Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

บันทึกจากสาวเสื้อแดงผู้ถูกการ์ด นปช.คุมตัวส่ง จนท.ตำรวจ เนื่องจากเข้าใจผิดว่าจะมาแจกเอกสารหมิ่นเบื้องสูง

 
จากกรณีที่การ์ด นปช.ได้คุมตัว "ปลา" หญิงสาวเสื้อแดงคนหนึ่งพร้อมด้วยเอกสารเผยแพร่กว่าพันแผ่นส่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเข้าใจว่าจะมาแจกเอกสารหมิ่นเบื้องสูง ในเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2554 ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แม้ว่าเหตุการณ์จะยุติลงด้วยดี แต่สิ่งที่ตามมาก็คือกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อแกนนำ นปช.เป็นไปอย่างกว้างขวาง และนี่คือปากคำของเหยื่อที่พยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นจากทัศนะของเธอ
 
เรียน พี่น้องที่เคารพทุกท่าน                                          
 
13 มี.ค.54  
    
หลังจากผ่านพ้นคืนวันอันยากลำบากเมื่อวาน (12 มี.ค.) ตอบคำถามมิตรสหายที่ห่วงใยพร้อมให้ข้อมูลผู้ใหญ่อีกทั้งวัน รวมไปถึงพยายามจดจ่อกับข้อความมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างดุเดือด ทั้งรุนแรง เตือนสติ ติติง ด่าทอ ชื่นชม และให้กำลังใจ ซึ่งปลายินดีน้อมรับทุกความคิดเห็น จึงคิดว่าคงปล่อยทำมึนๆ อึนๆ อยู่เฉยอีกไม่ได้ เขียนอะไรเพื่อรับผิดชอบการกระทำ และชี้แจงเหตุการณ์เสียหน่อยดีกว่า
 
เรื่องไม่มีอะไรมาก เตรียมเอกสารมา 3 ชุด โดยจุดประสงค์ในใจเพื่อให้ความรู้กับชาวบ้าน เจตนาตั้งใจให้ชาวบ้านที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต ได้เข้าถึงข่าวสาร รับรู้เหตุการณ์บ้าง
 
หลังจากกรำงานหนักทั้งอาทิตย์ อดนอนวันศุกร์อีกทั้งคืน เพื่อผลิตงานที่อาจจะเป็นได้ทั้งโบ ดำและโบแดงสำหรับใครหลายๆ คน เสร็จตอนรุ่งสาง อาบน้ำแต่งตัว เตรียมอุปกรณ์กล้อง และโน้ตบุ๊ก เดินทางข้ามจังหวัด เอาต้นฉบับเอกสารมาหาที่พิมพ์ สอบถามร้านถ่ายเอกสารและโรเนียวมาไม่ต่ำ กว่า 15 ร้าน เพื่อหาร้านที่ถูก และดีที่สุด ตั้งแต่มหาชัย จุฬา ธรรมศาสตร์ วังหลัง ปิ่นเกล้า แล้วก็กลับมาจบที่วังหลัง เงินติดตัว มีอยู่ 1500 บาท ทำได้แค่อย่างมาก 3 รีม หน้าหลัง ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม และด้วยความประมาทไม่ได้กดเงินออกมา พอจะใช้ขึ้นมาจริงๆ บัตร ATM และบัตรเครดิตทั้งหมดที่มี กดไม่ได้ ด้วยเหตุผลให้ติดต่อธนาคารเจ้าของบัตร ตกลงใจ X-rox ทั้งหมดอย่างละรีม เสร็จสิ้นขบวนการ ราวๆ เกือบบ่าย 2 ข้าวเช้ายังไม่ตกถึงท้องและยังไม่ได้นอนเลย ถึงที่ชุมนุมราวบ่าย 2 กว่าๆ ฝนเริ่มโปรยลงมาพอเป็นกระษัย ในระหว่างหันรีหันขวางจะเอายังไง ก็เริ่มมีคนสงสัยใฝ่รู้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมวลชนสูงอายุ ที่ไม่น่าจะมี Facebook ไว้ระบาย เริ่มเดินมาเมียงมองสงสัยสอบถาม Target มาแล้ว!!!
 
จากนั้นคนแรกเริ่มดึง คนที่สองเริ่มตาม เอกสารเริ่มอยู่ในมือผู้สนทนา หันมาอีกที มีคุณการ์ดหนึ่งคนมาคว้าข้อมือ เอกสารออกไปอย่างค่อนข้างรุนแรง เจรจาว่าจะแจกอะไร ควรขออนุญาตส่วนกลาง เราจึงตกลงให้เค้าเดินนำเราไปที่ส่วนกลางเพื่อชี้แจงจุดประสงค์ในการแจก เอกสารอย่างเต็มใจ ไม่มีท่าทีขัดขืน เมื่อไปถึง เราขอเดินเข้าไปชี้แจงเรื่องที่มาของเอกสารและแสดงตนอย่างบริสุทธิ์ใจ การ์ดเดินไปรายงานผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เราค่อนข้างคุ้นเคย มีหน้าที่ดูแลการ์ดส่วนกลางโดยตรง หลังจากพบปะเห็นหน้าทักทาย ผู้ใหญ่รับรองกับทุกคนถึงสถานะของเราว่าไม่ใช่คนอื่นมาแฝง แกรู้จัก เราจึงแจ้งเรื่องเอกสารว่าจะขออนุญาต จากนั้นได้เดินแยกออกมาเพื่อกลับออกมาจากหลังเวที จากนั้นมีชายประมาณ 6 – 7 คน เข้ามาพูดคุยยึดเอาเอกสารไปจากมือเรา พร้อมทั้งขอค้นตัว ค้นกระเป๋า เมื่อความเหนื่อย อดนอน บวกกับความไม่เข้าใจในพฤติกรรมของการ์ดเริ่มปะทุออกมาในเวลาเดียวกัน ความไม่พอใจจึงเริ่มบังเกิด เราขอร้องแค่เพียงให้เขาอ่านเอกสารสักนิด เขาตอบกลับมาว่า “ไม่อ่าน ไม่มีอำนาจตัดสินใจ” และไม่ให้เรากลับเข้าไปพบผู้ใหญ่ท่านนั้นเพื่อสอบถามความชัดเจน ซึ่งภายหลังเราทราบว่าไม่ใช่การ์ดที่รับผิดชอบส่วนกลาง เพียงแต่อาจจะหวังดีและด่วนตัดสินใจ เนื่องจากซื่อตรง เคร่งครัดและตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อตกลงกันไม่ได้ เนื่องจากเราไม่เข้าใจว่าทำไมจึงไม่ อ่านเอกสารทบทวนก่อน พิจารณาก่อน เมื่อเริ่มไม่รู้เรื่อง เริ่มเสียงดัง เค้าบอกเราว่า โอเค งั้นน้องมาคุยกับพี่ด้านนอก เราจึงเดินตามออกไป ด้วยเข้าใจว่าคงไม่น่ามีอะไร น่าจะตกลงเจรจากันได้ แต่ผลปรากฏ คือ เขานำเอกสารทั้งหมดไปวางปึ้ง! ที่โต๊ะเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมสำทับว่า น้องนี่ทำเอกสารหมิ่นมาแจก ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำและพิจารณาด้วย เราหันไปมองหน้าพวกเขาด้วยความไม่เข้าใจ ทวงถามว่าเหตุใดที่ด่วนตัดสินเรา ไม่ฟังความ แทนที่จะเจรจาคุยกัน แต่กลับเลือกที่จะทำเรื่องราวให้บานปลายใหญ่โต เราได้แต่บอกว่าขอให้ใครสักคนในที่นี้ช่วยอ่านสักนิด ช่วยพิจารณา ก่อนได้มั้ย จากนั้นแล้ว หากจะตัดสินเราว่าผิดอย่างไร ก็ค่อยมาว่ากันต่อ
 
