19 ก.พ.54 คนเสื้อแดงนัดรวมพลที่แยกราชประสงค์ตั้งแต่ก่อนเที่ยง ก่อนเคลื่อนขบวนออกจากแยกราชประสงค์ในเวลาประมาณ 13.00 น. และมาถึงบริเวณหน้าศาลฎีกาในเวลา 14.20 น. สมทบคนเสื้อแดงบางส่วนมารออยู่ก่อนแล้ว บรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปอย่างคึกคักท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด มีการเปิดเพลงและเต้นรำสลับกับการส่งเสียงตะโกนให้ปล่อยแกนนำ

ประมาณ 15.00 น.นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. และนายคารม พลทกลาง ทนาย นปช.ขึ้นอ่านจดหมายจากแกนนำที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ เนื้อหาในจดหมายแสดงความขอบคุณผู้พิพากษาที่เปิดโอกาสให้มีการไต่สวนคำร้อง ขอประกันตัวซึ่งจะมีขึ้นที่ศาลอาญาในวันที่ 21 ก.พ.นี้ โดยขอให้ใช้มาตรฐานการเดียวกับการให้ประกันตัวแกนนำพันธมิตรฯ และนายวีระ มุสิกพงศ์ และยกคำวินิจฉัยศาลอุทธรณ์ในกรณีให้ประกันตัวนายวีระ มุสิกพงศ์ ว่าไม่มีความแตกต่างจากกรณีของพวกตน โดยระบุเหตุผลประกอบ 5 ข้อ คือ  

1) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ตัวแทนเจรจาฝ่ายรัฐบาลให้การกับศาลอุทธรณ์กรณีนายวีระว่า ผู้ต้องหาไม่มีการใช้ความรุนแรงและเห็นด้วยกับแนวทางการปรองดองแห่งชาติที่ เสนอโดยนายกรัฐมนตรี ซึ่งพวกตนในฐานะแกนนำ ยืนยันว่าแนวทางสันติวิธีไม่ใช้ความรุนแรงเป็นแนวทางเดียวในการต่อสู้ของ นปช. และข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่ง ชาติ (คอป.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน ไม่เคยได้รับการนำไปปฏิบัติ  

2) กรมสอบสวนคดีพิเศษจัดให้ผู้ต้องหาที่เป็นแกนนำอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่มี ความรุนแรง ทั้งอัยการและกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่คัดค้านการขอปล่อยตัวชั่วคราว  

3) พวกตนซึ่งเป็นแกนนำเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ทันทีที่ยุติการชุมนุม โดยทราบถึงข้อหาและอัตราโทษ และมีโอกาสที่จะหลบหนีแต่ก็ไม่ได้หลบหนี  

4) สถานการณ์ในประเทศดีขึ้น รัฐบาลยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน และการชุมนุมของ นปช.ที่ผ่านมาทุกครั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  

5) การสอบสวนคดีเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ต้องหาไม่น่าจะไปยุ่งเกี่ยวกับคดีหลักฐานหรือเป็นอุสรรคต่อการดำเนินคดีได้  

จากนั้นในเวลา 16.00 น.ขบวนของคนเสื้อแดงเคลื่อนออกจากหน้าศาลฎีกาไปบนถนนราชดำเนินมุ่งสู่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย บรรยากาศทั่วไปยังคงคึกคัก มีคนเสื้อแดงเต็มพื้นที่ถนนราชดำเนินตั้งแต่สี่แยกคอกวัวเลยไปถึงฝั่งของ สะพานผ่านฟ้า ที่ฐานรอบอนุสาวรีย์ซึ่งใช้เป็นเวที มีศิลปินนักร้องสลับกันขึ้นมาขับกล่อมบทเพลงอย่างต่อเนื่อง

ในช่วงค่ำ มีการนำสำเนาสูติบัตรของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่สำนักกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เพรอฟ ของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม คัดสำเนามาจากสำนักงานทะเบียนกลางของเมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ มาแจกจ่ายให้กับผู้สื่อข่าวด้วย โดยเอกสารระบุถึงรายละเอียดของวันที่และสถานที่เกิด ชื่อ เพศ ชื่อ-สกุลบิดามารดาและอาชีพ และวันที่ลงทะเบียน โดยเอกสารดังกล่าวลงวันที่คัดสำเนาเมื่อวันที่ 11 ก.พ.54   ในเวลา 20.00 น.นายจตุพร พรหมพันธุ์ ขึ้นปราศรัยกล่าวถึงสัญชาติของนายอภิสิทธิ์ว่า ผู้ที่เกิดในประเทศอังกฤษก่อนปี 2526 จะได้รับสัญชาติอังกฤษโดยอัตโนมัติและถาวรไปตลอดชีวิต เว้นแต่จะมีการทำเรื่องขอสละสัญชาติ หากนายอภิสิทธิ์ได้สละสัญชาติอังกฤษไปแล้ว ขอให้นำหลักฐานการสละสัญชาติออกมาแสดงต่อสาธารณะ จากนั้นได้นำสำเนาสูติบัตรของนายอภิสิทธิ์ฉายขึ้นจอโปรเจคเตอร์เพื่อแสดงกับ คนเสื้อแดง พร้อมอ่านรายละเอียดในสำเนาดังกล่าว และกล่าวว่าเรื่องสัญชาติของนายอภิสิทธิ์เป็นช่องทางเดียวที่จะนำตัวนาย อภิสิทธิ์ขึ้นสู่การดำเนินคดีในศาลอาญาระหว่างประเทศได้

นายจตุพรกล่าวถึงการมาชุมนุมที่หน้าศาลฎีกาในวันนี้ว่า ไม่ต้องการที่จะกดดันศาล การมาในวันนี้เพื่อต้องการกดดันหัวใจของคนเสื้อแดงกันเอง ว่าจะทำอย่างไรกับประเทศนี้ที่ไม่มีความยุติธรรมและไม่มีความเมตตาหลงเหลือ อยู่ และกล่าวถึงการขอประกันตัวแกนนำ นปช.ที่ถูกคุมขังว่า ได้ข่าวว่าจะมีการปล่อยตัวแกนนำเพียง 2 คนคือ นายก่อแก้ว พิกุลทอง และ นพ.เหวง โตจิราการ ซึ่งหากได้ 2 คนก็จะไม่เอา แกนนำทุกคนจะต้องได้รับการปล่อยตัวพร้อมกันทั้งหมด และขอให้คนเสื้อแดงติดตามการพิจารณาคำร้องขอประกันตัวในวันที่ 21 ก.พ.นี้   “เราต้องการให้เพื่อนของเราออกจากเรือนจำอย่างสง่างาม มีเกียรติ ไม่อยากให้คนพวกนี้มาแบ่งแยกทำลาย ให้ศาลตอบคำถามว่า นายไชยวัฒน์ จำลอง สนธิ ถูกตั้งข้อหาผู้ก่อการร้าย ทำไมได้รับการประกันตัว และทำไมพี่น้องเราไปมอบตัว แต่ไม่ได้รับการประกันตัว” นายจตุพรกล่าว   นายจตุพรได้หมายนัดการชุมนุมใหญ่คนเสื้อแดงในวันที่เสาร์ 12 มี.ค.ที่จะถึงนี้ โดยกล่าวว่าเป็นวันครบรอบ 1 ปีของการเคลื่อนพลทั้งแผ่นดิน และขอให้คนเสื้อแดงเดินทางมาชุมนุมกันมากๆ เป็นจำนวนหลายเท่าตัว เพื่อแสดงให้เห็นว่า การฆ่าคนเสื้อแดงและการคุมขังคนเสื้อแดงนั้น ประชาชนจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว