Skip to main content
sharethis

คนงานสหภาพแรงงานแม็กซิสฯ พร้อมสหภาพแรงงานฟูจึซึฯ และพนักงานบริษัทพีซีบี เริ่มต้นออกเดินเท้าจากระยองเข้ากรุงเทพฯ หวังร้องรัฐแก้ปัญหานายจ้างปิดงาน คาดใช้เวลากว่า 10 วัน ด้านประธานสหพันธ์แรงงานยานยนต์ฯ ออกโรงย้ำแรงงานเคลื่อนไม่เกี่ยวม็อบพันธมิตรฯ พันเปอร์เซ็นต์

แฟ้มภาพ สหภาพแรงงาน แม็กซิส ประเทศไทย ยื่นข้อเรียกร้องปรับสภาพการจ้างต่อบริษัท แม็กซิส อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัดเมื่อ 22 พ.ย. 53 ล่าสุดพนักงานเตรียมเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือต่อกระทรวงแรงงานและรัฐบาล เรียกร้องการแก้ปัญหานายจ้างประกาศปิดงาน ทั้งที่อยู่ระหว่างการเจรจาปรับสภาพการจ้าง (ที่มาของภาพ: voicelabour.org)

 

วานนี้ (1 ก.พ.54) เมื่อเวลา 05.30 น.พนักงานสหภาพแรงงานบริษัทแม็กซิส อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตยางรถยนต์ยี่ห้อแม็กซิส ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม อีสต์เทิร์นซีบอร์ด จำนวนกว่า 1,000 คน รวมตัวกันบริเวณหน้าบริษัทฯ ก่อนจะเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ โดยร่วมกับพนักงานสหภาพแรงงานฟูจึซึ เจอร์เนอร์รัล ประเทศไทย และพนักงาน บริษัท พีซีบี เซ็นต์เตอร์ จำกัด เพื่อยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและรัฐบาล เรียกร้องการแก้ปัญหากรณีนายจ้างประกาศปิดงาน ทั้งที่อยู่ระหว่างการเจรจา หลังคนงานรวมตัวกันเรียกร้องโบนัสและเงินเดือนเพิ่ม

นายยงยุทธ เม่นตะเภา ประธานสหพันธ์แรงงานยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกันว่า ขบวนเดินเท้าของกลุ่มแรงงานได้เดินทางถึงวัดหนองค้อ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้ว และจะพักค้างคืนกันที่วัด คาดว่าจะใช้เวลาเดินทางถึงกรุงเทพฯ ราว 10 วัน โดยในวันพรุ่งนี้น่าจะเดินทางไปพักค้างแรมที่ที่ว่าการอำเภอศรีราชา ส่วนเป้าหมายที่จะไปยื่นเรื่องนั้นคาดว่าจะเป็นรัฐสภา เนื่องจากผู้ร่วมขวนมีจำนวนกว่า 2,000 คน การไปที่กระทรวงแรงงานสถานที่อาจไม่เพียงพอ รัฐสภาน่าจะมีสถานที่รองรับคนได้มากกว่า อีกทั้งยังเป็นสถานที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้วย

ประธานสหพันธ์แรงงานยานยนต์ฯ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากลุ่มพนักงานสหภาพแรงงานในบริษัทแม็กซิสฯ ประสบปัญหาค่าจ้างและสวัสดิการแรงงานต่ำ จึงได้มีการยื่นข้อเรียกร้องกับผู้บริหารของบริษัท แต่ข้อเรียกร้องกลับถูกยื่นข้อเรียกร้องสวนกลับมา ทำให้การเจรจาที่ผ่านมาล้มเหลว และนายจ้างก็ประกาศปิดงานโดยอ้างว่าเครื่องจักรเสีย แล้วให้คนชุดดำมาดูแลการเข้าออกโรงงาน แต่ภายในโรงงานกลับยังคงมีการผลิตด้วยการจ้างพนักงานเหมาค่าแรงและแรงงานข้ามชาติมาทำงานแทนพนักงานประจำเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในหลายๆ บริษัท ซึ่งเขามองว่าเป็นความต้องการของนายจ้างที่มุ่งเล่นงานเพื่อหวังทำลายสหภาพแรงงาน

ในส่วนข้อเรียกร้องของทางบริษัทฯ ที่กลุ่มแรงงานมองว่าเป็นปัญหาหลักๆ มี 3 ข้อ คือ 1.การเพิ่มช่วงเวลาการทำงานจาก 2 ช่วง เป็น 3 ช่วง ทำให้พนักงานต้องขาดรายได้จากการทำงานล่วงเวลา (ทำโอที) ซึ่งต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่ว่าที่ผ่านมาพนักงานอยู่ได้ด้วยเงินตรงนี้ 2.การยกเลิกเบี้ยผลิต ซึ่งงานในอุตสาหกรรมนี้เป็นงานหนัก การมีเบี้ยผลิตเพื่อให้พนักงานพยายามทำงานตามเป้าที่วางไว้ ที่ผ่านมาพนักงานบางคนก็ยินดีทำงานตรงนี้โดยไม่ยอมพักผ่อน เพื่อที่จะมีรายได้ตรงนี้ เพราะเงินเดือนพนักงานแค่เดือนละ 6-7 พันบาทนั้นไปไม่พอกับการใช้จ่าย และ 3.การลดค่าครองชีพ ซึ่งทั้งหลายเหล่านี้กระทบกับรายได้และคุณภาพชีวิตซึ่งพนักงานไม่สามารถยอมให้ได้