ไม่มีคำตอบใดๆ มีเพียงแต่สายตาเหยียดหยามดูแคลนของการ์ดเพียงบางคน(ที่เข้าใจ ว่าเรามาแฝง) กับการตัดสินคนโดยด่วนสรุป และประโยคที่ว่า “เดี๋ยวเราไปคุยกันที่โรงพัก” จากคุณตำรวจ เราได้แต่ก้มหน้าจำทนกับความไม่ยุติธรรมที่เกิดตรงหน้า (ทราบภายหลัง --- คุณตำรวจบอก กลัวคนสวยโดนรุมประชาทัณฑ์ จากคนที่ไม่เข้าใจ)
 
จริงอยู่ ไม่ได้จับกุมคุมขัง
จริงอยู่ ไม่ได้ใส่กุญแจมือ
จริงอยู่ ไม่ได้มีการลงบันทึกการจับกุม
แต่หัวใจ โดนคุมขังไปแล้วเสียสิ้น... กับคำกล่าวหาที่คุณตำรวจคนหนึ่ง เอ่ยกับเราว่า “คุณมันศรีธนญชัยนี่ !!!”
 
โดนพิพากษา???
 
ไปถึงสน.หลังจากคุณตำรวจทุกคนช่วยกันอ่านเอกสาร และกำลังพิจารณา เราตัดสินใจขอใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อยืนยันถึงที่มาของข้อมูล ว่าเป็นข้อมูลสาธารณะ เผยแพร่อย่างเปิดเผย ไม่ได้มีลับลมคมในเป็นที่ปกปิดแต่อย่างใด ความหวังเรายังคงมี ว่าคุณตำรวจอาจจะเข้าใจเนื้อหาที่เราพยายามสื่อสาร ประกอบกับไม่มีเจตนาจะรบกวนให้ผู้อื่นต้องมาเป็นธุระลำบาก เราจึงไม่ได้โทรติดต่อขอความช่วยเหลือจากใคร ใดๆ แต่สักพักไม่นาน มีคนหลายคนทยอยมากันอย่างที่เราเองก็ยังคงนึกงงๆ เพื่อนๆสนนท. ที่เราเองไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว ได้แต่ทราบจากหน้าค่าตา ว่าใครเป็นใครในบัญชีรายชื่อเพื่อนใน FB ไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ เพื่อนๆคุณพ่อที่มาเป็นทั้งตัวแทนพรรคการเมืองและตัวแทนทางใจกับครอบครัว เพื่อนๆ พี่ๆ รวมไปถึงผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถืออีกหลายท่าน ทนายความและอาจารย์กฎหมาย และอีกนับไม่ถ้วนที่ทยอยกันมาอย่างไม่ขาดสาย ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเพื่อมารับฟังข่าวสารด้วยความห่วงใยและพยายามหาทาง ช่วยเหลือ (แต่ไม่ยักกะมีใคร เอาข้าวผัดกับโอเลี้ยงมาเยี่ยมแฮะ =_=” ) ระหว่างนั้นเราชี้แจงเรื่องที่มาข้อมูลและจุดประสงค์ในการจัดทำให้ จพนง.สืบสวนได้ทราบ พร้อมทั้งคุยกันอย่างเปิดใจ เป็นความโชคดีที่คุณตำรวจหลายๆท่านเปิดโอกาส ยินดีรับฟังคำอธิบาย ประกอบทั้งคำให้การ, หลักฐาน และเจตนา เจ้าพนักงานสืบสวนจึงลงความเห็นว่าไม่มีความผิด ไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาใดๆได้ ซึ่งก่อนจะได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน หลังจากอยู่ที่นั่นมาร่วม 6 - 7 ชั่วโมง รองผู้กำกับการยืนยันว่าเราต้องแสดงตน แหล่งที่อยู่ที่ชัดเจน เราจึงบริสุทธิ์ใจโดยพาไปที่บ้าน และได้กลับมาที่ชุมนุมอีกครั้ง เพื่อมาแสดงตนว่าบริสุทธิ์ และมาขอคำอธิบาย
 
