Skip to main content
sharethis

ตำรวจนครบาลจับ 2 ชายพกประทัดรวม 63 ลูกใกล้ม็อบพันธมิตรฯ รับสารภาพเตรียมไว้ปาใส่ตำรวจ หากเข้าสลายชุมนุม / ศอ.รส. เส้นตาย พธม.เปิดทาง 15 ก.พ. "จำลอง" กล่าวหา "ชาวกัมพูชา" เข้ามาก่อกวนการชุมนุม

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้แถลงการจับกุม นายวุฒิชัย สร้อยระย้า อายุ 24 ปี ชาวต.อินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พ่อครัวร้านอาหารภายในห้างแห่งหนึ่ง และนาย เอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ชาว ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อาชีพทำความสะอาดรถไฟ พร้อมประทัดแบบกลมหุ้มด้วยพลาสติกขนาด 1 นิ้ว 63 ลูก ได้ที่ริมคลองวัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร ถนนผดุงกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม. ใกล้กับพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)

พล.ต.ต.วิชัยแถลงว่า การ์ดของกลุ่ม พธม. ได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีกลุ่มก่อกวนเข้ามาจุดประทัดเสียงดังภาย ในพื้นที่ชุมนุม โดยเมื่อเวลา 2.00น.-3.00น.ของวันที่ 13 ก.พ. ได้มีผู้จุดประทัดเสียงดังด้านหลังเวทีปราศรัย ทำให้ผู้ชุมนุมแตกตื่นคิดว่าจะมีการสลายการชุมนุม จึงให้เจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด

ทั้งนี้ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นการ์ดของกลุ่มพธม. และทำด้วยใจไม่ได้ถูกรับจ้าง โดยต้องการมากู้ชาติเท่านั้น ส่วนประทัดซื้อมาจากภูเขาทอง เพื่อนำมาจุดขับไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีการเข้าสลายการชุมนุม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปตรวจค้นห้องพัก ก่อนสอบสวนขยายผลและแจ้งข้อหาต่อไป

ศอ.รส.ฮึ่ม!! พธม.ให้เปิดเส้นทาง ขีดเส้นตาย 15 ก.พ.นี้ หากไม่ทำตามเตรียมแผน"ขอคืนพื้นที่"แน่

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (รอง ผบช.สทส.) ในฐานะโฆษก ศอ.รส. แถลงว่า ศอ.รส.มีมติให้พนักงานสอบสวน ซึ่งมี พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เป็นหัวหน้า พิจารณารวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกแกนนำกลุ่ม พธม. ที่ยังคงปักหลักยืดเยื้อและไม่ยอมเปิดทางการจราจร ซึ่งถือว่าไม่ปฏิบัติตามประกาศข้อกำหนด ศอ.รส.ที่ได้รับทราบแล้ว ซึ่งถือว่ามีความผิดตามมาตรา 18 พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 โดย ศอ.รส.ให้เวลา ขีดเส้นตายให้ผู้ชุมนุมถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ หากยังไม่ปฏิบัติตามประกาศ ศอ.รส. ที่ให้ออกจากพื้นที่ พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการออกหมายเรียกก่อน หากไม่มาจะให้โอกาสออกหมายเรียก 2 ครั้ง ก่อนจะออกหมายจับต่อไป ทั้งนี้ จะไม่เข้าไปจับกุมท่ามกลางการชุมนุมแน่นอนเพราะจะเกิดความวุ่นวาย

พล.ต.ต.ประวุฒิกล่าวว่า ระหว่างนี้ตำรวจยังคงเจรจากับกุมพันธมิตรเพื่อขอเปิดพื้นที่ ทั้งนี้ หากยังไม่ยอมปฏิบัติตามประกาศนอกจากแกนนำที่มีความผิดแล้ว ศอ.รส.จะต้องดำเนินการทำประวัติผู้ร่วมชุมนุมที่ถือว่าร่วมกันละเมิดข้อห้าม ศอ.รส. อย่างไรก็ตาม ใน 1-2 วันนี้ ตำรวจต้องดูสถานการณ์ ปฏิกิริยาของผู้ชุมนุม ซึ่งหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ศอ.รส.ก็อาจมีการดำเนินการเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ เปิดพื้นที่ โดยตำรวจเตรียมความพร้อมปฏิบัติทุกสถานการณ์ มีการเตรียมกำลัง และอุปกรณ์พร้อม โดยตำรวจมีเพียงโล่ กระบอง สนับเข่า เสื้อเกราะ ยืนยันว่าไม่มีปืน แม้แต่หากต้องใช้แก๊สน้ำตา เราก็ใช้แก๊สน้ำตาชนิดขว้าง ทำงานระบบฟู่ ไม่มีเสียงดังปัง ไม่อันตรายทำลายอวัยวะฉีกขาดแน่นอน เป็นอุปกรณ์ได้มาตรฐานและอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ขึ้นทะเบียนของกองพลาธิการของ ตร.ทุกชิ้น หากนอกเหนือจากนี้ก็ไม่ใช่ของตำรวจ ทั้งนี้ หากตำรรวจจะทำอะไรจะชี้แจงให้ประชาชนทราบผ่านสื่อทุกขั้นตอนเพื่อความโปร่ง ใส ตรวจสอบได้