นายยงยุทธ กล่าวด้วยว่า การเดินเท้าของแรงงานในครั้งนี้หวังผลที่จะประกาศรายทางถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะพวกเขาถอยไม่ได้อีกแล้ว และต้องการเรียกร้องขอความเห็นใจจากรัฐบาลและรัฐมนตรีที่รับผิดชอบให้เข้ามาช่วยเหลือแก้ปัญหา เพื่อให้แรงงานได้กลับเข้าทำงาน และอาจมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อการแก้ปัญหาโดยเฉพาะ ไม่ใช่วางเชิงไม่ยอมทำอะไร ทั้งที่มีกฎหมายอยู่ในมือ ปล่อยให้แรงงานและนายจ้างเคลียร์ปัญหากันเอง ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลเมินเฉยในการแก้ปัญหา เพราะห่วงการลงทุน แต่จริงๆ แล้วปัญหาการลงทุนอยู่ที่การเมือง หากบ้านเมืองไม่สงบคนก็ไม่กล้ามาลงทุน

“หากรัฐบาลและรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานไม่คุ้มครองแรงงาน เอาใจแต่ระบบทุน อย่างนั้นไม่มีเสียจะดีกว่า” นายยงยุทธกล่าว

ต่อคำถามถึงกระแสข่าวที่ว่าทางกลุ่มจะเดินทางเพื่อมาเข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมอยู่ที่บริเวณสะพานมัฆวาน นายยงยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ยืนยันพันเปอร์เซ็นต์ว่าการเคลื่อนของกลุ่มแรงงานครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมาเรื่องสีเหลือง-แดงเป็นปัญหาของกลุ่มขบวนการเคลื่อนไหวแทบทุกกลุ่ม รวมทั้งขบวนการแรงงานที่มีทั้งคนสีเหลืองและสีแดง อย่างไรก็ตามทางสหพันธ์แรงงานยานยนต์ฯ และคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยได้คุยกันในเรื่องนี้อย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่เอาเรื่องสีมาเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของแรงงาน  

ทั้งนี้ สหภาพแรงงานแม็กซิส ประเทศไทย ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อบริษัทแม็กซิส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีพนักงานกว่า 2,500 คน เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2553 จำนวน 20 ข้อ โดยมีการนัดเจรจาครั้งแรก เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2553 และเช้าตรู่วันเดียวกันบริษัทได้ประกาศปิดงาน 7 วัน โดยอ้างเครื่องจักรเสียจำเป็นต้องหยุดการผลิตชั่วคราว จากนั้น มีการประกาศปิดงานเนื่องจากข้อเรียกร้องไม่สามารถตกลงกันได้ ในวันที่ 25 ม.ค. 2554

ในวันที่ 25 พ.ย.2553 นายจ้างได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อสหภาพแรงงานจำนวน 3 ข้อ และวันที่ 18 ม.ค.2554 เวลาประมาณ 14.00 น.ตัวแทนนายจ้างได้แจ้งข้อเรียกร้องฉบับใหม่แทนฉบับเก่าที่ถอนข้อเรียกร้องให้กับสหภาพแรงงาน โดยยื่นข้อเรียกร้องเพิ่มเป็น 5 ข้อ ขณะที่การชุมนุมของสหภาพแรงงานแม็กซิสฯ เริ่มตั้งแต่เช้าของวันที่ 22 ม.ค.2554

สำหรับ สหภาพแรงงาน ฟูจึซึ เจอร์เนอร์รัล ประเทศไทย ถูกนายจ้างประกาศปิดงานไม่จ่ายค่าจ้างเนื่องข้อเรียกร้องไม่สามารถตกลงกันได้ ตั้งแต่ 24 ธ.ค.2553 ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานได้ยื่นข้อเรียกร้อง จำนวน 13 ข้อ แต่จนถึงปัจจุบันการเจรจายังไม่เป็นผลสำเร็จ

ส่วนบริษัท พีซีบี เซ็นต์เตอร์ จำกัด ตั้งอยู่ที่ สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ศรีราชา ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีผลิตแผงวงจรอิเลคทรอนิกส์ ส่งขายให้ต่างประเทศ มีพนักงานทั้งหมด 500 กว่าคน ถูกนายจ้างประกาศปิดงาน ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.2554 ที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากและเสียชีวิต 3 ราย เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ทำให้นายจ้างอ้างประกาศปิดกิจการ โดยไม่จ่ายค่าชดเชยและเงินเดือนค้างจ่าย

