Skip to main content
sharethis

“จิตรา คชเดช” เข้าแจงความ สน.ชนะสงคราม ถูกอดีตผู้บริหารบริษัทนายจ้างเก่าข่มขู่จะทำร้ายหาว่าเป็นต้นเหตุทำให้ต้อง ตกงาน เจ้าตัวงงถูกเลิกจ้างมากว่า 2 ปีแล้ว หวั่นเป็นประเด็นการเมือง จากกรณีชูป้ายประท้วงนายกฯ

 
 
 
วันนี้ (12 มี.ค.54) เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.ที่สถานีตำรวจชนะสงคราม นางสาวจิตรา คชเดช อดีตประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ เข้าแจ้งความกรณีเมื่อประมาณ 17.00 น.วันเดียวกันนี้ได้ไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ขณะที่เดินอยู่บริเวณถนนราชดำเนิน ได้ถูกชายซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารบริษัท บอดี้แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมเพื่อน เข้ามาพูดจาข่มขู่จะทำร้าย โดยท้าทายให้ออกจากพื้นที่ชุมนุม
 
นางสาวจิตรา เล่าว่า ชายคนดังกล่าวได้เข้ามาพูดจาขู่อาฆาตโดยระบุว่าเธอเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องตก งาน ซึ่งเธอยอมรับว่ารู้จักชายคนกับดังกล่าวในฐานะเป็นคนที่ทำงานฝ่ายบริหารของ บริษัท บอดี้แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ส่วนเธอในขณะนั้นเป็นประธานสหภาพแรงงานฯ แต่เธอถูกเลิกจ้างจากกรณีสวมเสื้อรณรงค์ “ไม่ยืนไม่ใช่อาชญากร คิดต่างไม่ใช่อาชญากรรม” โดยบริษัทฯ ให้เหตุผลว่าทำให้เสียชื่อเสียง หลังจากนั้นชายคนดังกล่าวได้ถูกบริษัทเลิกจ้างพร้อมคนงานอีก 1,950 คน โดยบริษัทฯ อ้างว่าไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามาทำให้ขาดทุน ซึ่งโดยส่วนตัวเธอคิดว่าไม่มีเหตุผลที่ชายคนดังกล่าวจะต้องโกรธเคือง อีกทั้งกรณีการเลิกจ้างก็ผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว
 
“มึงไปฟ้องนายทำให้กูตกงานเหรอ” “เรื่องนี้กูจะไม่ยอมง่ายๆ กูจะไม่ปล่อยมึงแน่” “อย่าให้กูเจอมึงอีกกูฆ่ามึงแน่” จิตรายกตัวอย่างคำพูด ข่มขู่ของชายคนดังกล่าว
 
อดีตประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า หากชายคนดังกล่าวเป็นผู้ร่วมชุมนุมเสื้อแดงก็ควรมีโอกาสได้พบกันก่อนหน้านี้ เพราะเธอเข้าร่วมการชุมนุมอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งเมื่อดูจากการแต่งกายแล้วชายคนดังกล่าวไม่เหมือนกับผู้มาร่วมชุมนุม โดยทั่วไป ทั้งนี้เธอคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นการข่มขู่ด้วยเหตุผลทางการ เมือง จากกรณีที่ก่อนหน้านี้เธอได้ไปแสดงความคิดเห็นด้วยการชูป้ายประท้วง นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวาระ100 ปี วันสตรีสากล ที่อาจทำให้ผู้มีอำนาจบางกลุ่มไม่พอใจ และการคุกคามเช่นนี้ทำให้มองเห็นได้ว่าเธอมีประเด็นขัดแย้งส่วนตัวอยู่ หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่ถูกเชื่อมโยงกับประเด็นทางการเมือง
 
นางสาวจิตรา กล่าวด้วยว่า จากการเข้าแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามการติดตามเชิญตัวผู้ก่อเหตุเพื่อมาสอบถาม เหตุการณ์แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากชายคนดังกล่าวอยู่ในพื้นที่การชุมนุมซึ่งเป็นพื้นที่ในความดูแลของ เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ดังนั้นขณะนี้จึงทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตามอาจต้องมีการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อดำเนินการทางกฎหมาย อื่นๆ ต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net