จากคณะทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้องและที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสจีเอ็มเอสแล้ว ประกอบด้วยกรอบยุทธศาสตร์การเชื่อมโยงโครงข่ายเส้นทางรถไฟในอนุภูมิภาคลุ่ม แม่น้ำโขง ซึ่งจะร่วมกันผลักดันให้มีการเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟในจีเอ็มเอส 1 เส้นทาง ภายใน 10 ปีและเพิ่มประสิทธิภาพในด้านอื่น ๆ ของการพัฒนารถไฟของประเทศ รวมถึงการประเมินปริมาณการขนส่ง ตันทุนค่าก่อสร้างและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ
 
นอกจากนี้ยังมีแผนปฏิบัติการ การอำนวยความสะดวกการค้าและการขนส่งข้ามพรมแดน ความช่วยเหลือด้านวิชาการเพื่อส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนเชื้อเพลิงสะอาดและ ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แผนการสนับสนุนความร่วมมือด้านการเกษตร (2554-2558) แผนงานหลักด้านสิ่งแวดล้อมระยะที่ 2 (2555-2559) รวมถึงยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการการพัฒนาแนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจตอนใต้
 
 
ครม.รับทราบการช่วยเหลือเหยื่อม็อบเสื้อแดง
 
เนชั่นทันข่าว รายงานว่านายวัชระแถลงมติครม.ว่า ครม.รับทราบรายงานความก้าวหน้าการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและประชาชนที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมทางการเมืองตามที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยฯ(คชส.) เสนอดังนี้ คชส.ได้จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยไปแล้ว 6 ครั้ง ผู้ได้รับความช่วยเหลือ 2,970 ราย วงเงิน 148,500,000 บาท และครั้งที่เจ็ดนั้นจะจ่ายให้แล้วเสร็จในวันที่ 27 ส.ค.จำนวน 3,061 ราย จำนวน 15,3050,000 บาท และมอบให้กทม.รับเรื่องขอความช่วยเหลือฯเฉพาะรายที่เพิ่งเข้าตรวจสอบพื้นที่ภายหลังได้และผู้ที่ร้องเรียนมาที่หมายเลข 1111 สำนักปลัดสำนักนายกฯเสนอคชส.ในการประชุมครั้งต่อไป 
 
 
ครม.อนุมัติเคลียร์หนี้โคล้านตัว แนะประนีประนอมมากกว่าฟ้อง
 
ด้านมติชนออนไลน์ รายงานนายวัชระ แถลงว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการแก้ไขปัญหาการฟ้องร้องเกษตรกรที่ลักลอบนำโคในโครงการโคล้านครอบครัว ไปจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 11,722 ตัว หลังจากที่ ครม.มีมติให้ยุบเลิกบริษัท ส่งเสริมธุรกิจเกษตรกรไทย จำกัด (สธท.) ไปตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2552 ภายใต้ข้อกำหนดที่ว่า หากเกษตรกรที่ชำระค่าเสียหายเกินจำนวนร้อยละ 50 ของราคาโค ไม่ต้องชำระค่าเสียหายส่วนที่เหลือ และจะไม่ถูกดำเนินคดีทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา ส่วนเกษตรกรที่ยังชำระค่าเสียหายไม่ครบร้อยละ 50 ของราคาโค หรือไม่ได้ชำระค่าเสียหายใดๆ หากนำค่าเสียหายมาชำระครบร้อยละ 50 ของราคาโค จะไม่ถูกดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญาเช่นเดียวกัน
 
"หากฟ้องคดีกับเกษตรกร จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 23,550 บาทต่อเกษตรกร 1 ราย หากเกษตรกรไม่ต่อสู้คดี จะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน แต่หากต่อสู้คดีจะใช้เวลาดำเนินการมากกว่า 1 ปีขึ้นไป การฟ้องร้องจึงไม่ใช่ทางออกที่ดี ควรใช้วิธีการประนีประนอมมากกว่า" นายวัชระ กล่าว
 
 
ครม.ตั้ง กก.เปิดเผยข่าวสาร 5 คณะ
เนชั่นทันข่าว รายงานว่า นพ.มารุต มัสยวานิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาต่างๆ 5 สาขา ได้แก่ 1.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาการแพทย์และสาธารณสุขจำนวน 5 คน ประกอบด้วย นายจรัส สุวรรณมาลา นายแสวง บุญเฉลิมวิภาส นายอาวุธ ศรีศุกรี นายบุญศรี มีวงศ์อุโฆษ และนพ.วิชัย โชควิวัฒน์ 2.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาต่างประเทศและความมั่นคงของประเทศ 4 คน ประกอบด้วย นายนรนิต เศรษฐบุตร นางจิราพร บุนนาค นายประวิทย์ สุขวิบูลย์ และนายพรชัย ด่านวัฒน์ 
 
3.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีอุตสาหกรรมการเกษตร 5 คน ประกอบด้วย นายเกษม จันทร์แก้ว นายไพศิษฐ์ พิพัฒนกุล นายสมชาติ โสภณรณฤทธิ์ นายสุนทร มณีสวัสดิ์ นายสันทัด โรจนสุนทร 4.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ 6 คน ประกอบด้วย นายชมเพลิน จันทร์เรืองเพ็ญ นายนิพนธ์ พัวพงศกร นายสหธน รัตนไพจิตร นายธวัชชัย สุวรรณพาณิช น.ส.ภัทรา สกุลไทย และนายวีระชัย เตชะวิจิตร์ 
 
5.คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย จำนวน 20 คน อาทิ พล.อ.วิชิต บุณยะวัฒน์ นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม นายมนตรี รูปสุวรรรณ นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ นางมัลลิกา คุณวัตน์ นายสมยศ เชื้อไทย เป็นต้น
 
 
ที่มา: มติชนออนไลน์ ไทยรัฐออนไลน์ เนชั่นทันข่าว และคมชัดลึกออนไลน์
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net