Skip to main content
sharethis

ตร.เค้นสอบ "ช่างซ่อมรองเท้า" เผยใช้ตู้โทรหน้า "ช่อง5" ยังไม่ฟันธงวิกลจริต เบื้องต้นพบทำเพียงคนเดียว เพราะความคึกคะนอง แจ้งข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว โดยการขู่เข็ญ มีโทษจำคุก 1 ปีปรับไม่เกิน 1 พันบาท ชั้น ตร.ค้านการประกันตัว ส่งศาลฝากขังพรุ่งนี้ 

 
วันนี้ (4 ต.ค.53) มติชนออนไลน์  รายงาน ว่า เมื่อเวลา 13.20 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เชิญผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุโทรศัพท์ไปข่มขู่วางระเบิดโรงพยาบาล ศิริราช เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา มาทำการสอบสวนเพื่อขยายผล คาดว่าจะแจ้งรายละเอียดทั้งหมดให้ทราบในเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดว่าเป็นคนวิกลจริตจริงหรือไม่ 
 
พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้มีอาชีพ เป็นช่างซ่อมรองเท้า จับได้ในกทม.เป็นการเชิญตัวมาสอบถาม ยังไม่สามารถควบคุมตัวได้ เนื่องจากต้องรอการขออนุมัติจับกุมจากศาล เบื้องต้นชายคนดังกล่าวก็รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุต่างๆ นั้น ต้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลเสียก่อน จึงจะสามารถเปิดเผยข้อมูลได้
 
“เบื้องต้นทราบว่า เป็นคนปกติ ไม่ได้เป็นคนวิกลจริตตามที่สงสัยกันแต่อย่างใด และมีอาชีพเป็นช่างซ่อมรองเท้า ส่วนพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่าเป็นคนร้าย ทางตำรวจก็มีครบถ้วน ทั้งเสื้อผ้าที่ใช้ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่โทรศัพท์ในตู้สาธารณะหน้า ททบ.5 ส่วนสาเหตุนั้น ต้องขอเรียนว่าไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เอาเป็นว่าคนร้ายรับสารภาพว่าก่อเหตุ” ผบก.น.1 กล่าว
 
ต่อ มาเวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1) พล.ต.ท.จักรทิพย์ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.ดินแดง แถลงข่าวว่า ฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง นำกำลงจับกุม นายสุริยันต์ หรือหมี กกเปือย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 6 ต.สงเปือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร พร้อมของกลางกางเกงยีนส์ สีน้ำเงิน 1 ตัว เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีแดง มีปัก “ความจริงวันนี้” 1 ตัว เสื้อยืดสีชมพู ปัก “ไม่ต้องจ้างกูมาเอง” 1 ตัว รองเท้าแตะ 1 คู่ และถุงพลาสติกสีเหลือง 1 ใบที่ถือในวันเกิดเหตุ จับได้ที่ร้านซ่อมรองเท้า ใกล้โรงพยาบาลพญาไท 2 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา โดยนำภาพผู้ต้องหามาแถลงไม่ได้นำตัวมาแถลงแต่อย่างใด
 
พล.ต.ท. จักรทิพย์กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุขึ้น ทาง พล.ต.ต.สุเมธ ได้กำชับ พล.ต.ต.วิชัย ให้ฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง ติดตามสืบสวนจับกุม พบว่าคนร้ายโทรศัพท์จากหน้าช่อง 5 โดยออกจากหองพักย่านสะพายควายเวลาประมาณ 07.00 น. จากนั้นโทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะ เวลาประมาร 08.00 น. ขณะกำลังจะไปทำงานที่ร้านซ่อมรองเท้าหน้าช่อง 5 โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 5 วัน โดยขณะนี้ก็อยู่ระหว่างสอบสวนอยู่ ถึงรายละเอียดต่างๆ โดยเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำคนเดียวไม่มีใครจ้างมา ทำเพราะความคึกคะนองเท่านั้น แต่ก็จะสอบสวนต่อไป โดยเท่าที่พูดคุยก็เป็นปกติดี
 
ถามว่าผู้ต้องหามี ความภักดีต่อสถาบันหรือไม่ พล.ต.ท.จักรทิพย์ตอบว่า เท่าที่ถามก็มี แต่น่าจะเป็นเพราะอารมณ์พาไปมากกว่า เพราะชื่นชอบพรรคการเมืองแห่งหนึ่ง และที่โทรไปที่โรงพยาบาลศิริราช ก็เนื่องจากเป็นสถานที่สำคัญไม่ได้คิดอะไร โดยก็ถามว่าก่อนทำไปดูหนังอะไรมาหรือเปล่า ก็บอกว่าเมื่อคืนดูหนังฝรั่งมาเรื่องหนึ่ง ซึ่งฝากไปถึงประชาชนทั่วไปว่าทำแบบนี้ไม่เป็นผลดี ทุกวันนี้เทคโนโลยี กล้องวงจรปิดเยอะ บางครั้งประชาชนอาจคาดไม่ถึงว่าเจ้าหน้าที่จะตามจับได้ เพราะฉะนั้นอย่าทำดีกว่า
 
ด้านพล.ต.ต.วิชัยกล่าวว่า ที่ไม่ได้นำผู้ต้องหามาแถลงเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ อาจกระทบต่อความรู้สึก และก็กำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตามเบื้องต้นผู้ต้องหาทำเพียงคนเดียว และทำไปเพราะความคึกคะนอง ที่ผ่านมาก็ไม่ได้หลบหนีแต่หยุดวันเสาร์-อาทิตย์จึงเพิ่งตามจับได้ โดยได้แจ้งข้อหาว่าทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ มีโทษจำคุก 1 ปีปรับไม่เกิน 1 พันบาท ซึ่งในชั้นนี้คัดค้านการประกันตัว และจะส่งฝากขังต่อศาลในวันที่ 5 ตุลาคมนี้ สำหรับสาเหตุที่ทำก็เพราะไม่พอใจพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง และยอมรับว่าเคยร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงการชุมนุมที่ผ่านมา
 
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น พล.ต.ท.จักรทิพย์ ได้มอบเงินสดจำนวน 20,000 บาท ให้กับ พ.ต.อ.ชาตรี เพื่อเป็นกำลังใจให้ลูกน้องและขอบคุณที่ตามจับคนร้ายได้ โดยเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ก็ได้มอบเงินกว่า 150,000 บาท ให้กับเจ้าหน้าที่ บก.สส. บช.น. ที่ตามจับคนร้ายคดีปล้นรถขนเงินธนาคารได้ด้วย
 
 
 
มทภ.3ส่งทหารสืบทางลับกรณีจับนักรบแดงที่เชียงใหม่
 
เนชั่นทันข่าว  รายงาน ด้วยว่า วันนี้ที่กองบัญชาการกองทัพภาค 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้มีพิธีรับ-ส่งหน้าที่แม่ทัพภาค 3 คนใหม่ ระหว่าง พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก และอดีตแม่ทัพภาค 3 กับ พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาค 3 เริ่มจากทำพิธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถและสมเด็จพระสุพรรณกัลยา จากนั้นได้กระทำพิธีลงนามเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ และพิธีรับมอบหน้าที่บริเวณลานสโมสรบันเทิงทัพ โดยมีทหารในสังกัดตั้งแถวรับส่งหน้าที่แม่ทัพภาค 3 คนใหม่ แต่ไม่มีการสวนสนามของบรรดาเหล่าทหารทุกกองพันทุกครั้ง
 
พล.ท.วรรณ ทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาค 3 เปิดเผยว่า นโยบายเร่งด่วนมีอยู่ 4 ประการคือ 1.สกัดกั้นการปราบปราบยาเสพติด โดยเฉพาะแนวตะเข็บชายแดนไม่ให้ทะลักเข้ามา 2.ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ เร่งทำฝายชะลอน้ำและปราบปรามผู้บุกรุกทำลายป่า 3.สกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 4.ทำความเข้าใจกับมวลชน เหตุการณ์ 17 เมษายนที่ผ่านมา เพราะล่าสุดทราบว่ามีผู้ไม่หวังดีสร้างความไม่สงบในพื้นที่ ไม่หวังดีต่อสถาบัน 
 
ส่วนกรณีจับนักรบแดง 11 คน ที่ภูฟ้ารีสอร์ท จ.เชียงใหม่ ได้ส่งหน่วยข่าวทหารเข้าไปสืบในทางลับให้แน่ชัดว่ามีการฝึกจริงหรือไม่ เพราะยังไม่เชื่อว่าเป็นการสร้างภาพ หรือสร้างสถานการณ์ จะรอผลการสืบสวนในทางลับ เบื้องลึกถึงการออกมามอบตัวครั้งนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่ฟันธงสาเหตุที่แท้จริง เพราะตามสายข่าวระบุว่า มีแกนนำเสื้อแดงระดับหัวกระทิ ”เชียงใหม่ 51” ซึ่งหนีคดีหมายจับ ออกมาจากกัมพูชา และเข้ามาเคลื่อนไหวเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
 
ที่มา: มติชนออนไลน์, เนชั่นทันข่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net