Skip to main content
sharethis

ธาริตเผย อัยการออกหมายเรียก 18 นปช. ฐานผิดมาตรา 112 พ่วง 116 ระบุ ความผิดของผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย เป็นความผิดต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ไม่ใช่คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือหมิ่นสถาบันเหมือนที่หลายฝ่ายพยายามนำเสนอ 18 เม.ย.53 กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานเมื่อเวลา 15.42 น.ว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับนายการุณ บุณยอุดมศักดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักคดีศาลแขวง และนายคมคะเน หงส์ธนนันท์ อัยการประจำกรม เพื่อพิจารณาหลักฐานในคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งรัฐ ว่าด้วยการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ 116 ว่า ขณะนี้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย และพวกรวม 18 คน จากกรณีที่มีการปราศรัยล่วงละเมิดสถาบันในการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้คณะพนักงานสอบสวนร่วมระหว่างดีเอสไอกับอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดี จึงให้ออกหมายเรียกนายจตุพร กับพวกรวม 18 คน มารับทราบข้อกล่าวหา โดยในวันที่ 19 เม.ย. ตนจะออกหมายเรียกส่งไปรษณีย์ในระบบลงทะเบียนตอบรับไปยังภูมิลำเนาของผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 18 คน นายธาริต กล่าวอีกว่า ดีเอสไอจะให้ระยะเวลาผู้ถูกกล่าวหาเตรียมหลักฐานเข้าชี้แจงต่อพนักงานสอบสวน โดยจะทำตารางนัดหมายเป็นรายบุคคล เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาระหว่างวันที่ 2-6 พ.ค. ซึ่งในการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำจะมีพนักงานอัยการเข้าร่วมรับฟัง เพื่อความถูกต้องของการสอบสวนและถือเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาด้วย ในส่วนของสื่อมวลชนที่นำเสนอถ้อยคำการปราศรัยของแกนนำนปช.ในวันที่ 10 เม.ย. ดีเอสไอจะตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามว่าหากแกนนำนปช.นำมวลชนคนเสื้อแดงมากดดันดีเอสไอจะดำเนินการอย่างไร นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอเรียกตัวแกนนำนปช.มารับทราบข้อกล่าวหาและสอบคำให้การ ไม่ได้เรียกกลุ่มมวลชนมาให้การ ดังนั้นการปลุกระดมมวลชนจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของพนักงานสอบสวน อย่างไรก็ตาม ขอชี้แจงว่า ความผิดของผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย เป็นความผิดต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ไม่ใช่คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือหมิ่นสถาบันเหมือนที่หลายฝ่ายพยายามนำเสนอ สำหรับแกนนำนปช.ทั้ง 18 ราย ที่ถูกออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวนในคดีการกระทำผิดล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้ง 18 คน ได้แก่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ น.พ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ นายการุณ โหสกุล นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายวีระ หรือวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายวิเชียร ขาวขำ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา นายนิสิต สินธุไพร จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ นางลัดดาวัลย์ วงศ์ศรีวงศ์ และนายสมชาย ไพบูลย์ ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ระบุว่า \ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี\" ส่วนมาตรา 116 ระบุ \"ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี เรียบเรียงจาก: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net