Skip to main content
sharethis

คำร้องทุกข์กล่าวโทษของ 3 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระบุ หนังสือพิมพ์มติชนนำเสนอข่าวต่อสาธารณชนเป็นระยะๆในลักษณะรุกไล่ กดดัน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนโดยปกติ เพื่อให้สาธารณชนหลงเชื่อว่าข้อความและเสียงในคลิปวิดีโอเป็นความจริง

เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงาน กรณีนายจรูญ อินทจาร นายสุพจน์ ไข่มุกด์  และนายเฉลิมพล เอกอุรุ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้มอบอำนาจให้นายณพล อรุณอาศิรกุล ทนายความผู้รับมอบอำนาจ 3 ตุลาการเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกองกำกับการ1(กก.1) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนเพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้ที่นำคลิปวิดีโอชุดที่ 3 ที่ใช้ชื่อ "คำสารภาพของเด็กฝากเจ้าหน้าที่ระดับสูงศาลรัฐธรรมนูญ" ไปเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูบเป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 นั้น

ในคำร้องทุกข์กล่าวโทษที่นายณพลได้ยื่นต่อพนักงานสอบสวนนั้นทาง3 ตุลาการในฐานะผู้เสียหายให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอาญาตามกฎหมายจนถึงที่สุด โดยผู้เสียหายทั้ง 3 คนประสงค์ที่จะร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ

1.นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ

2.กลุ่มบุคคล 

และ3.หนังสือพิมพ์มติชนกับพวก

ทั้งนี้เหตุที่เชื่อว่าหนังสือพิมพ์มติชนมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ด้วย เนื่องจากวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมาต่อเนื่องทั้งเวลากลางวันและกลางคืน เว็บไซต์มติชนชื่อ "Matichon online" ได้นำคลิปวิดีโอที่ผ่านการตัดต่อภาพและเสียงอันเป็นเท็จมาเผยแพร่ โดยถอดข้อความในคลิปวิดีโอดังกล่าวเป็นตัวอักษรและระบุชื่อย่อของผู้เสียง ทั้งสามว่า จ. ฉ. และส. โดยย่อหน้าในเว็บไซต์มติชนก่อนที่ระบุข้อความตามถอดเทปจากข้อความได้มีการ จัดทำระบบเชื้อเชิญให้บุคคลทั่วไปมาเปิดคลิปดังกล่าวได้   ต่อมาวันที่ 9 พฤศจิกายน หนังสือพิมพ์มติชนได้เผยแพร่ข้อความผ่านเว็บไซต์ว่า

Matichon Online ระบุชื่ออันกับผู้เสียหายทั้งสามอย่างชัดเจน อันเป็นการย้ำและแสดงให้เห็นว่าชื่อย่อตามที่เคยเผยแพร่ไว้เป็นชื่อใครบ้าง

"หนังสือพิมพ์มติชนได้นำข้อความดังกล่าวผ่านทาง สื่อสิ่งพิมพ์และเว็บไซต์ในระบบคอมพิวเตอร์ของตน ตลอดจนมีการนำเสนอข่าวต่อสาธารณชนเป็นระยะๆในลักษณะรุกไล่ กดดัน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจากการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนโดยปกติ เพื่อให้สาธารณชนหลงเชื่อว่าข้อความและเสียงในคลิปวิดีโอเป็นความจริงอัน เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมาย การกระทำของกลุ่มบุคคล และนายพสิษฐ์ นำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์จนมีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบ คอมพิวเตอร์และเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ของหนังสือพิมพ์มติชนด้วยวิธีการตี พิมพ์จำหน่ายให้กับประชาชนและเผยแพร่คลิปดังกล่าวผ่านเว็บไซต์มติชนออนไลน์ จึงเป็นการร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำอันเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1),(5) นอกจากนี้การกระทำของหนังสือพิมพ์มติชนที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ด้วยการตีพิมพ์ข้อความในหนังสือพิมพ์รายวันและเว็บไซต์ยังเป็นความผิดฐาน ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาอีกฐานความผิดหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ,328 และ 83" คำร้องทุกข์ระบุ

สำหรับคำร้องทุกข์กล่าวโทษผู้เผยแพร่คลิปเป็นความผิดอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นความผิดต่อสถาบันกษัตริย์ด้วยนั้น รายงานข่าวจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเปิดเผยว่า กรณีคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้ง ความดำเนินคดีบุคคลที่กระทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอในยูทูบชุดที่ 3 ที่เป็นคำสารภาพของเจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญที่ยอมรับอาจได้ข้อสอบล่วงหน้า โดยเป็นการการกระทำที่ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม และสถาบันการเมืองการปกครองของไทย ซึ่งเป็นการร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 , 198 ,326 และ 328นั้น ทั้งนี้ที่สำนักงานต้องแจ้งความในฐานดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ด้วยซึ่งต่างจาก ที่ผ่านมาเป็นเพราะคลิปวิดีโอชุดล่าสุดได้มีการนำไปเผยแพร่ซ้ำต่อนั้นได้ ปรากฏภาพ เสียงแทรกไปในคลิปดังกล่าวที่ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ด้วยทำให้สำนักงานต้อง แจ้งความในความผิดดังกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net