Skip to main content
sharethis

คอเนอร์ เพอร์เซลล์ เดวิด ชาวออสเตรเลียที่ร่วมชุมนุมเสื้อแดง ระบุการต้องอยู่ในเรือนจำในเวลานานทำให้ตัดสินใจรับสารภาพ ศาลตัดสินลดโทษเหลือจำคุก 1 เดือน 15 วัน ปล่อยตัววันนี้ เจ้าตัวเปิดใจสิ่งที่ได้เห็นภายใต้ระบบการเมืองไทย คือ ความอบอุ่น ความกล้าหาญ และความจริงใจของประชาชน

20 ส.ค.53 ที่ศาลแขวงปทุมวัน เวลาประมาณ 9.00 น.มีการเบิกตัวนายคอเนอร์ เพอร์เซลล์ เดวิด สัญชาติออสเตรเลีย ผู้ต้องหาในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาขึ้นศาลเพื่อนัดหมายการสืบพยาน
ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ควบคุมตัวนายเพอร์เซลล์มาขออำนาจศาลฝากขังเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 พ.ค.53 โดยแจ้งข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยการขึ้นเวทีปราศรัยของ นปช. โดยนายเพอร์เซลล์ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาและถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาโดยตลอด

ทั้งนี้ เขายืนยันว่า การชุมนุม การแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานประชาชนทุกคน และเห็นว่าการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาลเป็นสิ่งที่ให้อำนาจกับรัฐบาลมากโดยไม่มีการตรวจสอบ ทั้งยังมีการเลือกปฏิบัติ เช่น กรณีที่มีการชุมนุมที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ระหว่างประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลับไม่มีใครโดนจับกุม นอกจากนี้การที่เขาขึ้นเวทีปราศรัยของ นปช.นั้นเป็นเพราะต้องการปกป้องประชาชนผู้มาชุมนุมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและคนแก่จากการฆาตรกรรมหมู่ เนื่องจากในวันที่ 10 เม.ย.เขาได้เห็นเหตุการณ์ที่มีการยิงประชาชน และเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยาง 2 นัด บริเวณเอวด้วย

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (20 ส.ค.) นายเพอร์เซลล์ได้ขอให้ศาลอธิบายสิทธิของผู้ต้องหาและกระบวนการพิจารณาคดี ซึ่งศาลได้อธิบายและเปิดโอกาสให้นายเพอร์เซลล์ซักถามจนเข้าใจ ท้ายที่สุด นายเพอร์เซลล์ตัดสินใจกลับคำให้การจากการปฏิเสธเป็นรับสารภาพโดยระบุว่าการหารือกับญาติและเพื่อนๆ รวมทั้งการต้องอยู่ในเรือนจำในเวลานานทำให้ตัดสินใจในทางดังกล่าว หลังจากนั้นผู้พิพากษาได้หารือกับองค์คณะประมาณ 30 นาที และกลับขึ้นบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดี

คำพิพากษาระบุว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.53 จำเลยกับพวกที่ยังหลบหนียังนำตัวมาฟ้องไม่ได้ ได้ร่วมกันชุมนุมมั่วสุมกับ นปช. กีดขวางการจราจรจนไม่อาจสัญจรได้ตามปกติ และกีดความทางเข้าออกสถานที่อันเป็นการกีดขวางการปฏิบัติงาน การประกอบกิจการหรือการใช้ชีวิตปกติสุขของประชาชนโดยทั่วไป และจำเลยได้ขึ้นเวทีปราศรัยกับกลุ่มผู้ชุมนุม เหตุเกิดที่แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน

ศาลพิจารณาคำฟ้องของโจทก์ประกอบกับคำรับสารภาพของจำเลยแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ศาลพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าในการร่วมกระทำผิดตามฟ้อง จำเลยมิได้มีหรือใช้อาวุธ และนอกจากกระทำผิดตามฟ้องแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีการกรทำอื่นอันส่อแสดงว่ามีความมุ่งหมายจะใช้ความรุนแรงถึงขนาดให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินประชาชน นับได้ว่าพฤติการณ์ยังไม่ถือเป็นความผิดร้ายแรง และเมื่อคำนึงว่ามูลเหตุการเข้าร่วมกระทำความผิด สืบเนื่องจากความเชื่อพื้นฐานอันเกิดจากความคิดที่จำเลยเข้าใจว่า การแสดงออกดังกล่าวเป็นการแสดงออกตามอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่สามารถกระทำได้ อันถือเป็นบริบทด้านความคิดในโลกเสรีประชาธิปไตยโดยทั่วไป ซึ่งย่อมมีความแตกต่างกันได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงมีเหตุอันควรปราณีลงโทษจำเลยสถานเบา แต่เพื่อให้หลาบจำไม่กระทำความผิดซ้ำอีกจึงไม่รอการลงโทษจำเลย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 (2) (4) มาตรา 18 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ลงโทษจำคุก 3 เดือน จำเลยรับสารภาพลดโทษลงกึ่งหนึ่งเหลือ 1 เดือน 15 วัน และเหตุที่จำเลยถูกคุมตัวตั้งแต่ 27 พ.ค.รวมเป็นเวลา 89 วันแล้ว ศาลจึงออกหมายปล่อยตัวในวันนี้

นายเพอร์เซลล์กล่าวภายหลังการพิจารณาคดีว่า แม้เขาจะมีประสบการณ์อันไม่พึงประสงค์หลายอย่างในเมืองไทย แต่สิ่งที่ได้เห็นภายใต้ระบบการเมืองของไทยคือ ความอบอุ่น ความกล้าหาญ และความจริงใจของประชาชนไทย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากสถานทูตออสเตรเลียระบุว่า ทางสถานทูตจะรับตัวเขานำส่ง ตม. เพื่อส่งตัวกลับประเทศภายใน 1-2 วันนี้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net