“จตุพร” แถลงจดหมายเปิดผนึกเสื้อแดงในคุก – ตั้งภรรยาหมอเหวง รักษาการประธาน นปช.

จตุพร แถลงข่าวถึงจดหมายเปิดผนึกจากแกนนำเสื้อแดงในเรือนำที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังถูกจองจำกว่า 6 เดือน พร้อมแถลงตั้งรักษาการกรรมการนปช.แดงทั้งแผ่นดินชุดใหม่ ‘ธิดา’ ภรรยาหมอเหวงเป็นประธาน ประชุมกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวใหญ่ 10 ธ.ค. ลั่นมีหลักฐานภาพถ่ายทหารใช้ปืนจี้หัวพนักงานดับเพลิงไม่ให้ดับไฟเวิร์ลเทรด

28 พ.ย.53 ที่ห้างอิมพเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง แถลงข่าว โดยนำจดหมายเปิดผนึก “เสียงเพรียกจากผองเพื่อนในเรือนจำ” ที่เขียนขึ้นหลังไปพบกับแกนนำคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื้อหาในจดหมายระบุว่า กว่า 6 เดือน หลังยุติการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ยังคงมีบรรยากาศความขัดแย้ง ทั้งที่ทุกฝ่ายพูดถึงการปรองดอง เป็นเพราะไม่ได้รับการปฏิบัติที่ชัดเจนจากรัฐบาล รัฐบาลไม่มีความจริงใจสร้างความปรองดอง เป็นเพียงวาทกรรมเพื่อประวิงเวลาอยู่ในอำนาจ
 
รัฐบาลไม่ได้สนองตอบข้อเสนอของคณะกรรมการชุดต่างๆ เช่น ข้อเสนอการยกเลิก พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อเสนอให้ยกเลิกการตีตรวนผู้ต้องขังคดีการเมือง รับข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงบางประเด็น และไม่ได้ให้สิทธิ์แกนนำคนเสื้อแดงได้รับการประกันตัว นอกจากนี้ยังมีการคุกคามสื่อที่ตรงข้ามรัฐบาล แต่ไม่เคยแตะต้องสื่อของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งที่มีเนื้อหาโจมตีรัฐบาลและคนเสื้อแดง
 
นายจตุพร กล่าวว่า แกนนำคนเสื้อแดง สูญสิ้นอิสรภาพ กว่า 6 เดือน โดยไม่ได้รับความยุติธรรม ทั้งที่ไร้เจตนาหลบหนี อีกทั้งกระบวนการยุติธรรมในคดีคนเสื้อแดงก็มีเสียงวิจารณ์และเคลือบแคลงหลายประการ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคดีของคนเสื้อแดง และกลุ่มพันธมิตรฯ ต่างกันชัดเจน ดังนั้น คนเสื้อแดงจะไม่ยอมก้มหัวให้กับความอยุติธรรม และจะต่อสู้ต่อไป เพื่อไม่ให้การเสียสละของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การชุมนุมสูญเปล่า
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของจดหมายเปิดผนึก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงได้แต่งเพลงทรนง มาเป็นกำลังใจให้คนเสื้อแดง โดยภรรยาของนายณัฐวุฒิ ได้อ่านเพลงให้คนเสื้อแดงที่มาร่วมฟังการแถลงข่าวรับฟังด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทำให้บรรดาผู้ร่วมรับฟังการแถลงข่าวหลายคนน้ำคลอ
 
เนื้อเพลงมีดังนี้ "ไกลโอ้ไกลเกินเอื้อมสุดสอย มือน้อยไขว่คว้าประชาธิปไตย บนเส้นทางมืดมน ยากไร้ คอยหายไร้แสงแห่งเสรี จึงก้าวเดินร่วมแดงทุกแห่งหน ประกาศชนชั้นรักศักดิ์ศรี ขอให้คนเท่าเทียม แค่นี้ ดับดิ้นชีวีกลางถนน เพื่อนเอ๋ย น้ำตาหยุดไหลหรือยัง ความหวัง มั่นคง อยู่มิคลาย จะหมื่นอาวุธ กี่แสนเล่ห์กล ประชาชนต้องมีชัย ใจถึงใจ จับมือแล้วเดินร่วมทาง วันฟ้ามืดเดือนลับอับแสง เสื้อแดงไม่ลับดับหาย เย้ยฟ้าท้าดินได้ยินไหม หนึ่งตาย แสนล้านสู้ อยู่ยง หนึ่งตาย แสนล้านสู้ อย่างทรนง" 
 
