Skip to main content
sharethis

การรวมตัว ครั้งแรกของกลุ่มช่างภาพข่าว และช่างภาพอิสระในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อให้เกิดการจัด “นิทรรศการภาพข่าวจังหวัดชายแดนภาคใต้” เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 – 31ตุลาคม 2553 แม้ว่าในงานจะมีฝนตก แต่ผู้คนยังให้ความสนใจในการเข้าร่วมชมภาพในงาน และไม่หวั่นที่จะจัดเป็นรอบที่สองในต้นเดือนพฤศจิกายน

นายปิยศักดิ์ อู่ทรัพย์ ผู้จัดงานนิทรรศการภาพถ่ายชายแดนใต้ และผู้ประสานงานเครือข่ายช่างภาพข่าวชายแดนใต้ (Deep South Photojournalism : DSP) ได้กล่าวถึงการจัดงานนิทรรศการภาพถ่ายในครั้งนี้ว่า เป็นการจัดงานรวมกันของกลุ่มช่างภาพชายแดนใต้ร่วมกับช่างภาพอิสระ และสื่อใหม่ที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจัดขึ้น ณ สนามพระเศวตสุรคชาธาร(สนามโรงพิธีช้างเผือก) อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเวลา 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 – 31 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา ซึ่งภาพถ่ายในงานจะแสดงภาพถ่ายเกี่ยวกับวิถีชีวิต และภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 56 รูป ส่วนใหญ่รูปที่มาแสดงในครั้งนี้จะเป็นภาพที่มาจากช่างภาพในพื้นที่

ปิยศักดิ์ อู่ทรัพย์

นายปิยศักดิ์ ได้กล่าวถึงจุดประสงค์ในการจัดงานในครั้งนี้ก็เพื่อกระตุ้นความรู้สึกและ เพิ่มจินตนาการของคนที่มาชมงานครั้งนี้และสามารถเป็นอีกหนึ่งแรงเพื่อลุก ขึ้นมาจัดระเบียบสังคมชายแดนใต้ให้กลับมาคงเป็นเหมือนเดิม และสามารถร่วมกันออกแบบการสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นในสภาวะความขัดแย้งได้

Junyung นิทรรศการภาพถ่ายชายแดนใต้(ฮาบิบ)

บรรยากาศภายในงานมีการแสดงรูปภาพที่หลาหลาย เช่น ภาพผลงาน ชื่อ Ju Nyung (แบกของ) ถ่ายโดยนายฮาบิบ กูนา(INSouth) ตั้งใจที่จะสื่อถึงบุคคลที่อยู่ในภาพนี้ว่า “ผู้สูงอายุในจังหวัดชายแดนใต้ยังคงต้องทำงานหนัก ทั้งๆ ที่ในวัยนี้ควรจะอยู่อย่างสบายๆ ปล่อยให้ลูกหลานเป็นผู้ประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงคนสูงอายุดีกว่าหรือว่ารัฐไม่ มีสวัสดิการให้หรือดูแลคนสูงอายุไม่เท่าเทียมกัน”

ความรู้สึกในขณะที่ถ่ายภาพนี้จะกระทบกับความรู้สึกของตัวเองที่เห็นคนสูง อายุต้องมาทำงานหนักในช่วงบั้นปลายของชีวิต ซึ่งทำให้นายฮาบิบ ต้องถ่ายภาพนี้เก็บไว้เพื่ออธิบายแทนคำพูด

กลับบ้าน นิทรรศการภาพถ่ายชายแดนใต้(ปิยศักดิ์)

