Skip to main content
sharethis

ไข่เขย จันทร์เปล่ง

 

30 ธ.ค. 53 ศาลได้พิพากษาตัดสิน คดีการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดมหาสารคาม โดยมีจำเลยทั้งหมด 8 คน ถูกตัดสินให้ได้รับโทษจำคุก  5 ปี 8 เดือน และ 6 ปี 8 เดือน โดยศาลได้ตัดสินให้ นายไข่เขย จันทร์เปล่ง จำเลยที่ 4 รอลงอาญา 2 ปี นายไข่เขยได้ถูกปล่อยตัวในเย็นวันเดียวกัน และก็ได้หลบไปพักอยู่ที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่งเพราะเกรงว่าจะถูกทำร้ายร่างกายจากผู้ไม่หวังดี และเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 54 ที่ผ่านมา เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม หลังจากที่ได้ตัดสินใจกลับมาประกอบอาชีพเพื่อเลี้ยงครอบครัวตามเดิม

รู้สึกอย่างไร ที่ศาลตัดสินให้รอลงอาญา 2 ปี

ผมรู้สึกเสียใจมากที่เพื่อนของผมอีก 9 ชีวิตไม่ได้ออกมา เพราะผมได้สัญญากับเขาว่าจะพยายามให้พวกเขาได้ออกมาก่อน เพราะหลายคนยังเด็ก หลายคนมีลูกเล็กอยู่ เมียต้องมารับภาระคนเดียว ส่วนตัวผมนั้น มีครอบครัวที่เข้มแข็งกว่าคนอื่น จึงอยากให้คนอื่นออกมาก่อน และก็แปลกใจที่เพื่อนบางก็อยู่กับตนตลอดเวลาแต่ไม่ได้ออกมา ในความรู้สึกตอนนี้เหมือนกับผมขาดส่วนของชีวิตไปแล้ว 9 ส่วน เพราะทั้ง 10 คนคือส่วนหนึ่งของชีวิตกันและกันไปแล้ว  หลังจากนี้ ผมก็คงจะใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข เพราะส่วนชีวิตได้ขาดหายไป

 

ตอนนี้ได้เจอครอบครัวหรือยัง

ยังไม่ได้เจอลูก ได้เจอแต่ภรรยาคนเดียว

 

อุดมการณ์ที่มีก่อนถูกจับ กับปัจจุบันเปลี่ยนไปอย่างไร

อุดมการณ์ผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง ผมยังยึดมั่น ในตัวของผมเอง ผมออกมาเคลื่อนไหวโดยที่ผมไม่ได้รู้จักแกนนำหรือคนเสื้อแดงเลย ผมออกมาเพราะผมทนกับการบริหารงานของรัฐที่ไม่ได้เอาประชาชนเป็นใหญ่ไม่ได้

ผมอยากจะถามรัฐบาลจริงๆว่า ร้องเพลงชาติจบ แต่แปลเพลงชาติไทยออกทุกคำรึเปล่า คำว่า เป็น ประชารัฐ แปลว่าอย่างไร คนในประเทศ รับราชการเป็นส่วนน้อยกว่า กรรมกร หรือชาวนา แต่คุณเอาคนที่ทำงานข้าราชการส่วนน้อยเป็นใหญ่ ประชาชนที่เหลือเป็นส่วนน้อย ซึ่งมันกลับกันโดยสิ้นเชิง

 

ความรู้สึกตอนนี้คุณไข่เขยอยากทำอะไร

ผมอยากกลับเข้าไปดูแลจิตใจเพื่อนที่อยู่ในเรือนจำเหมือนเดิม  เพราะในกลุ่มเพื่อนมีผมคนเดียวที่คอยเป็นที่ปรึกษาและดูแลสภาพจิตใจทั้ง 9 คน ถ้าผมออกมาแล้วสภาพจิตใจของเพื่อนที่เหลือคงจะแย่ลงไปมากกว่านี้  ผมจึงไม่แปลกใจว่าทำไมผมได้ออกมาก่อน

 

ได้ข่าวว่ามีคนพยายามตามเก็บคุณหลังจากออกมาจริงหรือไม่

ตอนผมถูกปล่อย มีคนแปลกหน้าพยายามตามความเคลื่อนไหวตลอด จนได้หลบออกไปอยู่เซฟเฮ้าส์ แต่ทนไม่ได้ อยากกลับมาประกอบอาชีพทำงานเลี้ยงครอบครัว จึงตัดสินใจกลับออกมา

 

ไม่กลัวถูกเก็บหรือ

ในใจตอนนี้ไม่ได้มีความรู้สึกนั้นแล้ว เป็นห่วงเพื่อนที่เหลืออยู่ในเรือนจำมากกว่า เพราะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด และถ้าเกิด ผมก็รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร

 

ตอนอยู่ในเรือนจำเป็นอย่างไรบ้าง

ก็สบายดี เจ้าหน้าที่ก็ดูแลดีเป็นพิเศษ

 

มีอะไรเข้ามาแทรกแซงในเรือนจำรึเปล่า

มีผู้มีอำนาจเข้ามาพบผมในเรือนจำ แต่ไม่ขอเปิดเผย

 

มีอะไรจะฝากไหม

ตอนนี้ต้องยอมรับว่าความปลอดภัยของผมมีน้อยมาก ไม่รู้จะถูกเก็บตอนไหน และอยากถามถึงรัฐบาลกับความปลอดภัยของผู้ที่ถูกปล่อยตัว ว่าสามารถรับรองได้แค่ไหน ในความรู้สึกของผมคิดว่าคนอื่นจะได้ออกมาก่อน เพราะต่างเป็นเยาวชน และมีภาระที่ต้องดูแลอีกมาก แต่กลับเป็นผมได้ออกก่อน จึงเดาไม่ออกว่ามีนัยอะไรซ่อนเร้นรึเปล่า แต่ก็จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด และขอฝากไว้คำหนึ่งว่า ความยุติธรรมต้องเป็นไปตามหลักการ ไม่ใช่ไปตามความรู้สึกหรือการกระทำของใครคนใดคนหนึ่ง

 

หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จแล้วนายไข่เขยก็เข้าจุดธูปขอพรให้เพื่อนในเรือนจำ และไหว้พระในวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม และได้เดินทางกลับบ้าน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

จำคุก 7 เสื้อแดงสารคามฐานวางเพลิง-ขัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 5 ปี 8 เดือน

รายงาน: ชีวิตหลังลูกกรงของคนขายแมลงทอด เสื้อแดงมหาสารคาม ‘ไข่เขย-บุญเลี้ยง’

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net