Skip to main content
sharethis
พรรคการเมืองใหม่เสียดายรัฐบาลรีบยุบสภา
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่พรรคการเมืองใหม่ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรค นายสำราญ รอดเพชร รองหัวหน้าและโฆษกพรรค และ นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย นายสำราญ กล่าวถึงท่าทีของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่า จะมีการยุบสภาในช่วงเดือน พ.ค.ว่า มีความชัดเจนแล้วว่าจะมีการประกาศยุบสภาในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค.เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งในช่วงปลายเดือน มิ.ย.หรืออย่างช้าต้นเดือน ก.ค.ซึ่งแม้จะเป็นไปตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย และนายกฯมีอำนาจ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่รัฐบาลไม่ใช้เวลาที่เหลือตามวาระอีก 9-10 เดือน แก้ไขและปฏิรูปปัญหาสำคัญๆ ของบ้านเมืองให้แล้วเสร็จ
 
นายสำราญ กล่าวต่อว่า แท้จริงแล้วการรีบยุบสภาภายใต้ข้ออ้างให้เสียงส่วนใหญ่ของประเทศชี้อนาคตของ บ้านเมือง ตามที่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวอ้างนั้น น่าจะเกิดจากการอับจนปัญญาและจนความสามารถที่จะเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย และที่สำคัญ เกิดจากกรอบความคิดกลเกมทางการเมือง โดยวาดหวังว่า ตัวเองจะกลับมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีอะไรแน่นอนแม้แต่น้อย และแม้สภาวการณ์ทางการเมืองเบื้องหน้ายังไม่มีอะไรแน่นอนและน่าเป็นห่วง และการเลือกตั้งก็เป็นเพียงวิธีการหนึ่งกลไกหนึ่งของประชาธิปไตย แต่พรรคการเมืองใหม่ขอทำหน้าที่เสนอตัวเองเป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชนคนไทย โดยจะส่งผู้สมัครที่กลั่นกรองคัดสรรแล้ว ให้มากที่สุดตามความเหมาะสม
 
โฆษกพรรคการ เมืองใหม่ ยังได้สนับสนุนแนวคิดของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ให้รัฐบาลใช้เวทีสภาออกกฎหมายลูกรองรับการเลือกตั้ง แทนที่จะใช้การออกระเบียบของ กกต.ดำเนินการแต่เพียงฝ่ายเดียว และยังฝากไปถึงการทำหน้าที่ของ กกต.ด้วยว่า ล่าสุด คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณกว่า 4 พันล้านบาท เพื่อให้ใช้ในการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งถือว่ามากกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนถึง 1 พันล้านบาท ดังนั้น กกต.จะต้องพิสูจน์ตัวเองในการทำหน้าที่กำกับดูแลให้การเลือกตั้งเป็นไป อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมให้ลงได้ หากทำไม่ได้ก็ควรพิจารณาตัวเองหรือเสนอทางออกทางเลือกที่ดีกว่า กกต.
 
 
สมศักดิ์ยันการยุบสภาไม่ใช่การคืนอำนาจให้ประชาชน
ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การยุบสภาของรัฐบาลนั้น ไม่ควรใช้คำว่าคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะตามรัฐธรรมนูญเมื่อมีการเลือกตั้งไปแล้ว ประชาชนก็ยังมีอำนาจในการตรวจสอบ หรือมีสิทธิของประชาชนอยู่ แต่ที่ผ่านมาการยุบสภาเป็นเรื่องเครื่องมือในการแก้ปัญหาของนักการเมือง ที่ไม่สามารถจัดการกันในกลุ่มนักการเมืองได้ จึงต้องตัดสินใจยุบสภาให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยมีตัวอย่างเช่นการที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม ก็ถูกศาลตีความว่ากระทำผิด ขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.แต่เมื่อมีการเลือกตั้งก็สามารถกลับมาได้ ทั้งที่ศาลตัดสินว่ามีความผิดไปแล้ว ซึ่งไม่น่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในระบอบประชาธิปไตย เป็นการใช้เสียภาษีของประชาชนจัดการเลือกตั้งโดยเปล่าประโยชน์
 
หัวหน้าพรรค การเมืองใหม่ กล่าวอีกว่า มีข้อมูลจาก กกต.ที่ออกมายอมรับว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีการซื้อเสียงกันอย่างมโหฬาร ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235-236 นั้น กำหนดให้ กกต.ทำหน้าที่ให้การเลือกตั้งสุจริต เที่ยงธรรม เสมอภาค ดังนั้น เมื่อ กกต.มีข้อมูลเช่นนี้แล้ว จึงควรวางแนวทางการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในระดับ กกต.จังหวัด ที่ไม่ควรให้มีการครอบงำของกลุ่มการเมือง เบื้องต้นควรที่จะมีการการกำหนดวงเงินในการหาเสียงเป็นอำนาจของ กกต.ที่ปัจจุบันกำหนดให้ผู้สมัครแต่ละคนไม่เกิน 1.5 ล้านบาท แต่ก็มีการใช้เกินกันเป็นปกติ ดังนั้น กกต. ควรออกระเบียบใหม่ กำหนดงบประมาณ 3-5 แสนบาทต่อผู้สมัคร 1 คนก็น่าจะเพียงพอ เพื่อนำงบประมาณที่เหลือไปช่วยพรรคการเมืองเล็กๆ เป็นการเปิดโอกาสแสดงวิสัยทัศน์เป็นทางเลือกประชาชน รวมทั้งควรมีการเข้มงวดเรื่องการกระทำผิด ที่ต้องให้ใบแดง ตัดสิทธิ์ไม่ให้ลงสมัคร เนื่องจากการให้เพียงใบเหลือง เปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิด สามารถกลับมาลงสมัครใหม่และอาจได้รับเลือกอีก ซึ่งไม่มีประโยชน์ เพราะไม่สุจริตเที่ยงธรรมไม่ใช่ประชาธิปไตย กลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่ประชาชนต้องรับเคราะห์
 
