เมื่อวันที่ 5 เม.ย.54 ที่วัดสมรโกฏิ นนทบุรี มีงานฌาปนกิจศพของนายสมิง แตงเพชร ซึ่งถูกยิงศีรษะจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 และนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เม.ย.53 โดยภายในงานฌาปนกิจมีคนเสื้อแดงเข้าร่วมจำนวนมาก พร้อมแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อีกหลายคน ผู้เสื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของ สมิง แตงเพชร มีอาชีพขายน้ำพริก ผักต้มตามตลาดนัด เขามีลูกสาว 3 คน อายุ 29 ปี 19 ปี และ 15 ปี โดยลูกสาว 2 คนหลังนั้นเป็นโรคเลือดต้องถ่ายเลือดเป็นประจำ ในวันเกิดเหตุสมิงได้ยินข่าวว่าทหารจะเข้าสลายการชุมนุมจึงออกจากตลาดนัดมุ่งหน้าไปสะพานผ่านฟ้าฯ และถูกยิงศีรษะลักษณะคล้ายกรณีของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล โดยญาติตัดสินใจเก็บรักษาศพไว้เกือบ 1 ปี เพื่อรอการชันสูตรตามกฎหมาย และทวงความยุติธรรม คำไว้อาลัยของลูกๆ ของสมิง มีดังนี้ “ถึงพ่อ ในวันที่พ่อหายไปจากโลกนี้แล้ว แล้วคืนนั้นพ่อก็จากเราไปจริงๆ ความเสียใจมีมากแค่ไหนไม่สามารถอธิบายได้ ถึงจะเสียใจแต่เราก็ภูมิใจว่าพ่อได้สละชีวิตเพื่อประชาธิปไตย คิดว่าพ่อคงภูมิใจในตัวเองเหมือนกัน” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวไว้อาลัยว่า นี่เป็นศพคนเสื้อแดงคนที่สองที่ตนเองได้มาร่วมงานฌาปนกิจศพ ในวันเกิดเหตุตนอยู่ที่ราชประสงค์เมื่อได้ยินข่าวการล้อมปราบก็ได้นำกำลังคนไปช่วย โดยตลอดทางคิดในใจว่าจะเอาอย่างไรดี ทางเลือกหนึ่งคือบอกให้พี่น้องสู้ต่อไป ซึ่งน่าจะมีการบาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นอีก แต่ก็มีคนพูดในภายหลังเสมอว่าหากเลือกคนหนทางนี้รัฐบาลไม่มีทางอยู่ได้ อีกทางเลือกหนึ่งคือ ไปยุติความสูญเสียให้เร็วที่สุด สุดท้ายก็เลือกหนทางหลัง โดยตนได้ประกาศเจรจากับรัฐบาลให้ยุติปฏิบัติการและความรุนแรงทั้งหมด บางคนตั้งคำถามว่าทำไมไม่สู้ต่อถ้าสู้ต่อเราอาจชนะ แต่ตนถามว่าเพื่อนเราจะต้องตายอีกกีคน ประชาชนต้องตายเท่าไร นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนเจ็บปวดใจที่สุดว่า คนที่ห่วงประชาชนมีแต่เพียงประชาชนด้วยกันเองเท่านั้น นอกนั้นไม่มีใครกังวล เราจึงเห็นความโศกเศร้าเสียใจของบางคนต่อเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ แต่ใครอีกหลายคนกับไม่เสียต่อการตายของประชาชนมือเปล่า สำหรับเรา เราเสียใจทั้งต่อการตายของประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเสียใจต่อความสูญเสียของผู้ประกอบการ นายจตุพร พรหมพันธ์ กล่าวไว้อาลัยว่า เหตุการณ์ 10 เมษาถึง19 พฤษภามีคนถูกฆ่าจำนวนมาก แต่ปัจจุบันมีความพยายามบิดเบือน ป้ายสีว่าไม่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ แต่หลักฐานชันสูตร กระสุนที่ใช้ 120,000 นัด กระสุนสไนเปอร์อีกกว่า 2,600 นัด ตอบชัดเจนว่าฆาตรกรเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโดยคำสั่งของรัฐ แต่มีความพยายามใส่ร้ายว่าคนตายเป็นผู้ก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง ทั้งที่ความตายทั้งหมดี่เกิดขึ้นนั้นเกิดก่อนไฟไหม้ เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นเกิดเพื่อกลบศพของฆาตรกร ฆาตรกรและคนเผาบ้านเผาเมืองเป็นคนๆ เดียวกัน ความจริงย่อมเป็นความจริงที่ไม่มีใครหนีพ้น นอกจากนี้ตนได้หารือกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรว่า หากเปลี่ยนรัฐบาล รัฐบาลชุดหน้าจะดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตครอบครัวละ 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินน้อยมากเมื่อเทียบกับงบประมาณ 6,000 ล้านบาที่รัฐบาลชุดนี้ใช้ในการสั่งปราบคนเสื้อแดง ทั้งนี้ ยังมีศพผู้เสียชีวิตในวันที่ 10 เม.ย.53 อีก 7 ศพ ซึ่งจะทำการฌาปนกิจพร้อมกันในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ที่วัดบำเพ็ญเหนือ