Skip to main content
sharethis

"ธาริต" เตรียมหอบหลักฐานขอถอนประกัน "จตุพร" 12 ม.ค. นี้ ชี้ผิดชัดเจนต่อสายฮัลโหล "ทักษิณ" โฟนอิน / ดีเอสไอจับลูกน้อง "พายัพ ปั้นเกตุ" หลังพบเป็นหัวหน้าการ์ด นปช. นำกำลังบุกค้น ร.พ.จุฬา

11 ม.ค. 54 - เว็บไซต์ไทยรัฐรายงานว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้าย แถลงข่าวกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดสวน พรรคเพื่อไทย จำเลยในคดีก่อการร้าย เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ(นปช.) ว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้ายได้วิเคราะห์พฤติการณ์ของนายจตุพร ในการขึ้นเวที ไม่ได้พูดอะไรที่เข้าข่ายผิดข้อกำหนดฝ่าฝืนเงื่อนไขในการให้ประกันตัว แต่ได้วิเคราะห์เพิ่มเติมถึงพฤติการณ์โดยรวมว่า นายจตุพร เป็นแกนนำให้เกิดการชุมนุมเรือนหมื่น แล้วได้ต่อสายโทรศัพท์ไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ต่างประเทศ โดยเป็นคนถือโทรศัพท์เอง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พูดผ่านเครื่องโทรศัพท์ของนายจตุพร และนายจตุพร ก็ถ่ายทอดเสียงออกไป ซึ่งถ้อยคำ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูด มีถ้อยคำอยู่หลายตอน ซึ่งอาจกระทบกระเทือนต่อการสอบสวนและการดำเนินคดี นายจตุพร จึงอยู่ในฐานะรู้เห็นเป็นใจ ในการดำเนินการดังกล่าว แม้นายจตุพร ไม่ได้เป็นคนพูดเอง

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ประการที่ 2 เมื่อวานนี้ นายจตุพร ได้ให้ข่าวสองประโยคที่สำคัญ คือ บอกว่า ไม่ใช่ลูกไล่ นายนายธาริต เป็นเพียงข้าราชการซี 10 ที่ ส.ส.ไม่จำเป็นต้องไปกลัว แต่ นายธาริต ต้องกลัวตัวนายจตุพร และจะไล่ฟ้องนายธาริต ในหลายเรื่อง สองนายจตุพร บอกว่า อาจจะดำเนินการฟ้องศาลในฐานะที่ศาลได้ออกข้อกำหนดไม่ถูกต้อง เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เลิกแล้ว และสั่งห้ามชุมนุมอีก 2 ประโยคนี้ ดีเอสไอได้พิจารณาร่วมกันแล้วเห็นว่า การกระทำเข้าข่ายเป็นการประทำที่อาจกระทบกระเทือนต่อการสอบสวน หรือการพิจารณาคดีของศาล ตนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน และในฐานะพยานในคดีได้ถูกข่มขู่ว่า จะต้องหวั่นกลัว โดยเฉพาะการฟ้องร้อง ซึ่งไม่จำเป็นว่าตนจะต้องกลัวหรือไม่

นายธาริต กล่าวอีกว่า การกระทำของนายจตุพร เข้าข่ายไปก้าวล่วงต่อศาลซึ่งไม่ถูกต้อง พฤติการณ์ทั้งปวง ตั้งแต่เป็นหัวเรือใหญ่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินแล้วถือโทรศัพท์ออกเครื่องขยายเสียง และการให้สัมภาษณ์ เป็นการกระทำผิดเงื่อนไขที่ศาลอาญากำหนดห้ามกระทำ ดีเอสไอจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อให้ถอนประกันตัวนายจตุพร ในวันที่ 11 ม.ค.เวลา 10.30 น.ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นลูกไล่หรือไปรุกไล่นายจตุพร แต่เป็นหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีก่อการร้าย ที่ต้องดำเนินการ หากดีเอสไอไม่ดำเนินการแล้วใครจะเป็นคนทำ จะเกิดความเสียหายต่อสังคมตนจำเป็นต้องทำหน้าที่ของตน ส่วนผลสุดท้ายศาลใช้ดุลพินิจเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับศาล

นอกจากนี้นายธาริตได้แถลงถึงกรณีเจ้าหน้าที่ เข้าจับกุม ลูกน้อง "พายัพ ปั้นเกตุ" หลังพบเป็นหัวหน้าการ์ด นปช. นำกำลังบุกค้น ร.พ.จุฬา โดยธาริตกล่าวว่าตนได้ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง ผู้อำนวยการสำนักคดีอาญาพิเศษ 2 สนธิกำลังกับชุดสืบสวน สะกดรอยเข้าจับกุม นายสมพงษ์ บังชม หัวหน้าการ์ด นปช. กลุ่มสมิงดำ ลูกน้อง นายพายัพ ปั้นเกตุ แกนนำ นปช. สายฮาร์ดคอร์ ที่หลบหนีการจับกุม หลังเจ้าหน้าที่ทหาร เข้ากระชับพื้นที่ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 ภายหลังสืบทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นหัวหน้าการ์ดกลุ่มเสื้อแดง นำกำลังกว่า 200 นาย บุกเข้าค้นโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.เนื่องจากเข้าใจว่า มีกำลังทหารเข้าไปหลบซ่อนตัว เหตุการณ์ดังกล่าว ได้สร้างความแตกตื่น และหวาดกลัวให้กับเจ้าหน้าที่ ในโรงพยาบาล นางพยาบาลบางคน ถึงกับร้องไห้ เนื่องจาก สงสารผู้ป่วยที่ยังพักฟื้นอยู่ ซึ่งล่าสุดมีการควบคุมตัว หัวหน้าการ์ด นปช.เข้ากรุงเทพฯ

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: เว็บไซต์ไทยรัฐ, สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net