 

000

 

แถลงการณ์ ฉบับที่ 6

คนงานแม็กซีสผลิตยางรถยนต์ถูกนายจ้างปิดงานเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ

 

เรียนพี่น้อง ประชาชน, สื่อมวลชน และผู้ใช้แรงงานทุกท่าน

บริษัทแม็กซีส อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่ที่ 300/1หมู่ 1 ต.ตาสิทธิ์ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ผลิตยางรถยนต์แบรนด์แม็กซีส นายจ้างเป็นชาวไต้หวัน ตั้งมาได้ 7 ปี ส่งขายในประเทศและต่างประเทศ มีพนักงานประจำทั้งหมดประมาณ 2,500 คน ได้ปิดงานลูกจ้างตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.2553 จนถึงปัจจุบันทำให้พนักงานได้รับความเดือดร้อน สาเหตุที่ปิดงานครั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯต้องการลดสวัสดิการของพนักงานลงทำให้พนักงานไม่ยอมบริษัทฯ จึงปิดงาน 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2554 เวลา 10.00 น.มีการเจรจากันแต่ไม่สามารถตกลงกันได้และนายจ้างได้แจ้งปิดงานต่ออีก ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.2554 เป็นต้นไป ซึ่งเดิมก็มีการปิดงานอยู่แล้วแต่ต้องมาปิดซ้ำอีกซึ่งเห็นเจตนาชัดเจนว่าบริษัทฯ ไม่มีความจริงใจที่จะหาข้อยุติจนกว่าลูกจ้างยอมให้ลดสวัสดิการลงเท่านั้น ทั้งๆที่ผ่านมาลูกจ้างได้ทำงานให้บริษัทฯมีกำไรขยายโรงงานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ผลตอบแทนกลับน้อยนิดทำให้รายได้ที่ได้รับไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย มิหนำซ้ำการหยุดงานที่ผ่านมาบริษัทฯใช้วิธีต่างๆเช่น ล้อมสังกะสีหน้าบริษัทฯเพื่อไม่ให้ลูกจ้างชุมนุม, จ้างชายชุดดำเข้ามาดูแลความปลอดภัยเป็นจำนวนมาก,การจ้างงานราคาถูกเช่นพนักงานเหมาค่าแรง และแรงงานต่างด้าวส่วนมากเป็นชาวเขมรเข้ามาทำงานแทนพนักงานประจำ ซึ่งเป็นการจ้างงานที่เอาเปรียบคนงาน การกระทำเช่นนี้เพื่อต้องการจะลอยแพพนักงานประจำและต้องการจะล้มล้างสหภาพแรงงานที่เป็นองค์กรของลูกจ้างที่เป็นปากเป็นเสียงแทนลูกจ้าง

จากปัญหาที่เกิดขึ้นลูกจ้างได้ไปร้องเรียนกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องแต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้ จึงทำให้พนักงานมีมติร่วมกันที่จะเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯเพื่อให้รัฐบาลได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะรัฐบาลมี นโยบายส่งเสริมการลงทุนและต้องการเห็นคุณภาพชีวิตของคนทำงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี แต่ไม่ดูแลลูกจ้างที่ถูกละเมิดสิทธิ ปล่อยให้นายทุนเอารัดเอาเปรียบลูกจ้าง ซึ่งขัดกับนโยบายที่รัฐให้ไว้กับประชาชน

สิ่งที่พนักงานต้องการคือ 1.ให้รัฐใช้อำนาจและมีความจริงใจในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น 2.ให้บริษัทฯ ถอนข้อเรียกร้องเพื่อหาข้อยุติ 3.ให้บริษัทฯ ส่งคนที่มีอำนาจตัดสินใจเข้ามาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น 4.ให้รัฐบาลทบทวน นโยบายที่ส่งเสริมการลงทุน ที่ให้นายจ้างรับแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยอ้างว่าแรงงานไทยขาดแขลน

ดังนั้นสหภาพแรงงานแม็กซิสแห่งประเทศไทยต้องขออภัยพี่น้องที่ไม่สะดวกในการเดินทาง เพราะพวกเรามีความจำเป็นที่ต้องใช้เส้นทางสายนี้ในการเดินเท้าเข้ากรุงเทพฯ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนในการต่อสู้ในครั้งนี้ เพราะการเรียกร้องของพวกเราในวันนี้เป็นการเดินเพื่อให้รัฐบาลได้ดูแลพี่น้องผู้ใช้แรงงานให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ไว้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องทำเพื่อประชาชน

 

ด้วยศรัทธา และเชื่อมั่น

สหภาพแรงงานแม็กซิส ประเทศไทย 

 

000

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net