Skip to main content
sharethis

คอป.สอบคดีฟาบิโอผู้สื่อข่าวอิตาลี ดีเอสไอแจงไม่มีประจักษ์พยานว่ากระสุนยิงมาจากไหน แต่ไม่มีเหตุน่าเชื่อว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐ ด้านทหารบอกยังเคลื่อนไม่ถึงจุดที่ฟาบิโอถูกยิง และยังไม่ได้ใช้อาวุธ ค้านกับนิค นอสติทซ์ ช่างภาพทีอยู่ในเหตุการณ์ ผู้แทนสถานทูตอิตาลีจี้เมื่อไหร่ผลสอบจะเสร็จ 5 เมษายน 2554 คณะอนุกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ(คปอ.) เปิดรับฟังข้อเท็จจริงจากผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายฟาลิโอ โปเลนกิ ช่างภาพอิสระชาวอิตาลี ที่ถูกยิงเสียชีวิตในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 บริเวณเกาะกลางถนนหน้าศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ถนนราชดำริ โดยมีตัวแทนจากดีเอสไอ กองทัพภาคที่ 1 เข้าให้ข้อมูล และมีตัวแทนจากสถานทูตอิตาลีร่วมรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริง พ.ต.ท.วีรวัชร์ เดชบุญภา กรมสอบสวนคดีพิเศษชี้แจงว่า กรณีดีเอสไอได้สอบพยานหลายสิบปาก ทั้งทหาร ผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศ ผู้เห็นเหตุการณ์ใกล้ชิด เช่น คนขับมอเตอร์ไซค์ที่รับนายฟาบิโอไปส่งโรงพยาบาล ตลอดจนแพทย์ แต่ไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นว่ากระสุนยิงมาจากไหน วัตถุพยานที่อยู่ในตัวศพก็ไม่มี สน.ปทุมวันได้ทำสำนวนชันสูตรมารวมกับสำนวนคดีอาญาของดีเอสไอแล้ว ผู้ตายถูกกระสุนความเร็วสูงเข้าที่ด้านหลังต่ำจากบ่า 27 ซ.ม. บาดแผลทางเข้าขนาด 0.5 ซ.ม. กระสุนตัดขั้วหัวใจ ทะลุออกทางหน้าอกด้านซ้าย แนวกระสุนล่างขึ้นบนเล็กน้อย วิถีกระสุนอาจมาจากแยกสารสิน จนถึงศาลาแดง กรณีนี้ไม่มีเหตุน่าเชื่อว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐจึงไม่ได้ส่งกลับไปให้ท้องที่อีก ส่วนชายที่ปรากฏเห็นหน้าชัดเจนในคลิป แต่งกายคล้ายสื่อมวลชน วิ่งตามหลังฟาบิโอมา และเมื่อฟาบิโอถูกยิงล้มลง ชายคนดังกล่าวได้เก็บกล้องของฟาบิโอมาไว้กับตัวและร่วมกับคนอื่นลากนายฟาบิโอมาที่ฟุตบาท ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัย เนื่องจากมีพยานให้การกับ คอป.ไว้ว่า ก่อนหน้านายฟาบิโอถูกยิง 15 นาที ก็มีคนถูกยิงบาดเจ็บในบริเวณใกล้เคียงกัน แต่ชายคนนี้ก็ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ผิดวิสัยของสื่อมวลชนทั่วไป และกล้องวิดีโอที่ชายคนดังกล่าวเก็บไปก็ยังหาไม่เจอ ดีเอสไอได้ชี้แจงว่า ได้ติดตามหาตัวมาตลอด ทั้งสอบถามไปยังสมาคมผู้สื่อข่าว และสอบจากนักข่าวคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีคนรู้จัก รวมทั้งได้ประกาศในเว็บไซต์ของดีเอสไอ และทางทีวีไทย แต่ยังไม่ได้เบาะแส การตรวจสอบกับกองทะเบียนราษฎร์ อาจจะได้ข้อมูล แต่ทางดีเอสไอยังไม่ได้ดำเนินการ ด้าน พันเอกไตรเทพ ศรีพันธุ์วงศ์ รองผู้บังคับการกองพลทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ ซึ่งชี้แจงการเคลื่อนกำลังพลในวันที่ 19 พ.ค. กล่าวว่าในช่วงเวลาที่ นายฟาบิโอ เสียชีวิต ซึ่งเป็นเวลา 10.59 น. กำลังพลน่าจะยังเคลื่อนเข้าไปไม่ถึงจุดที่นายฟาบิโอถูกยิง เพราะเวลา 12.30 น. เพิ่งจะถึงแยกสารสิน และยืนยันว่าการเข้าควบคุมเหตุการณ์ทหารใช้ปืนลูกซอง ซึ่งมีทั้งกระสุนจริง และกระสุนยาง และปืนเล็กยาวซึ่งใช้แต่ลูกแบล็งค์ ทั้งนี้ ในช่วงที่เคลื่อนจากศาลาแดงถึงแยกสารสิน ทหารไม่ได้ใช้อาวุธเลย รวมทั้งไม่มีทหารหน่วยใดขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้าและตึกสูง จะอยู่แค่สกายวอล์คที่แยกศาลาแดงเท่านั้น รวมทั้ง กองทัพและ ศอฉ.ไม่ได้มีคำสั่งให้จัดการกับชายชุดดำ(ฟาบิโอใส่ชุดดำ) เพียงแต่มีคำสั่งให้ใช้อาวุธป้องกันตนเองในเหตุที่น่าจะทำให้สูญเสียชีวิต และป้องกันประชาชน นิค นอสติทซ์ นักข่าวอิสระ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ให้ข้อมูลค้านกับทหารว่า ในช่วงนั้นตนเองยืนอยู่หลังแนวของทหารตั้งแต่แยกศาลาแดง ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่มีการใช้อาวุธความเร็วสูงยิงไปทางราชดำริอย่างหนักก่อนที่จะถึงแยกสารสิน ไม่ใช่อย่างที่ทหารบอก และหลังจากนั้น 15-20 นาที ก็ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนมามีนักข่าวอิตาลีเสียชีวิต ตัวแทนจากสถานทูตอิตาลี ได้ตั้งคำถามในช่วงท้ายของเวทีว่า การสืบสวนสอบสวนนี้มีกำหนดว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ซึ่ง คอป.ชี้แจงว่ามีเวลาทำงาน 2 ปี และชี้แจงกระบวนการทำงานของ คอป.ให้ผู้แทนสถานทูตเข้าใจ ก่อนจบเวที พ.อ.ไตรเทพ ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า \ฝากถึงสื่อมวลชนที่มา บางทีด่าผมหยาบๆ คายๆ ในเว็บ อ่านแล้วไม่สบายใจ ทหารไม่ต้องการให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายในการปฏิบัติหน้าที่ของเรา... ก็ต้องขอความกรุณาตรงนี้ด้วย ทหารหรือเจ้าหน้าที่ก็คือลูกหลานของประชาชนทุกคน เราคนไทยด้วยกัน ตรงนี้คือคณะกรรมการปรองดอง ถ้าทำแล้วไม่ปรองดองผมก็ไม่รู้จะหันไปหาใคร\""

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net