อีกผลงานหนึ่งที่มีชื่อภาพว่า “กลับบ้าน” ซึ่งเป็นผลงานของ นายปิยศักดิ์ อู่ทรัพย์ (ผู้ประสานงานเครือข่ายช่างภาพข่าวชายแดนใต้) สถานที่ภายในภาพเป็นบนถนนสาย 42 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นช่างภาพนอกพื้นที่ที่ได้ร่วมแสดงภาพในครั้งนี้ นายปิยศักดิ์ ได้สื่อถึงรูปภาพนี้ว่าเป็นภาพของคนมลายูมุสลิมซึ่งอัดแน่นบนรถกระบะ แต่โดยภาพแล้วจะสื่อให้เห็นว่า ภาพของความแออัดของคนที่อยู่ข้างหลังรถ เป็นภาพปกติที่คนในพื้นที่มักจะเห็นเมื่อมีงานสำคัญๆ เช่น งานแต่งงาน และคนมักจะมองว่าคนในพื้นที่มีความเอื้ออารีต่อกัน ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่นายปิยศักดิ์ ได้อธิบายในอีกมุมหนึ่งว่า ภาพนี้สะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจ และระบบการขนส่งของรัฐที่ไม่ค่อยอำนวยความสะดวกให้ของคนในพื้นที่ได้ทำให้ ประชาชนต้องจัดการระบบขนส่งด้วยตัวเอง

นายปิยศักดิ์ ได้กล่าวอีกว่าหากว่ารัฐสามารถพัฒนา และ ส่งเสริมเศรษฐกิจและอำนวยความสะดวกในระบบขนส่งให้ดีขึ้นเราก็จะไม่เห็นภาพ ความแออัดของผู้โดยสารที่ต้องนั่งเบียดกันอยู่ในกระบะหลังแน่นอน

แต่ในความคิดของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่ได้เข้ามาร่วมชมงาน ได้ให้ความคิดเห็นเมื่อดูภาพนี้ว่า รู้สึกอยากกลับบ้าน คิดถึง พ่อแม่ เพราะไม่ได้กลับมานานแล้ว

“เมื่อดูภาพแล้วก็จะชินตาเพราะเป็นภาพที่เราได้เห็นประจำอยู่แล้วในพื้นที่ แต่ถ้าดูให้ดีแล้วจะเห็นรูปที่แม่บรรจงหอมแก้มลูกแล้วรู้สึกถึงความรักของ แม่ที่มีต่อลูกทันที”

มองหา นิทรรศการภาพถ่ายชายแดนใต้(Bree SPM)

อีกหนึ่งผลงานเป็นของ นายมาหะมะสาบรี เจ๊ะเล๊าะ (Southern Peace Media ) ซึ่งมีชื่อว่า “มองหา” สถานที่ถ่าย มัสยิดบ้านไอร์ปาแย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ที่ถูกคนร้ายกราดยิงในมัสยิดขณะที่ชาวบ้านกำลังทำพิธีละหมาด ซึ่งเป็นภาพรอยกระสุนของคนร้ายที่ถูกประตูทางเข้ามัสยิด

นายมาหะมะสาบรี ได้อธิบายภาพนี้ว่า เป็นภาพที่เด็กดูรอยกระสุนที่ประตู เปรียบเสมือนว่าเขากำลังมองหาบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งได้สื่อถึงชาวบ้านไอร์ปาแย ว่า พวกเขากำลังมองหาคำตอบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความเป็นธรรม และข้อสรุปที่ชาวบ้านเรียกร้องจากรัฐอยู่ตลอดเวลาว่าคนร้ายที่ก่อเหตุอยู่ ที่ไหน โดยที่ชาวบ้านไอร์ปาแยยังไม่ได้ทำการเปลี่ยนประตูกระจกทางเข้ามัสยิดที่เป็น รอยกระสุนที่คนร้ายก่อเหตุเพื่อเป็นการระลึกอยู่เสมอว่ารอยร้าวของชาวบ้าน ไอร์ปาแยยังคงไม่จางหายจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม จึงเป็นที่มาของชื่อภาพว่า “มองหา”

ในงานยังมีภาพถ่ายที่นำมาแสดงอีกกว่า 56 ภาพ ที่นำมาแสดงในงานนี้ ซึ่งแต่ละภาพได้สะท้อนเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นใน พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ชม และหลังจากนิทรรศการภาพถ่ายชายแดนใต้ที่จัดขึ้นที่สนามพระเศวตสุ รคชาธาร(สนามโรงพิธีช้างเผือก) จะขนย้ายไปแสดงที่ T.K.Park (ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา) ในวันที่ 2 -7 พ.ย. 2553 เวลา 9.00 – 19.00 น.

ที่มา: BungarayaNews
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net