ได้รับทราบว่าทุกคนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้รับทราบว่าไม่มีใครมีเจตนาอยากจะให้เกิด เราเองก็เช่นกัน...
 

ในกรณีนี้ปลาจะขอไม่โทษว่าเป็นความผิดของใคร หรืออะไร แต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และความเข้าใจผิดกันล้วนๆ หลายครั้งที่เราพลาดเพราะความเป็นห่วง กังวล เฉกเช่นเดียวกันกับที่แกนนำและเจ้าหน้าที่การ์ดที่ต้องดูแลรับผิดชอบคนจำนวน มากที่มีพฤติกรรมหลากหลาย เค้าเหล่านั้นย่อมต้องห่วง กังวลถึงเหตุร้ายไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งนี่อาจจะเป็นจุดอ่อนของคนเสื้อแดง
 
** 6 ศพวัดปทุม ตายเพราะพยายามช่วยเหลือกันและกัน
** วีรชนหลายคนตาย เพราะเลือกที่จะปกป้องพี่น้องคนอื่นๆ ไม่ให้ทหารเข้ามาถึงตัว จึงเลือกที่จะเป็นด่านหน้าแทนที่จะหลบหนี
** วีรชนหลายคนตาย ในขณะที่พยายามช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่บาดเจ็บและกำลังลำบาก
*** แดงนปช. มีความคิดเห็นไม่ตรงกันกับแดงสยามในบางจุดบางประเด็น เนื่องจากแดงนปช. ห่วงผลกระทบต่อมวลชน ในขณะที่แดงสยามห่วงความรู้สึกของมวลชน แต่ไม่ว่ายังไง ทั้งสองแดง มีประชาชนเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งนั่นถือเป็นสิ่งดี***
*** หลายครั้ง ใครหลายคนต่างนำเสนอความคิดเห็นของตนเองกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ แต่บทสรุปสุดท้าย ต่างคนต่างก็ห่วงชาวบ้าน ห่วงอนาคตประเทศชาติ และห่วงหาอาทรต่อความยุติธรรมเฉกเช่นเดียวกัน ***

 
ครั้งนี้ก็เช่นกัน พวกคุณหลายคน มีปัญหากัน ขุ่นเคืองและตั้งคำถามใส่กัน เพราะความห่วง ---- ห่วงปลาบ้าง ห่วงภาพลักษณ์บ้าง ห่วงสถานภาพมวลชนโดยรวมบ้าง และห่วงชีวิต – จิตวิญญาณของมวลชนบ้าง
 
ข้อดีของสิ่งๆ นี้ คือ บ่งบอกให้รู้ว่าเรายังคงเป็นมนุษย์ มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกนึกคิดดีอยู่ ไม่เลือดเย็นเข่นฆ่าใครได้ เหมือนอย่างฝ่ายตรงข้ามที่เรานึกรังเกียจในวิธีคิดและปฏิบัติ ปลาเชื่อและพยายามเชื่อเหลือเกินว่าเราจะไม่สามารถบูชายันต์พวกเดียวกันเอง ได้ไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม
 