นายจตุพร ยังแถลงรายชื่อ รักษาการกรรมการบริหารกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ว่า ได้แต่งตั้งนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ภรรยา น.พ. เหวง โตจิราการ เป็นรักษาการประธาน นปช. นายวรชัย เหมะ และนายสมหวัง อัสราษี เป็นรักษาการรองประธาน นปช. ส่วนนายประแสง มงคลศิริ เป็นรักษาการเลขาธิการ นปช. นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ เป็นรักษาการณ์ โฆษก นปช. โดยกรรมการรักษาการชุดนี้จะประชุมในวันพุธ ที่ 1 ธ.ค.นี้ ก่อนแถลงท่าทีการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนทันที โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวในวันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค.นี้ โดยจะมีการหารือและแถลงท่าทีในเวลา 13.00 น.ของวันที่ 1 ธันวาคม
 
นายจตุพรกล่าวว่า แกนนำนปช.ในเรือนจำติดต่อประสานงานกับคณะกรรมการชุดดังกล่าวต่อเนื่องกว่า 3 เดือน มีการหารือร่วมกันผ่านตัวแทน และตอบสนองข้อเสนอแนะของคณะกรรมการมาตลอด จนได้ข้อสรุปร่วมกันว่า การเริ่มต้นกระบวนรการปรองดองต้องนับหนึ่งคือการได้รับสิทธิประกันตัวตามกฎหมายของผู้ถูกคุมขัง โดยแกนนำนปช.ได้เสนอแนวทางเบื้องต้นของการปรองดองต่อคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อแนวทางปรองดองแห่งชาติ(คอป.) ไว้ 5 ข้อ ดังนี้
 
1.สถาบันพระมหากษัตริย์ อยู่เหนือการเมือง ทกุฝ่ายต้องยุติการอ้างอิง พาดพิงจาบจ้วงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง 2.เยียวยาผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและเสียหายจากเหตุการณ์อย่างเหมาะสม 3.ดำเนินกระบวนการยุติธรรมกับทุกฝ่ายด้วยหลักนิติธรรม 4.ให้เสรีภาพกับประชาชนทุกกลุ่มทุกองค์กรในการแสดงออกทางการเมือง และ 5.สร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนและเชิญชวนเข้าร่วมกระบวนการปรองดอง ทั้งนี้แกนนำนปชป.ยินดีพิสูจน์ข้อเท็จจริงและความบริสุทธิ์ตามขั้นตอนของศาลยุติธรรมในทุกกรณี
 
นายจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 1 ธ.ค.จะนำภาพถ่ายที่ทีมกฎหมายของ นปช.ได้รับจากชุดผจญเพลิงมืออาชีพระหว่างวันที่ 3 เม.ย.-19 พ.ย.53 ซึ่งถูกห้ามไม่ให้เข้าระงับเพลิงระหว่างเกิดเหตุเพลิงไหม้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ด้วยอาวุธปืน และปาระเบิดใส่ได้รับบาดเจ็บ และยังถูกสั่งให้หมอบคลานออกไป แต่พอเงยหน้าขึ้นมา พบเป็นทหารถือปืน ภาพถ่ายที่มีจะแสดงให้เห็นว่า ใครกันแน่ที่เผาห้างดังกล่าว ซึ่งไม่ใช่คนเสื้อแดง นอกจากนี้ยังมีกล้องวงจรปิดของห้างกว่าพันตัวบันทึกเหตุการณ์ไว้
 
นอกจากนี้ นายจตุพร ยังกล่าวว่า มีทหารหน่วยรบพิเศษ 7 คน ที่ให้การกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยอมรับว่า ใช้ปืนเอ็ม 16 หัวกระสุนสีเขียวยิงเข้าไปในวัดปทุมวนาราม ซึ่งสอดคล้องกับกระสุนที่พบในศพ 3 ศพในวัดปทุมวนารามด้วย
 
 
 
เรียบเรียงจาก เว็บไซต์สำนักข่าวไทย และมติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท