Skip to main content
sharethis

ครม.มีมติต่อเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 'กรุงเทพ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ' อีก 3 เดือน ตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นผู้อำนวยการ ศอฉ. แทน สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ลาออกไปลงเลือกตั้งซ่อม

(5 ต.ค.53) นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ต่อเวลาการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 4 จังหวัดออกไปอีก 3 เดือน จากที่จะครบกำหนดในวันที่ 6 ต.ค.53 ประกอบด้วย กรุงเทพฯ, นนทบุรี, ปทุมธานี และสมุทรปราการ เนื่องจากเหตุผลในการรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ ซึ่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้เสนอรายงานดังกล่าวมายังที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้รับทราบ

นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสนอแต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม เป็นผู้อำนวยการ ศอฉ. แทนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงที่ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ไปลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.สุราษฎร์ธานี พร้อมทั้งรับทราบการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นรอง ผอ.ศอฉ. แทน พล.อ.ประวิตร และแต่งตั้งนายเฉียว อยู่สีมารักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการ ศอฉ. ด้วย

ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2553 ครม. ได้มีมติประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินใน กทม. และปริมณฑล ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 และมีมติจัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยมีวัตถุประสงค์ ได้แก่ 1.คืนความเป็นปกติสุขโดยเฉพาะพื้นที่ต่างๆ ให้ชาวกรุงเทพฯ 2.ระงับยับยั้งการเผยแพร่บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร 3.การประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้เพื่อสามารถดำเนินคดีได้กับแกนนำ และ 4.ให้มาตรการระงับเหตุ เช่น ก่อวินาศกรรม และเหตุอื่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net