นอกจากนี้ ปลาขออนุญาตชี้แจงเหตุผลที่มาที่ไปของการจัดทำเอกสารชุดนี้ให้เพื่อนๆ ได้รับทราบ..
ประการแรก ขออนุญาตแจ้งความจำนงก่อนเลยว่า เจตนาทำมาเพื่อเผยแพร่เนื้อหาให้แก่พี่น้องเราที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงอินเทอร์ เน็ตให้ได้รับรู้ รับฟังข่าวสาร เข้าถึงเหตุการณ์ให้ง่ายขึ้น 
ดังนั้น กลุ่มเป้าหมาย หรือ Target จึงไม่ใช่คนอื่นคนไกล เป็นพี่น้องลุงๆ ป้าๆ เรานี่เอง ที่หากจะให้ญาติผู้ใหญ่เราเหล่านั้นไปเปิด Facebook สักอัน เพื่ออัพเดตข่าวสารนั้น คงจะกล้ำกลืนฝืนทนเต็มที
ในแผ่นที่ว่าด้วยเรื่อง 112 นั้น ได้ประมวลข้อกฎหมายมาตราต่างๆเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหลักและแนวทางให้เห็นถึงข้อกำหนดและบทลงโทษตามมาตราต่างๆ รวมไปถึงชี้แจงตามแนวทางถึงข้อดีและข้อเสียของการมีอยู่ คำจำกัดความและความแตกต่าง ของคำว่าวิพากษ์วิจารณ์กับคำว่าหมิ่นประมาทว่าต่างกันยังไง รู้ไว้อาจจะเป็นประโยชน์ในแนวทางและป้องกันการถูกกลั่นแกล้ง ได้ในระดับหนึ่ง หลายคนอาจจะคิดว่าปลาหมิ่นเหม่ ยุยงชี้ช่องให้ทำผิดกฎหมาย แต่ในกรณีความคิดเห็นปลาแล้ว คุณจะมาแอ๊บว่าเมืองไทยเมืองพุทธไม่ควรมีหวยบนดินตอนนี้ ก็คงจะไม่ทันแล้ว ในเมื่อคนไทยเล่นหวยใต้ดินกันวันละ 3 เวลา จะเลิกก็แทบจะลงแดง แต่จะดีกว่าหรือไม่ หากแนะแนวทางให้เค้าเล่นพอเป็นกระษัย เป็นพิธีและเล่นยังไงไม่ให้หมดตูด หมดตัว!!! 
 
ธรรมชาติมนุษย์ มันชอบสิ่งเร้นลับไม่รู้หรือ???
 
ปลายอมรับว่าเนื้อหาไม่มีจุดใดที่จะมองเป็นความผิด เพราะเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ขึ้นอยู่กับเจตนาของการตีความ คนอ่าน ถ้าอ่านโดยทั่วๆ ไป ไม่มีเจตนาเคลือบแคลง ก็จะเล็งเห็นว่าเป็นข้อมูลธรรมดาสามัญทั่วไป ไม่แตกต่าง แต่ปลาเชื่อว่าหากใครก็ตามที่อ่านแล้วเกิดความคิดไม่ดีในใจ เจตนาร้าย นั่นก็เป็นเพราะเจตนาในใจของคนคนนั้นเป็นเหตุ อยู่เอง จริงมั้ย?? คุณตำรวจ (ที่เขียนเช่นนี้ เพราะเชื่อมั่นแน่ว่า พวกเขาอ่านอยู่ตามหน้าที่ ---- หากคุณตีความออกมาไม่ดี ก็แสดงว่าใจคุณเองก็ไม่ซื่อเช่นกัน มิใช่หรือ)
 
อีกประการในวิธีคิดของปลา คือ มวลชนไม่ใช่ของใคร คนใดคนหนึ่ง เป็น”ประชาชน”เค้าควรมีสิทธิที่จะได้คิด และรับฟังทางเลือก ประกอบการพิจารณาตัดสินใจ ว่าจะเดินในทิศทางการต่อสู้รูปแบบไหน
 
หากเปรียบเทียบเป็นปลา ไม่ว่าจะเจ็บหรือจะตาย ควรจะได้รู้ว่าตัวเองจะเจ็บ หรือตายเพราะอะไร ทำไม
 
