นักโทษเรือนจำกลางลพบุรีกว่า 200 ราย ก่อจลาจลในเรือนจำ

 

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 พ.ย. 2553 ได้เกิดเหตุนักโทษ จำนวน 200 คน ในเรือนจำกลาง จ.ลพบุรี ได้ก่อเหตุประท้วงเจ้าหน้าที่เรือนจำกลาง จ.ลพบุรี โดยยึดเรือนนอนและโรงอาหารของเรือนจำกลาง จ.ลพบุรี พร้อมกับมีการเผาเศษไม้ และเสื้อผ้าที่อยู่ในเรือนอาหาร ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และทาง ผู้ว่าฯ ลพบุรี กำลังระดมกำลังเพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่

รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รุดตรวจสอบเรือนจำกลางลพบุรี หลังนักโทษก่อจลาจล ทราบเหตุนักโทษยาเสพติดทำผิดกฎเรือนจำ

นายฐานิส ศรียะพันธ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เดินทางไปเรือนจำกลางจังหวัดลพบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และคลี่คลายสถานการณ์ นักโทษรวมตัวกันก่อเหตุจราจล นายฐานิส กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ผู้ต้องขังที่ลักลอบนำยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือเข้าไปใช้ในเรือนจำ ซึ่งถูกย้ายจากเรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 50 คน รวมตัวกันก่อเหตุจลาจล โดยรวบรวมเศษไม้เศษหญ้าและข่มขู่จะเผาเรือนจำ แต่ผู้บัญชาการเรือนจำ และผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ได้เข้าเจรจาทำให้กลุ่มนักโทษยังไม่เผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ
 
ทางด้าน มติชนออนไลน์รายงานเหตุการณ์ว่า ที่ประตูทางเข้ามีเจ้าหน้าที่เรือนจำกลางลพบุรี เฝ้าอยู่จำนวนมาก โดยภายในเรือนจำมีเสียงนักโทษผู้ชาย ส่งเสียงโห่ร้องดังเป็นระยะ พร้อมกับเสียงทุบทำลายสิ่งของดังลั่น นอกจากนี้ยังพบว่ามีกลุ่มควันสีดำซึ่งเกิดจากการเผายางรถยนต์ลอยขึ้นเหลือ บริเวณเรือนจำ สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณรอบเรือนจำกลางลพบุรีเป็น อย่างมาก นายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี สั่งการให้นำรถดับเพลิงทั้งของเทศบาลเมืองลพบุรี เทศบาลเมืองเขาสามยอด เทศบาลตำบลท่าศาลา พร้อมทั้งรถกระเช้ากว่า 10 คัน มาเตรียมพร้อมรอบบริเวณเรือนจำกลางลพบุรี

จากนั้นนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผวจ.ลพบุรี นายประเสริฐ ป้ำกระโทก ผบ.เรือนจำกลางลพบุรี นายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และกำลังตำรวจปราบจลาจล เจ้าหน้าที่ อส. สารวัตรทหาร อาวุธปืนครบมือทั้งลูกซอง 5 นัดปืนกลอูซี่ เดินทางเข้าไปในเรือนจำ เพื่อเจรจากับนักโทษที่ก่อเหตุประท้วง โดยห้ามผู้สื่อข่าวไม่ให้ติดตามไปทำข่าว และขณะที่คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เดินอยู่ภายในเรือนจำ นักโทษจำนวนกว่า 100 คน ซึ่งอยู่ในอาการคล้ายเมากาวน้ำหรือทินเนอร์ได้ส่งเสียงโห่ฮาใส่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้ลูกกระสุนปืนซึ่งเป็นลูกแบงค์ยิงขู่ขึ้นฟ้าเป็นระยะๆ ทำให้นักโทษส่งเสียงโห่ฮาพร้อมทั้งทุบทำลายสิ่งของ และเผายางรถยนต์หนักยิ่งขึ้นอีก นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผวจ.ลพบุรี จึงสั่งให้หยุดยิง พร้อมสั่งเก็บอาวุธปืนที่พกติดตัวไป นอกจากนี้นักโทษยังได้ขอร้องให้กำลังเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ที่ขึ้นไปบน กระเช้าอยู่เหนือเรือนจำกลางลพบุรี และมีอาวุธปืนกลอูซี่ถืออยู่ในมือลงมาด้วย เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย


เจ้าหน้าที่ระบุ นักโทษนำก่อจลาจลเหตุจากการห้ามใช้มือถือ

จากนั้นนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผวจ.ลพบุรี นายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี จึงได้พูดเจรจากับนักโทษถึงสาเหตุของการประท้วง โดยพูดคุยกันเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นออกมาเปิดเผยรายละเอียดกับสื่อมวลชนที่รออยู่หน้าเรือนจำกลางลพบุรี

เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางลพบุรีกล่าวว่า สำหรับขาใหญ่ที่เป็นผู้ริเริ่มในการก่อเหตุครั้งนี้ชื่อนายไพโรจน์ พานพบ หรือฉายา “กบ คอลาย” อายุประมาณ 35 ปี บ้านอยู่ตำบลบางขันหมาก อ.เมือง จ.ลพบุรี นักโทษคดีจำหน่ายยาเสพติด เข้าออกคุกอยู่บ่อย ๆ โดยล่าสุดเพิ่งถูกส่งเข้ามาอยู่ในเรือนจำได้ประมาณ 3 เดือน และมาก่อเหตุประท้วงเพราะไม่พอใจถูกห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในเรือนจำดังกล่าว

ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดกล่าวว่า นายไพโรจน์ พานพบ หรือ กบ คอลาย มีประวัติในเรื่องของการค้ายาเสพติด พกอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลา โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างประกันตัวในคดีจำหน่ายยาเสพติด 4 คดี มีนิสัยใจถึงไม่กลัวใคร จึงทำให้ขณะอยู่ในเรือนจำจึงมีลูกน้องจำนวนมากดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวจากมติชน รายงานข่าวต่อว่า ขณะกำลังรายงานข่าวสถานการณ์ถึงแม้ว่าจะไม่รุนแรงเหมือนช่วงเกิดเหตุใหม่ๆ แต่สถานการณ์ก็ยังไม่สงบ โดยมีการเสริมกำลังทหาร ตำรวจ และของกรมราชทัณฑ์เข้าไปในเรือนจำอย่างต่อเนื่อง

 

ที่มา Inn news , มติชนออนไลน์
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท