Skip to main content
sharethis

สนธิ จวกนายกรัฐมนตรี ฉวยโอกาสน้ำท่วมนำเรื่องแบ่งปันเขตแดนไทย-กัมพูชาเข้าสภา ชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตยร่อนจะหมายผ่านเครือข่ายและสื่อมวลชนให้ออกมาแสดงพลังคัดค้านการในวันอังคารที่ 2 พ.ย. ที่จะถึง อ้างไทยจะเสียดินแดนมหาศาล

โดยจดหมายเรียกร้องให้ออกมาแสดงพลังคัดค้านมติคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา มีข้อความว่า “ตามที่รัฐบาลมีความพยายามที่จะให้รัฐสภาให้การรับรองบันทึกการประชุมคณะกรรมการร่วมชายแดนไทย-กัมพูชาโดยได้ลักไก่นำเข้าพิจารณาและผลักดันให้รัฐสภารับรองเมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมา โดยผลที่เกิดขึ้นคือ “มีผลให้รัฐบาลไทยให้คำรับรอง และยอมรับแผนที่มาตรส่วน 1:200000 ที่จัดทำโดยฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียว แทนข้อตกลงร่วมไทย-ฝรั่งเศส ที่ให้ใช้สันปันน้ำเป็นเส้นเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา อันจะเป็นความสุ่มเสี่ยงที่ทำให้ไทยอาจเสียดินแดงให้แก่กัมพูชานับล้านไร่” โดยจะมีการพิจารณาในรัฐสภาอีกครั้งในเช้าวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน 2553 “เพราะเมื่อคราวที่แล้วไม่ครบองค์ประชุม” ในการนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีมติคัดค้าน และจะร่วมกันแสดงความเห็นให้สมาชิกรัฐสภาตระหนักในผลที่จะเกิดกับประเทศ โดยสูญเสียดินแดนจำนวนมหาศาล

“จึงเรียนให้ท่านสมาชิกได้พิจารณาเห็นด้วย โปรดร่วมกันแสดงพลัง ที่บริเวณหน้ารัฐสภาในช่วงเช้าวันที่ 2 พฤศจิกายน 2553 ให้มากที่สุด” ลงชื่อ นายสมเกียรติ หอมลออ ประธานชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย

ด้านเว็บไซต์เมเนเจอร์ออนไลน์รายงานการวิเคราะห์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งกล่าวในรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ทาง เอเอสทีวี คืนวันที่ 29 ต.ค. กรณีที่รัฐบาลเสนอวาระการพิจารณาบันทึกการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนไทย(เจ บีซี)ไทย-กัมพูชา 3 ฉบับ เข้าสู่ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันที่ 2 พ.ย.นี้ว่า หากรัฐสภามีมติรับรองบันทึกการประชุมเจบีซีดังกล่าวจะทำให้ไทยสูญเสียดิน แดนอย่างแน่นอน และเป็นการสูญเสียในยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เหมือนที่เคยสูญเสียช่วงหลังปี 2540 ที่ให้ฝรั่งเข้ามาซื้อทรัพย์สินราคาถูก รวมทั้งก่อนหน้านั้นที่เปิดให้มีบีไอบีเอฟ

นายสนธิ กล่าวต่อว่า บันทึกการประชุมเจบีซีที่สภาจะลงมติรับรองในวันที่ 2 นี้ จัดทำขึ้นตามเอ็มโอยูปี 2543 ซึ่งมีการลงนามในยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเช่นกัน โดยขณะนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็น รมช.ต่างประเทศ ซึ่งนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีขณะนั้นก็ยอมลงนามตามที่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศเสนอมา ทั้งที่ในเรื่องเขตแดนนั้น หากแต่ละประเทศจะยืนยันเขตแดนของตัวเองตามหลักฐานที่แต่ฝ่ายมีอยู่แม้จะตกลง กันไม่ได้เป็น 50 ปี 100 ปีก็ไม่เป็นไร แต่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศของไทยขี้ขลาดตาขาว หลังจากที่เราเสียตัวปราสาทให้กัมพูชาเมื่อปี 2505 จึงเอาตัวรอด ไม่กล้าปกป้องแผนดินของตัวเอง ยิ่งในยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มักจะทำตามที่ข้าราชการประจำเสนอมา พรรคประชาธิปัตย์ก็ปล่อยให้ทำไป ไม่กล้าเข้าไปแทรกแซง เมื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นนายกฯ ก็มักจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ

นายสนธิระบุว่า รัฐบาลได้ฉวยโอกาสน้ำท่วมนำเรื่องที่ตัวเองขายชาติเข้าสภา โดยในวันที่ 26 ต.ค.ที่วาระนี้เข้าสภาครั้งแรก โฆษกรัฐบาลกัมพูชาก็บอวก่นายฮุนเซนจะไม่เอาเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชาเข้า หารือกับนายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาติ เพราะฝ่ายไทยรับปากว่ารัฐสภาไทยจะผ่านบันทุกการประชุมเจบีซีให้ จึงไม่ทราบว่าใครไปตกลงขายชาติเอาไว้ล่วงหน้า ฝ่ายเขมรจึงรู้ว่าสภาไทยจะผ่านให้ ใครเป็นคนไปรับปาก นายอภิสิทธิ์หรือนายกษิต

นายสนธิ กล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์เคยพูดกับพันธมิตรฯ ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง เมื่อวันที่ 7 ส.ค.และพูดระหว่างการออกโทรทัศน์ช่อง 11 กับตัวแทนเครือข่ายประชาชนเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ว่าจะยึดหลักสันปันน้ำ และยอมรับว่าการที่คนกัมพูชาเข้าไปอยู่บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร เป็นการละเมิดเอ็มโอยู. 2543 ซึ่งรัฐบาลจะใช้มาตรการทั้งทางการทูตและการทหารผลัดกันคนกัมพูชาออกไป แต่จนบัดนี้ผ่านมา 3 เดือนแล้วนายอภิสิทธิ์ยังไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อผลักดันคนกัมพูชาออกไปเลย ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แสดงว่าที่นายอภิสิทธิ์พูดวันนั้นแค่โกหกใช่หรือไม่ และถ้าวันนี้ยังยึดหลักสันปันน้ำอยู่ นายอภิสิทธิ์ต้องสั่งห้ามเจบีซีไม่ไปทำเขตแดนใหม่ในบริเวณที่ไทยกับฝรั่งเศส ได้ตกลงกันไว้แล้ว และถ้าบอกว่ามีการละเมิดเอ็มโอยู 2543 ก็จะต้องยกเลิก แต่เหตุที่ไม่ยกเลิก ก็เพราะเป็นผลงานที่พรรคประชาธิปัตย์เคยทำไว้ เป็นความพยายามรักษาพรรคเอาไว้ โดยยอมให้ประเทศเสียดินแดน

นายสนธิย้ำว่า ถ้าให้บันทึกการประชุมเจบีซีผ่านสภา จะมีผลให้ไทยเสียดินแดนอย่างแน่นอน นายอภิสิทธิ์ นายกษิต ส.ส.ส.ว.คนไหนก็ตามที่ลงมติ รวมทั้งนายวศิน ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง จะต้องเข้าข่ายเป็นคนขายชาติอย่างแน่นอน ดังนั้น พันธมิตรฯ จะต้องแสดงพลังในวันที่ 2 พ.ย.นี้ เพื่อปกป้องแผ่นดินไทย ขอให้พี่น้องมาร่วมชุมนุมกันตั้งแต่เช้า แต่จะไม่ปิดทางเข้าออกรัฐสภา แต่เราจะแสดงพลังให้เขาเห็นว่าเราไม่เห็นด้วย เพราะเขาหาว่าเราไม่มีน้ำยา

“ปัญหาไม่ใช่เราไม่มีน้ำยา ปัญหาคือเราเป็นคนมีเหตุผล เห็นเขาตั้งใจทำงานเราก็พร้อมที่จะหาทางออกให้เขา แต่การที่เขาเอาเจบีซีเข้าสภา แสดงว่าเขาตระบัดสัตย์ เพราะเนื้อหาเจบีซีนั้นเป็นเนื้อหาที่มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาพูดหมด ที่คุณพูดเอาไว้ไง ว่าคุณยึดถือสันปันน้ำ และวันนี้เจบีซีมายึดถือสันปันน้ำหรือเปล่าล่ะ

“กระทรวงการต่างประเทศมันเป็นหนึ่งกระทรวงภายใต้รัฐบาล คุณสั่งไม่ได้เชียวหรือ คุณอภิสิทธ์ คุณกษิต ภิรมย์ คุณบอกเขาไมได้เหรอว่าผมไม่เอาแบบนี้ คุณดูรายละเอียดเจบีซีซิคุณต้องรู้ คุณต้องอ่านรายละเอียด ... คุณปล่อยเลยตามเลย เพราะคุณเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น คุณต้องการลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ถึงชาติบ้านเมืองจะเสียดินแดนไปก็ช่างมัน ...ผมเสียดาย ผมเสียใจ ผมสนับสนุนคุณมาตลอดด้วยความสัตย์จริง หลายต่อหลายอย่าง ผมเห็นว่าควรให้โอกาสคุณ เกือบสองปีที่ผมอยู่เฉยๆ เพราะผมคิดว่าให้คุณทำ ทั้งๆ ที่หลายต่อหลายครั้งผมไม่สบายใจและผมหงุดหงิดในความเป็นคุณ”นายสนธิกล่าว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net