ประชาชนควรลุกขึ้นสู้เพื่อตัวของตัวเอง สู้เพิ่อสิทธิ เสรีภาพ พื้นฐานของตนเอง ไม่ใช่เอาชีวิตไปผูกติดกับใคร
สุดท้าย ขออนุญาตยุติความขัดแย้งและการเข้าใจผิดใดๆ หากมีข้อสงสัย ติติง หรือ ตักเตือนแนะนำ สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ทางเพจค่ะ
-------------------ความผิดพลาดทุกอย่าง ทุกประการ ขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว ค่ะ ------
 
 เพื่อลดทอนความขัดแย้ง --- หากช่วยนำไปเผยแพร่ข้อเท็จจริง รบกวนพยายามลงทั้งดุ้น โดยไม่ฆ่าตัดตอนนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^_^
 

---- หากประชาชนสู้ด้วยความรู้สึกนึกคิด และการตัดสินใจของตนเองอย่างแท้จริง จะแปรเปลี่ยนเป็นมวลชนที่ยั่งยืนและ เหนียวแน่น แต่หากมาด้วยความไม่รู้ ก็จะสูญเสียเพราะความไม่รู้ หากมาด้วยความไม่แน่ใจ วันหนึ่งปริมาณจะสั่นคลอนไป เฉกเช่นเดียวกันกับมวลชนกลุ่มอื่น ที่มีให้เห็นแล้วเป็นอุทาหรณ์ ----
 

  • ขอขอบคุณทุกๆความช่วยเหลือ จากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ไปเป็นกำลังใจที่โรงพักทุกท่าน มันเป็นความอบอุ่น และน้ำใจอันยิ่งใหญ่ บ่งบอกให้รู้ว่า “พวกคุณไม่ทิ้งเพื่อนแน่นอน”
  • ขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆ ท่านที่เป็นธุระจัดหา ประสานงานขอความช่วยเหลือทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง
  • ขอขอบคุณแดงสยาม สนนท. ทนายอานนท์ พี่ๆ นักข่าว นักวิชาการ นักกฎหมาย และนักต่อสู้เรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียมพื้นฐานทุกคน สำหรับแรงสนับสนุน ความเข้าใจ กำลังใจ และการให้ความช่วยเหลือ แนะนำด้านกฎหมาย
  •  ขอขอบคุณแดงนปช. รวมไปถึงแดงปัจเจก แดงเสรีชน ทุกคน ที่เป็นห่วงเป็นใยถามไถ่ และร่วมผนึกกำลังกันให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถ
  • ขอขอบคุณ ผู้ใหญ่ (พี่ชายคนนั้น) , ดร.ประแสง และคุณณัฐวุฒิ ที่พยายามติดต่อประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ช่วยชี้แจง ข้อเท็จจริง และเหตุการณ์ รวมทั้งอุดช่องโหว่ไม่ให้ปลาถูกฉกฉวยจังหวะในการให้ร้ายเพิ่มเติม
  • ขอขอบคุณคุณตำรวจ ส่วนใหญ่ที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งความยุติธรรม เข้าใจ และเปิดใจรับฟังคำชี้แจง

****************************************************************************
 14 มี.ค. 54 เวลา 9.16 น.
 
ขอออกตัวก่อนว่า --- ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองได้ดีที่สุดแล้ว ค่ะ ในเรื่องนี้ ไม่มีใครผิด หรือถูก เป็นเรื่องของความเข้าใจผิด อารมณ์ จังหวะ และทุกสิ่ง ให้กำลังใจกัน ทำให้เราเข้มแข็งและรู้จุดโหว่ได้ดีกว่านะคะ
 
ผู้ใหญ่ ที่มีหน้าที่ดูแลการ์ด เป็นพี่ชายที่ดีของปลามาโดยตลอด และปลาเชื่อว่าการ์ดเองก็คงอยากทำหน้าที่ปกป้องทุกๆ คน ตามหน้าที่ที่เค้าได้รับมอบหมายมา ... ทันทีที่พี่ชายท่านนี้ทราบเรื่อง ก็พยายามหาทางช่วยเหลือปลาอย่างสุดความสามารถเช่นกัน..
 
หลายๆ เว็บไซต์ หลายๆ กระทู้ ดีเบตกันอย่างน่าเป็นห่วง .... แต่แปลกใจ เหตุใดจึงไม่มีคนคิดถกกันเกี่ยวกับ เนื้อหาในตัวเอกสาร ให้เป็นเรื่องเป็นราว เพื่อเป็นกรณีศึกษาแก่นักสู้เพื่อประชา คนต่อๆ ไป
 
หากจะโดนวิจารณ์ ยินดีน้อมรับค่ะ
 
****************************************************************************
14 มี.ค. 54 เวลา 9.40 น.
 
นั่งพิจารณาดูแล้ว การที่ปลาตัดสินใจสู้แบบประชาชน ไม่สวมเสื้อสีแดง แต่มีผ้าพันเป็นปลอกแขนแดง และโชว์บัตรนักข่าวต้นสังกัดช้า (อาจจะเพราะไม่อยากให้กระเทือนถึงต้น สังกัด ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลย --- ลืมบอกไป เป็นนักข่าวมีสังกัด แต่ไม่มีรายได้ใดๆ จากการทำงาน ใจล้วนๆ) อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งรึเปล่า ที่การ์ดอาจจะเข้าใจผิดว่าเราเป็น "สิ่งแปลกปลอม" ที่อาจจะทำอันตรายต่อพี่น้องเขา ... ถึงแม้จะรุนแรงไปบ้าง อะไรบ้าง ... แต่รักพี่ รักน้อง พออภัยกันให้ได้บ้าง นะจ๊ะ จุ๊ฟ จุ๊ฟ --- รอบหน้าขอซอฟท์ๆ ได้มะ ... หนูชอบผู้ชายนิ่มนวลลลลล
 
****************************************************************************
14 มี.ค. 54 เวลา 10.53 น.
 
ขออนุญาต แก้ไขวันที่จาก 13 มี.ค. 53 เป็น 14 มี.ค. 54 ................ คงต้องเอาเอกสารบางส่วน บางเนื้อหา อธิบายให้รับทราบกัน ลดทอนความกดดัน และให้ความรู้เป็นวิทยาทานไปในตัว
เมื่อ..ปลาปีกไม่กว้างพอจะปกป้องใครได้ทั้งหมด และไม่คิดจะปกปิด แต่เลือกที่จะอธิบายทำความเข้าใจ ขอชี้แจงบนพื้นฐาน ของข้อเท็จจริง แต่การปกปิดจุดเล็กน้อย จะยิ่งรังแต่จะทำให้เรื่องราวบานปลาย ใหญ่โต เกิดวิวาทะ และความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน
 
 
ประเด็น ไม่ได้อยู่ที่ ใครทำผิด และผิดอย่างไร
แต่ประเด็น อยู่ ที่มีการช่วยกันแก้ไข ปรับปรุงร่วมกันหรือไม่
 
ที่นี่ไม่ใช่เวทีเดอะ สตาร์ หรือ Weakest Link ใครแพ้คัดออก... แต่เป็นชีวิตจริง ตายจริง เจ็บจริง
 
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ธรรมชาติสร้างให้เรียนรู้จากประสบการณ์และฉลาดจาก ความผิดพลาด และเพราะเราคือ "มนุษย์" จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากเราจะพลาด
 
หลังจากนี้ ผลที่เกิดขึ้น ไม่ว่า Feedback จะเป็นอย่างไร ปลาจะโดนประณามจากสังคม หรือจากคนที่ปลาเคารพหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกระแสนำพา

****************************************************************************

 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net