มุกดาหาร: 7 ผู้ต้องหาเสื้อแดงได้ประกัน อีก 19 คนไม่ได้ประกัน หนีอีกร่วม 70

ศาลมุกดาหารให้ประกัน 7 ผู้ต้องหาเสื้อแดงบุกศาลากลางหัวละแสนหลังถูกฝากขังกว่า 2 เดือน ลูกเมียอีก 19 ผู้ต้องหาเศร้า ไม่ได้ประกันคดีเผา นัดตรวจพยาน 30 สิงหาคม นี้

 

16 สิงหาคม 2553 เวลา 9.00 น. ที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร ศาลได้สอบคำให้การจำเลย คดีดำที่ 1459/2553 ที่พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหาร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจันที แสนลา กับพวกรวม 26 คนเป็นจำเลย  ในความผิดฐานร่วมกันวางเพลิงเผาโรงเรือนอันเป็นสาธารณสถานและสาธารณสมบัติของแผ่นดิน  ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น อันเป็นการรบกวนการครอบครองโดยปกติสุข ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้ หรือมีไว้เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ ซึ่งอัยการยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่ผ่านมา
 

เหตุเกิดเมื่อเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 จำเลยทั้งหมดกับพวกที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันกระทำความ ผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือ ได้บังอาจร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร อันเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในความครอบครองของนายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ผู้เสียหาย แล้วส่งเสียงร้องปลุกระดมทางการเมืองในบริเวณศาลากลางจังหวัด อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุข และโดยไม่มีเหตุอันสมควร

อีกทั้งภายหลังกระทำความผิดดังกล่าวแล้ว จำเลยที่ 1 ถึง 4 ที่ 6,7,10,12,15 ถึง 19 ที่ 21 ถึง 26 กับพวกที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้บังอาจร่วมกันวางเพลิงเผาอาคารศาลากลางจังหวัดมุกดาหารจำนวน 2 หลัง ซึ่งเป็นโรงเรือนอันเป็นสาธารณสถานและสาธารณสมบัติของแผ่นดิน จนศาลากลางดังกล่าวเสียหาย เสื่อมค่า และไร้ประโยชน์ คิดเป็นเงินจำนวน 85,000,000 บาท (แปดสิบห้าล้านบาท) แล้วได้บังอาจร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า ทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งรถยนต์ดับเพลิงจำนวน 4 คัน ของเทศบาลเมืองมุกดาหาร ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่ใช้ หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ จนทรัพย์ดังกล่าวเสียหาย รวมเป็นราคา 74,490 บาท

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยที่ 1 ถึง 15 ได้ ส่วนจำเลยที่ 16 ถึง 18 และที่ 21 ถึง 26 จับกุมได้เมื่อวันที่ 21,23,24 พฤษภาคม วันที่ 9,14,17,26 มิถุนายน และวันที่ 2,29 กรกฎาคม 2553 พร้อมกันนี้ได้ยึดรถสามล้อรับจ้าง (สกายแล็ป) จำนวน 1 คัน ซึ่งเป็นทรัพย์ที่จำเลยกับพวกใช้บรรทุกยางรถยนต์มาเป็นเชื้อเพลิงเผาศาลากลางดังกล่าว ส่วนจำเลยที่ 19 และ 20 เข้ามอบตัวต่อ พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนแล้ว  ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ คดีมีมูล

ระหว่างการสอบสวน จำเลยที่ 1 ถึง 18 และจำเลยที่ 21 ถึง 26 ถูกควบคุมตัวในเรือนจำมุกดาหารตลอดมา และได้รับการเบิกตัวมาสอบคำให้การ พร้อมกันกับจำเลยที่ 19 และ 20 ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยทั้ง 26 คนฟังจนเข้าใจ แล้วสอบถาม ปรากฎว่าจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ศาลจึงนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 30 สิงหาคม นี้ เวลา 09.00 น. ทั้งนี้ ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จำเลยที่ 5,8,9,11,13,14 และ 20 ซึ่งมีความผิดฐานบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นเพียงกรรมเดียว โดยใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัว 1 แสนบาท

อนึ่ง เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ต้องหา 1 คน ที่ให้การสารภาพในชั้นสอบสวน ไม่ปรากฎมีรายชื่อเป็นจำเลยในการยื่นฟ้องของอัยการ คาดว่าถูกกันตัวไว้เป็นพยานทั้งนี้ ในคดีดังกล่าวเจ้าพนักงานได้ออกหมายจับรวมทั้งสิ้น 97 คน ยังเหลือผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องอีกราว 70 คน

ในขณะที่บรรดาญาติของจำเลยที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว หลังถูกควบคุมตัวนาน 3 เดือนต่างพากันดีใจ ขณะที่ รายที่ไม่ได้รับการประกันตัวต่างก็ผิดหวัง และเดินทางออกจากศาลด้วยอาการหงอยเหงา เศร้าซึม

ญาติรายหนึ่งกล่าวว่า สงสัยว่าตำรวจใช้หลักฐานอะไรในการตั้งข้อหา เนื่องจากผู้ต้องหาที่ถูกจับในวันเกิดเหตุบางคนถูกตั้งข้อหาบุกรุก บางคนถูกตั้งข้อหาวางเพลิง ทั้งๆ ที่ถูกจับอยู่นอกรั้วศาลากลางเหมือนๆ กัน

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับภรรยาของจำเลยคนหนึ่งที่ไม่ได้รับการปล่อยตัว เธอกล่าวว่า ขณะนี้ตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน เธอตั้งความหวังไว้ว่าสามีจะได้รับการปล่อยตัวก่อนที่เธอจะคลอดลูก ไม่เช่นนั้นเธอก็จะลำบากมาก แม้ในขณะนี้ก็ลำบากมากอยู่แล้ว เนื่องจากเธอและแม่สามีต้องรับภาระในการหารายได้และเลี้ยงดูลูก 2 คน รวมทั้งพ่อสามีซึ่งป่วย อีกทั้งยังมีงวดรถสามล้ออีก 2 คัน ซ้ำตอนนี้รายได้จากการขายลูกชิ้นหน้าโรงเรียนอนุบาลมุกดาหารก็ลดลง เนื่องจากนโยบายจัดระเบียบแม่ค้าของทางผู้บริหารโรงเรียน ทำให้เธอต้องคอยหลบเทศกิจ ลูกค้าประจำจึงหดหายไป จะเปลี่ยนทำเลไปขายที่อื่นก็มีแม่ค้าลูกชิ้นอยู่เต็มไปหมดแล้ว หรือจะเปลี่ยนไปขายอย่างอื่นเธอก็ไม่มีความชำนาญ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท