Skip to main content
sharethis

โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรี, สมัชชาสังคมก้าวหน้า และพรรคแนวร่วมสังคมประชาธิปไตย ชุมนุมคัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่หน้าศาลากลางนนทบุรี

 

 

 

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้มีนักกิจกรรมประมาณ 20 ประกอบด้วย โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรี สมาชิกสมัชชาสังคมก้าวหน้า พรรคแนวร่วมสังคมประชาธิปไตยได้ชุมนุมคัดค้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่หน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี และต่อด้วยหน้าห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน รวมถึงได้แจกแถลงการณ์กับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่ 9.30-11.30 น.
 

 

แถลงการณ์

หยุดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คืนเสรีภาพให้ประชาชนเดี๋ยวนี้ !

 

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2553 รัฐบาลมีมติให้ขยายเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในเขตจังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ไปอีก 3 เดือน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของภาครัฐที่จะกำราบควบคุมขบวนการประชาชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตย ภายใต้การรับรองของกฎหมายฉบับนี้ เราผู้รักประชาธิปไตยขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข และคืนเสรีภาพในการดำรงชีพตามวิถีประชาธิปไตย ด้วยเหตุผล 3 ประการ ดังนี้

 

ประการที่ 1 ความไร้เหตุผลของการบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากข้ออ้างของรัฐบาลและศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)ว่า การบังคับใช้มีวัตถุประสงค์เพื่อคืนความสงบเรียบร้อยของสังคมและระงับเหตุวินาศกรรมในพื้นที่ต่างๆ จะเห็นได้ว่า นับตั้งแต่เหตุการณ์สังหารผู้ชุมนุม 10 เมษายนและ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา รวมทั้งการก่อวินาศกรรมหลายครั้ง เจ้าหน้าที่รัฐมักกล่าวอ้างว่า มีชายชุดดำหรือมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายหรือมีผู้ก่อการร้ายเข้ามาสร้างสถานการณ์รุนแรงและแทรกแซงการชุมนุม แต่กลับนำกองกำลังนับหมื่นๆ กระชับวงล้อมและสลายการชุมนุมของประชาชนในที่สุด โดยหลีกเลี่ยงการใช้กฎหมายปรกติในการจัดการกับผู้กระทำผิดตามที่ตนกล่าวอ้าง จึงทำให้กฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไร้ซึ่งเหตุผล และแฝงเร้นเจตนาของการสร้างบรรยากาศแห่งความกลัว ความเสี่ยง การไล่ล่าจับกุมแกนนำด้วยข้อหาก่อการร้าย รวมไปถึงการสร้างความไม่ปรกติสุขในการทำมาหากินของประชาชนทั่วไป

 

ประการที่ 2 การปัดความรับผิดชอบของรัฐบาลและศอฉ. ในการสังหารประชาชน เป็นไปได้หรือที่มีการกล่าวอ้างว่า คนเสื้อแดงสังหารกันเอง ในขณะที่พวกเขาถูกกระชับวงล้อมด้วยกองกำลังทหารติดอาวุธนับหมื่นๆ คน การสั่งการให้ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบต่อประชาชนของรัฐบาลและศอฉ. เป็นการก่ออาชญากรรมต่อประชาชน อันเป็นการกระทำที่คล้ายคลึงกับเหตุการณ์ 6 ตุลามหาวิปโยค ในปี พ.ศ. 2519 ที่ล้อมปราบนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยข้อหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นคนต่างด้าว โดยเจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มอันธพาล กระทิงแดง นวพล และลูกเสือชาวบ้าน อย่างทารุณ ทำให้นักศึกษาเสียชีวิตจำนวนนับร้อยคน บาดเจ็บสูญหายจำนวนมาก บางส่วนถูกจับคุมขังและหลบหนีเข้าป่า ทั้งในท้ายสุดก็ไม่สามารถนำคนผิดมาลงโทษได้

 

ประการที่ 3 หยุดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ธาตุแท้ของผู้มีอำนาจรัฐและทุนในมือขณะนี้ คือความป่าเถื่อนต่อประชาชนผู้ที่เห็นแย้งจากรัฐ โดยไม่ยอมเรียนรู้และปรับตัวเข้าหาประชาชน ซ้ำยังต้องการให้ประชาชนลืมเหตุการณ์สังหารผู้ชุมนุม 10 เมษายนและ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมาเหมือนกับเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ด้วยวาทกรรมความสามัคคีภายใต้อุดมการณ์เดียวคือชาตินิยม และด้วยวาระปฏิรูปประเทศไทยที่พยายามหาทางให้รัฐบาลมีอำนาจต่อไป

 

ขอย้ำว่า เรา โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรีและเครือข่ายแนวร่วม ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการบังคับใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อคืนความปรกติของสังคมโดยรวม และขอเรียกร้องให้นำคนที่สังหารประชาชนมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจัง

 

 

 

                                    โครงข่ายภาคประชาสังคมนนทบุรีและเครือข่ายแนวร่วม

แถลงเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2553 หน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรี

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net