Skip to main content
sharethis
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) จวกรัฐบาลไม่ได้รู้สึกรู้สา ไม่ได้เห็นคนด้อยโอกาสอยู่ในสายตา สร้างความผิดหวัง พร้อมออกแถลงการณ์จี้ปัญหาเขื่อนปากมูล ต้องแก้ด้วยข้อมูลวิชาการ และต้องยุติในรัฐบาลนี้
 
สืบเนื่องจาก กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการนำปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ (P Move) เข้าสู่การพิจารณา ในวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา 4 เรื่อง คือ 1.กรณีเขื่อนปากมูน ให้มีการเปิดเขื่อน 5 ปี และมีการฟื้นฟูเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ 2.กรณีที่อยู่อาศัยของคนไร้บ้าน ให้มีการอนุมัติงบประมาณ 52.7 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหา 3.กรณีโครงการนำร่องธนาคารที่ดินภาคเหนือ ให้อนุมัติงบประมาณ 167 ล้านบาท และ 4.กรณีการดำเนินการจัดให้มีโฉนดชุมชน แต่มีเพียงกรณีที่เกี่ยวกับการอนุมัติงบประมาณเท่านั้นที่ผ่านการเห็นชอบ ส่วนกรณีปัญหาเขื่อนปากมูลจะนำเข้ามาพิจารณาในคณะรัฐมนตรีอีกครั้งภายในเวลา 2 สัปดาห์
 
จี้การแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล ต้องยุติในรัฐบาลนี้
 
วานนี้ (23 ก.พ.54) ขปส.ออกแถลงการณ์ ระบุถึง สาเหตุที่ทำให้ ครม.ชะลอการตัดสินใจในการการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวไปทำข้อมูลเสนอมาประกอบการพิจารณา เนื่องมาจากข้ออ้างว่าหากเปิดเขื่อนปากมูลแล้วจะทำให้น้ำในแม่น้ำมูนแห้ง แต่ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการที่รัฐบาลแต่งตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหา 2 คณะ ได้ศึกษาข้อมูล ทั้งด้านการเกษตรและการชลประทานจนยุติแล้ว
 
แถลงการณ์ ระบุด้วยว่าอุปสรรคที่สำคัญในขณะนี้คือ ความไม่รู้ของรัฐมนตรีบางท่าน ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะต้องใช้ความเป็นผู้นำ โดยนำข้อมูลจากงานวิชาการและผลการดำเนินงานของอนุกรรมการที่รัฐบาลตั้งขึ้น มาใช้ตัดสินให้ได้ข้อยุติ
 
“พวกเรามิอาจยอมให้ความไม่รู้ของรัฐมนตรีบางคน มาเป็นอุปสรรคต่อการหาข้อยุติเพื่อแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล และพวกเราจำเป็นต้องผลักดันให้การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ได้รับการแก้ไขในรัฐบาลชุดปัจจุบัน” แถลงการณ์ระบุ
 
 
จวก ครม. ไม่เห็นหัวคนจน
 
นางสาวนพพรรณ พรหมศรี ที่ปรึกษาเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) ซึ่งร่วมชุมนุมกับขบวนพีมูฟ กล่าวว่า ผลการพิจารณาเรื่องที่นำเข้า ครม.ทั้ง 4 เรื่อง ไม่ได้เป็นไปตามข้อสรุปที่ตกลงกันไว้และไม่สามารถนำไปสู่แนวทางการปฏิบัติ ได้และบางเรื่องยังถอยหลังเข้าคลอง เช่นกรณีโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน 5 หมู่บ้าน ครม.ยังมีความเห็นในประเด็นเดิมที่นำเข้า ครม.เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2553 ซึ่งอ้างว่าต้องหาความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดซื้อที่ดินหรือเจ้าภาพหลักที่ ต้องดูแลเรื่องนี้ แต่ความจริงรายละเอียดที่เสนอต่อ ครม.นั้นมีรายละเอียดชัดเจนในประเด็นพร้อมแล้ว
 
นางสาวนพพรรณ พรหมศรี กล่าวเสริมว่า รัฐบาลไม่ได้รู้สึกรู้สา ไม่ได้เห็นคนด้อยโอกาสอยู่ในสายตา  และพิสูจน์ถึงความไม่จริงใจในการแก้ปัญหา ทำให้เราผิดหวัง  เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ทำความเข้าใจระดับหน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วยข้าราชการ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชน แต่เมื่อนำเข้าสู่ ครม. คณะผู้บริหารสูงสุดไม่ได้มีมติตามนั้น นั่นคือการไม่เคารพต่อกระบวนการตัดสินใจทั้งหมดที่ผ่านมา ซึ่งเราจะเจรจากับรัฐบาล และจะผลักดันให้นำเรื่องนี้เข้า ครม. อีกครั้ง รวมถึงเรื่องที่อื่นๆ ที่กำลังรอเจรจาในกรณีเร่งด่วนอีก 24 กรณี
 
 
แจงความสำคัญ “โครงการบ้านมั่นคง” ต่อ “คนไร้บ้าน”
 
ส่วนกรณีบ้านมั่นคงของคนไร้บ้าน นางสาวนพพรรณกล่าวว่า ครม.เห็นชอบหลักการสนับสนุนงบประมาณ จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2554 งบกลาง รายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินงานตามโครงการ “บ้านมั่นคงคนไร้บ้าน” แก่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ส่วนรายละรายละเอียดงบประมาณให้ไปทำข้อตกลงกับสำนักงบประมาณโดยใช้หลักเกณฑ์ บ้านมั่นคง
 
ด้าน นายธเนศ มโนทัย ตัวแทนคนไร้บ้าน กล่าวถึงเหตุผลของการดำเนินโครงการบ้านมั่นคงคนไร้บ้านว่า เพราะคนไร้บ้านมีระดับเศรษฐกิจต่ำกว่าพี่น้องชุมชนแออัดมาก ไม่มีรายได้ประจำ บางวันต้องอาศัยขอข้าววัด และสถานสงเคราะห์ ในขณะที่เกณฑ์ตามบ้านมั่นคง ต้องกู้เงินซื้อที่ดินพร้อมบ้าน คนไร้บ้านไม่มีโอกาสกู้เงินมาซื้อที่หรือปลูกบ้าน ไม่มีหลักทรัพย์ ไม่มีหลักเกณฑ์ตามบ้านมั่นคง
 
 
ติดตามความคืบหน้าที่ดินกระทรวงทรัพย์ฯ
 
วันเดียวกันนี้ (23 ก.พ.53) แกนนำพีมูฟจำนวน 20 คน นำโดยนายเหมราช ลบหนองบัว เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน ได้เดินทางไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อติดตามข้อเรียกร้องซึ่งมีการเสนอไปเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ในกรณีที่กระทรวงทรัพย์ไม่ตอบสนองเรื่องการอนุมัติพื้นที่โฉนดชุมชน จำนวน 17 พื้นที่ ที่อยู่ภายใต้กระทรวงทรัพย์ จากจำนวน 35 พื้นที่นำร่องที่ ปจช.รับรองไว้ และเรื่องคดีความ กับแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมทั้งประเด็นอื่นๆ
 
ผลสรุปจากการติดตาม ทางกระทรวงทรัพย์ได้แจ้งว่าจะมีการประชุมระดับกระทรวงเพื่อพิจารณาพื้นที่ โฉนดชุมชนที่อยู่ภายใต้กระทรวงทรัพย์ในวันนี้ (24 ก.พ.54) และจะนำสรุปผลการประชุมนำเรียนรัฐมนตรีนายสุวิทย์ คุณกิตติ เพื่อให้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป ส่วนทางพีมูฟได้ยื่นข้อเรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กับทางพีมูฟในวันที่ 25 ก.พ.2554 ตามกรณีแนวทางการแก้ไขปัญหา 3 เรื่องข้างต้น
 
 
 
แถลงการณ์ ฉบับที่ ๙
แก้ปัญหาเขื่อนปากมูล แก้ด้วยข้อมูลวิชาการ และต้องยุติในรัฐบาลนี้
 
ตาม ที่รัฐบาลได้นำเรื่องกรณีปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔) จำนวน ๔ กรณีปัญหาแรกนั้น ผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ทั้ง ๔ กรณีปัญหา ในจำนวนนี้ มีกรณีปัญหาเขื่อนปากมูลที่ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยจะนำเข้ามาพิจารณาในคณะรัฐมนตรีอีกครั้งภายใน ๒ สัปดาห์
 
อย่าง ไรก็ตามขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ทราบว่าประเด็นท้วงติง คัดค้านการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ด้วยข้ออ้างว่าหากเปิดเขื่อนปากมูลแล้วจะทำให้น้ำในแม่น้ำมูนแห้ง อันจะทำให้ชาวบ้านที่ทำการเกษตรได้รับความเสียหาย คณะรัฐมนตรีจึงชะลอการตัดสินใจโดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวไปทำข้อมูล เสนอมาประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
 
ขบวน การประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ขอเรียนชี้แจงว่า ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการที่รัฐบาลแต่งตั้งทั้ง ๒ คณะ ได้ศึกษาข้อมูลมาอย่างละเอียดแล้ว ทั้งข้อมูลด้านการเกษตรและการชลประทานจนยุติแล้ว หากจะขาดก็เพียงแต่คณะรัฐมนตรีท่านอื่น ได้ทำการศึกษาข้อมูลเหล่านั้นดีพอหรือยัง
 
ดัง นั้นการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล อุปสรรคที่สำคัญในขณะนี้คือ ความไม่รู้ของรัฐมนตรีบางท่าน แต่ความไม่รู้ของรัฐมนตรี สามารถแก้ไขได้ด้วยการศึกษาข้อมูลจากรายงานผลการดำเนินงานของอนุกรรมการฯ ทั้ง ๒ คณะให้ละเอียด แล้วจะเข้าใจในข้อเท็จจริงที่มีอยู่
 
ขบวน การประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ยืนยันว่า ที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล เมื่อมาถึงขั้นตอนสุดท้ายของการตัดสินใจ ก็จะเกิดการเบี่ยงเบนประเด็นข้อเท็จจริง และสร้างความสับสน ดังนั้น ฯพณฯนายกรัฐมนตรี จะต้องใช้ความเป็นผู้นำ โดยใช้ข้อมูลจากงานวิชาการและผลการดำเนินงานของอนุกรรมการทั้ง ๒ คณะ ที่รัฐบาลตั้งขึ้น ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูลได้อย่างเป็นรูปธรรม ที่ยั่งยืนและเป็นธรรม และที่สำคัญทุกประเด็นที่รัฐมนตรีตั้งคำถามมีข้อยุติแล้ว ยังเหลือข้อยุติประการเดียวคือ ปัญหาของชาวบ้านยังไม่ได้รับการแก้ไข
 
อย่าง ไรก็ตามขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ยืนยันว่า พวกเรามิอาจยอมให้ความไม่รู้ของรัฐมนตรีบางคน มาเป็นอุปสรรคต่อการหาข้อยุติเพื่อแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล และพวกเราจำเป็นต้องผลักดันให้การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล ได้รับการแก้ไขในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
 
คนจนทั้งผองพี่น้องกัน
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
21 กุมภาพันธ์ 2554
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net