โฆษก ศอ.รส.กล่าวว่า อีกประเด็น คือการนำการชุมนุมของผู้นำการชุมนุมทุกกลุ่ม ศอ.รส.ความร่วมมือจากทาง ศอ.รส. ขอให้ใช้ดุลพินิจในการควบคุมนำการชุมนุม แม้เป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ แต่ในฐานะที่เป็นผู้นำการชุมนุมหรือจัดการชุมนุม ต้องใช้ดุลพินิจทั้งในเรื่องการนัดหมาย การเคลื่อนตัว การรวมคน เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยไม่เกิดปัญหา เช่น จำนวนผู้ชุมนุมถ้ามากเกิน การควบคุมและทำให้เกิดความเดือดร้อน กระทบกระทั่งกับบุคคลรอบข้าง หรือมีมือที่สามเข้ามาแทรกแซงได้ อย่างกรณีที่มีข่าวพบชาวกัมพูชาเข้าไปแทรกตัวในที่ชุมนุมกลุ่มพันธมิตร ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาอยากให้แกนนำทุกกลุ่มประสานเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้ช่วยเข้า ไปดูแลความสงบเรียบร้อยให้ และให้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ทำกับเจ้าหน้าที่ดังที่ นปช.ปฏิบัติในวันนี้ ทั้งนี้ หากไม่สามารถควบคุมการชุมนุมได้แกนนำก็ต้องรับผิดชอบ

ขณะที่มีรายงานว่า หลังจากพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปิดล้อม ยึดทำเนียบรัฐบาล เมื่อครั้งก่อน ได้สรุปสำนวนแล้วมีความเห็นส่งฟ้องต่ออัยการให้ออกหมายเรียกแกนนำพันธมิตร กว่า 20 คน อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายสมศักดิ์ โกศัยสุขนายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสุริยะใส กตะศิลา ฯลฯ

โฆษก กอ.รมน. อ้างคำสั่ง รบ. หากขอคืนพื้นที่จาก พธม.ไม่ได้เท่ากับบกพร่องในหน้าที่

วันที่ 13 ก.พ.2554 พล.ต.ดิษฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ถึง แนวโน้มที่จะมีการขยาย พรบ.ความมั่นคง ในการดูแลสถานการณ์การชุมนุม ว่า ในส่วนการของขยาย พรบ.ความมั่นคงนั้น คงเป็นช่วงต่อไป แต่ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามที่จะพูดคุยให้ผู้ชุมนุมเกิดความเข้า ใจ เพราะในแต่ละวันมีผู้ที่มาชุมนุมไม่มากนัก ยกเว้นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ อาจจะมีมากเพราะเป็นวันหยุดงาน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่พยายามจะใช้ความนุ่มนวลต่อรองพูดคุยเป็นลำดับ จะไม่พยายามหักหาญใช้กฎหมาย
      
เมื่อถามว่า สถานการณ์การชุมนุมเสื้อเหลือง-แดง มีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่ พล.ต.ดิษฐพร กล่าวว่า นี่คือความจำเป็นที่เราต้องประกาศ พรบ.ความมั่นคงเป็นเขต เพราะเราไม่ได้ดูแลแค่ม็อบกลุ่มเดียว แต่ต้องดูแลทุกกลุ่มที่เข้ามาเคลื่อนไหวในช่วงนี้ ซึ่งทางด้านการข่าวได้ระบุไว้ว่าในวันนี้(13 ก.พ.) กลุ่ม นปช.ก็จะเข้ามา และช่วงที่ผ่านมาก็มีม็อบเกษตรกร ดังนั้นเจ้าหน้าต้องมีอำนาจให้มากพอเพื่อป้องกันการเผชิญหน้าของกลุ่มต่างๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม เพราะบางครั้งการพูดคุยและเกิดความไม่เข้าใจกันก็อาจจะทำให้เกิดความรุนแรง ขึ้นได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน และในขณะเดียวกันก็ดูแลให้เกิดความปลอดภัยกับผู้ชุมนุมทุกกลุ่มไปพร้อมๆกัน
      
เมื่อถามว่า จะมีเหตุการณ์เผชิญหน้ากันหรือไม่ พล.ต.ดิษฐพร กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มนปช. อยู่กันคนละพื้นที่ และกลุ่ม นปช. เขามีกำหนดเวลาที่ชัดเจน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็คงอะลุ่มอะหล่วย ดูแลให้เป็นไปตามห้วงเวลา และต้องตกลงกับแกนนำว่าสามารถทำอะไรได้แค่ไหนในพื้นที่ ส่วนการปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้มีการจราจร ก็ไม่ควรที่จะทำ ซึ่งทางตำรวจก็พยายามติดต่อชี้แจงอยู่ ส่วนการขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เรามีการบันทึกภาพถ่ายการปฏิบัติไว้ตลอด สามารถเอามาดำเนินการตามกฎหมายออกหมายจับได้หากมีใครละเมิดกฎหมายในระหว่าง การชุมนุม อย่างไรก็ตามอยากให้ผู้ชุมนุมทุกคนอยู่ในกรอบ ไม่อยากให้ทำผิดกฎหมาย และในขณะเดียวกันไม่ควรรบ
      
เมื่อถามว่า หลังประกาศ พรบ.ความมั่นคงไปแล้ว แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ระบุว่าจะชุมนุมยืดเยื้อ จะมีการดำเนินการอย่างไรเพิ่มเติม พล.ต.ดิษฐพร เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ แต่คงเปิดเผยไม่ได้ ซึ่งตนได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเขาก็ยืนยันว่า เขาจะลดพื้นที่การชุมนุมลง เพื่อความสะดวกของประชาชนที่ใช้พื้นที่ด้วย และถ้าไม่สามารถทำได้ ก็ถือว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบกพร่องในการทำหน้าที่เหมือนกัน ในเมื่อทางรัฐบาลได้ประกาศให้อำนาจไปแล้ว อย่างไรก็ตามตนคิดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีวิธีที่จะดำเนินการ

จำลอง" กล่าวหา "ชาวกัมพูชา" เข้ามาก่อกวนการชุมนุม

การ์ด พธม. ตรวจบัตรประชาชนบุคคลที่ผ่านเข้าออกที่ชุมนุม "จำลอง" อ้างถูกชาวกัมพูชาสร้างความปั่นป่วนในการชุมนุม ทำให้ข้าวของสูญหาย ขณะที่การ์ดพันธมิตรฯ ต้องตรึงกำลังที่หลังเวทีเชิงสะพานมัฆวานฯ หลังเสื้อแดงชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้วทะลักมาถึงแยก จปร. จำลองต้องใช้กล้องส่องทางไกลเป็นระยะ

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ วานนี้ (13 ก.พ.) พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวให้สัมภาษณ์ลงใน เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ว่าขณะนี้มีการจ้างแรงงานชาวกัมพูชาเข้ามาก่อกวนในพื้นที่ชุมนุม ทำให้ข้าวของเกิดการสูญหาย จึงวางมาตรการป้องกันด้วยการขอตรวจบัตรประจำตัวประชาชนกับบุคคลที่จะผ่าน เข้าออกพื้นที่การชุมนุม

นอกจากนี้มติชนออนไลน์รายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 น. บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เป็นไปด้วยความตึงเครียดเนื่องจาก ผู้ชุมนุม นปช.ได้ทยอยกันมารวมตัวกันที่บริเวณอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยจนล้นมาถึงแยก จปร. ทำให้การ์ดพันธมิตรต้องมีการเสริมกำลังรักษาปลอดภัยบริเวณหลังเวทีเชิงสะพาน มัฆวานรังสรรค์ อย่างแน่นหนา

ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำ พธม. ต้องเดินตรวจตราบริเวณแนวกั้นของพันธมิตรด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และใช้กล้องส่องทางไกลส่องดูความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเป็นระยะ

มติชนออนไลน์ ยังรายงานพ้องกับรายงานของเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ด้วยว่า ขณะเดียวกันมีข่าวลือสะพัดในกลุ่มของการ์ดพันธมิตรว่าจะมีชาวกัมพูชาแฝงตัว เข้ามาสร้างความปั่นป่วนในที่ชุมนุมทำให้การ์ดทุกจุดตรวจตราบุคคลที่เข้า ออกอย่างเข้มงวดถึงกับมีการตรวจบัตรประชาชนทุกคน

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: โพสต์ทูเดย์, มติชนออนไลน์, ASTV ผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net