 
สมศักดิ์ยัน กมม. พร้อมลงเลือกตั้ง แต่ไม่กำหนดจำนวน ส.ส. เพราะเท่ากับดูถูกประชาชน
ในส่วนกรณี ความพร้อมของพรรคการเมืองใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในฐานะพรรคการเมือง เมื่อมีการเลือกตั้ง ก็ต้องมีความพร้อมที่จะลงสมัคร ซึ่งขณะนี้จะเริ่มมีการกลั่นกรองตัวบุคคล โดยในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 30 มี.ค.ก็ประกาศขั้นตอนและกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัคร เพื่อให้ได้คนเก่งคนดีมาเป็นทางเลือกให้ประชาชน อย่างไรก็ตาม ตนขอยืนยันว่า พรรคจะไม่ใช้วิธีสกปรก เพราะปรารถนาที่จะเห็นเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรมยกระดับไปสู่อารยะที่ เป็นประชาธิปไตยแท้จริงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลเรื่องของความรุนแรง หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นรัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบ รวมทั้งข้าราชการระดับสูง โดยเฉพาะตำรวจที่มีหน้าที่ดูแลบบ้านเมือง ไม่สามารถละเลยได้
 
ผู้สื่อข่าว ถามว่า พรรคการเมืองใหม่ได้กำหนดเป้าหมายและจำนวน ส.ส.ในการเลือกตั้งไว้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หากทำเช่นนั้นจะเป็นการดูถูกประชาชน เพราะไม่มีใครที่สามารถรู้ได้ว่า พรรคจะได้คะแนนเท่าไร เพียงแต่พรรคมีหน้าที่นำนโยบายที่ทำได้จริงไปเสนอต่อประชาชน รวมทั้งคนที่ซื่อสัตย์ เสียสละ ซึ่งผ่านการคัดเลือกกลั่นกรองจากประชาชนในพื้นที่ สาขาพรรค ศูนย์ประสานงาน และคณะกรรมการคัดเลือกมาเป็นลำดับ เพื่อสร้างความมีส่วนร่วมในการเสนอตัวผู้สมัครของแต่ละพื้นที่ อย่างไรก็ตามพื้นที่เป้าหมายของพรรคคงเป็นพื้นที่ในเมืองเขตชั้นในของแต่ละ จังหวัด ในส่วนของผู้สมัครบัญชีรายชื่อนั้นรัฐธรรมนูญกำหนดให้ทุกพรรคต้องส่งเต็มจำน วนคือ 125 คน โดยเราจะคำนึงถึงเพศ อาชีพ ตัวแทนภูมิภาค ให้มีความหลากหลายที่สมดุลและเท่าเทียมกัน ทั้งนี้ ยังมีแนวคิดที่จะหนุนให้สตรีเข้าไปมีบทบาทในทางการเมืองให้มากขึ้นด้วย
 
เมื่อถามต่อ ถึงการระดมทุนของพรรค หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่กล่าวว่า พรรคเราไม่มีนายทุน มีการบริหารจัดการที่ตรงไปตรงมา ใช้งบประมาณจากค่าบำรุงของสมาชิก ในส่วนการระดมทุนก็มีบ้าง แต่ไม่มากนัก เน้นระดมทุนผ่านทางมวลชนที่เคยทำงานร่วมต่อสู้กันมา คงไม่ใหญ่โตอย่างที่บางพรรคทำ
 
 
สุริยะใสชี้รัฐบาลชิงยุบสภาเป็นการหนีปัญหา
ขณะที่ นายสุริยะใส กล่าวเสริมว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตเรื่องการกำหนดช่วงเวลาเลือกตั้งหรือปฏิทินการเมืองของ นายกฯ หลังหารือ กกต.ว่า ไม่เคยมีรัฐบาลไหนส่งสัญญาณหรือกำหนดปฏิทินเลือกตั้ง ทั้งที่อายุรัฐบาลเหลืออีกกว่า 8 เดือน กำหนดล่วงหน้ากว่า 4 เดือน ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการที่รัฐบาลชุดนี้อับจนปัญญาแก้ปัญหาประเทศ สถานการณ์รุมเร้ารัฐบาล ทั้งการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ถูกเปิดโปงมากขึ้น ทำให้สังคมเริ่มเห็น และยังมีปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องประกาศกำหนดการยุบสภา เป็นเหตุให้ประชาธิปไตยถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือของนักการเมืองอีกครั้ง และไม่ใช่ปรากฏการณ์ทางประชาธิปไตยอย่างที่คนในพรรคประชาธิปัตย์พยายามอวด อ้าง แต่เป็นการหนีปัญหามากกว่า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net