Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2554 เป็นอีกวันที่เป็นวันรวมเซเลปเสรีชนทั่วฟ้าเมืองไทย เป็นการนัดหมายที่สายฟ้าแล่บมากเลยค่ะ หลิ่มหลีก็เห็นนัดหมายกันไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย เห็นหลายๆ คนนัดหมาย หลิ่มหลีก็เฉยๆ

เราต้องทำหยิ่งๆหน่อยค่ะ สำหรับหลิ่มหลีแล้ว การจะเป็นเซเลปที่ดี เราต้องได้บัตรเชิญ หรือโทรเชิญเท่านั้นค่ะ สิ่งเหล่านี้หลิ่มหลีเรียนรู้จากหนังไทย ละครไทย หรือหนังฮอลลีวู๊ดบางเรื่องที่เกี่ยวกับเซเลป ที่ต้องได้การ์ดเชิญ หรือโทรเชิญถึงจะยอมไปออกงาน ไม่งั้น หึ ..ฉันไม่ย่างกรายไปให้โดนโห่ว่า “มาทำไม เขาไม่ได้เชิญ” พวกหลิ่มๆ ก็ชอบทำเป็นหยอกเย้าแบบนี้แหละค่ะ แล้วก็มาตบหลังว่า “ล้อเล่น”

ล้อเล่น พ่….สิ ตบหัวแล้วลูบหลัง หลิ่มหลีโคตรเกลียดเลย พวกเนี๊ย หลิ่มหลีเจอมาเยอะ เจ็บมาเยอะ

หลิ่มหลีรอแล้วรอเล่า... ก็ไม่มีบัตรเชิญหรือโทรศัพท์เชิญ อ้าว ถึงได้รู้ว่า .. หลิ่มหลียังไม่ได้เป็นเซเลป ฮ่าๆๆๆ หลิ่มหลีก็ขำตัวเอง บางทีคนเรามันก็แบบนี้แหละค่ะ วัวลืมตีน คางคกขึ้นวอ หม้อนี้ฮิต อะไรพวกนี้ บางคนกว่าจะรู้ตัวว่าตกกระป๋อง กระปี๋ก็เน่าไปซะแล้วก็มี

แต่งานนี้มันเป็นอะไรที่ อะไรที่ โ ห .. ไม่ไปไม่ได้นะคะ แบบว่า พลาดงานนี้ ถือได้เท่ากับพลาดงานพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายวิลเลี่ยมกับน้องเคทเลยหง่ะ หลิ่มหลีไม่ยอมพลาดหรอกค่ะ

หลิ่มหลีก็หักใจ ไม่ได้บัตรเชิญ ไม่มีใครโทรเชิญ หน้าด้านเหมือนเดิมก็ได้หว่ะ ทำยังกะไม่เคย ก๊ากๆๆๆ

งานนี้เป็นงานที่ชาวคณะนิติราษฏร์นัดกะทันหันเพื่อให้กำลังใจและประกาศแถลงการณ์ยืนเคียงข้างอาจารย์ฉมฉักเจียม

หลิ่มหลีก็ไปกับเพื่อนๆกันหลายคนค่ะ ไปเจอเซเลปเยอะแยะมากมาย อาจารย์มหาลัย ผู้กำกับหนัง คนทำหนัง นักเขียน นักแปล นักวิจารณ์ ทนาย นักธุรกิจ ข้าราชการแอบแฝง นักประชาสัมพันธ์ นักข่าวไทย นักข่าวต่างประเทศ คณะตัวแทนทูตานุทูต โอ้ย เยอะแยะมากมาย

อย่าค่ะ อย่าอิจฉาที่หลิ่มหลีได้ไปกระแทกชนกับเหล่าเซเลปทั้งหลาย หึหึ

เสียแต่ว่า..หลิ่มหลีคิดไม่ถึงเลยค่ะ โถ.. ถ้ารู้แบบนี้ไม่แต่งตัวแบบนี้หรอกค่ะ หลิ่มหลีไม่เจตนาที่จะไปงานนี้แต่แรกเลยค่ะ เลยแต่ตัวไม่เหมาะสม ใส่กางเกงขาสั้นจุ๊ดจู๋ เสื้อตัวโปร่งๆเห็นบราชั้นในเชียว ยั่วเป็นที่สุด โชคดีนะคะ ที่หลิ่มหลีเป็นคนไฮโซถือกระเป๋าหลุยส์วิตตอง เลยพอแก้หน้าไปกันได้หน่อย ไม่ได้ให้อายว่าแต่งตัวซอมซ่อ แต่หลิ่มหลีก็มีข้อแก้ตัวนะคะ หลิ่มหลีมีธุระปะปังแบบวัยใสๆ หัวใจเป็นกันเอง ก่อนที่จะมางานที่ มธ

เมื่อถึงเวลานัดหมาย อาจารย์ฉมฉักเดินเข้ามาพร้อมสมัครพรรคเพื่อน หนุ่มๆสาวๆก็กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ โห เสียงกรี๊ดนี่ ดังมากพอๆกับงานคอนเสิร์ตเลยนะคะ

ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ แกไปย้อมผมดำ ถึงแกจะบอกว่า แกย้อมแก้เซ็ง แต่หลิ่มหลีไม่เชื่อหรอกค่ะ เพื่อนเสรีชนบางคนบอกหลิ่มหลีว่า แกย้อมพรางตัว เพราะว่าแกโดนขู่ฆ่า แต่ถ้าแกจะย้อมพรางตัว หลิ่มหลีว่าแกต้องย้อมผมสีชมพูนะค่ะ จะได้เหมือนพวกพรางชมพูไงคะ

หลิ่มหลีจำได้ ตอนที่กระชับมดลูก เอ้ยไม่ใช่.. กระชับพื้นที่ หลิ่มหลีเห็นทหารหลายๆคนพรางชมพูด้วยการติดสติกเกอร์ที่หัวเหน่า เอ้ยไม่ใช่ หัวหมวก ทำไมอาจารย์ฉมฉักไม่ทำแบบนั้นก็ไม่รู้

แต่หลิ่มหลีว่าที่แกย้อมผมสีดำ เป็นเพราะแกอยากเด็ก.. อยากเอ๊าะๆ พักหลัง หลิ่มหลีว่า จารย์ฉมฉักแกเนื้อหอมในหมู่สาวๆมากขึ้น มันก็เป็นธรรมดาค่ะ อยากหล่อ

หลิ่มหลีเข้าจ๋ายเข้าใจ หลิ่มหลีก็มีหนุ่มๆ วัยดึกแต่ยังกำหนัดมาติดพันบ้าง สิ่งแรกที่เห็นทำ ส่วนใหญ่ก็ยุ่งอยู่กับผมเนี่ยแหละค่ะ คงอยากหนุ่ม อยากหล่อ คิกๆๆๆๆๆ อ่ะ อ่ะ ไม่แซวแล้ว เด๋วหลิ่มหลีโดนจารย์ฉมฉักจัดหนัก คิกๆๆๆ

เนื่องด้วยคนมาให้ดอกไม้เยอะมากกกกกก อาจารย์ปิยะบุตร หนึ่งในคณะนิติราษฎร์ที่มีแต่พวกชายรักชายถามหา(อันนี้จริง) ก็ประกาศบอกให้สงบ สันติ กระชับพื้นที่ เอ้ย ไม่ใช่ค่ะ ให้ทุกคนเข้าที่นั่ง.. แล้วก็แซวว่า พวกเรานี่มาตบเท้าให้กำลังใจอาจารย์ฉมฉักกันใช่ไหมครับ

เอ แบบนี้เรียกตบเท้าหรอคะ

เรื่องมาตบทงตบเท้า หลิ่มหลีไม่ชอบหรอกค่ะ หลิ่มหลีว่าการตบเท้ามันเป็นเรื่องของคนชั้นต่ำเขาทำกัน

ส่วนต่างๆในร่างกายเยอะแยะ ตบหน้า ตบนม ตบพุง ตบหลัง ตบมือ ตบตูด ..ไม่ตบ เสือกตบเท้า หลิ่มหลีว่า เท้าเป็นของต่ำ ของล่าง ดูหยาบคาย หลิ่มๆ รับไม่ได้ อี๊ แหวะ

หลิ่มหลีอาจจะยังไม่ใช่พวกไฮโซนะคะ แต่หลิ่มหลีก็ รักดี ใฝ่ดี ไม่ใฝ่ต่ำ ๆแบบนี้แน่ๆ

ดังนั้น ในงานเมื่อวันที่ 24 เมษา ไม่ว่าเขาจะคุยกันสนุกสนาน ปลุกใจเสือป่ากันขนาดไหน หลิ่มหลีก็ดีใจอยู่อย่างว่า คนรอบข้างของหลิ่มหลี ตบแต่มือ ไม่ตบเท้ากัน

หลิ่มหลีก็เลือกคบคนเสรีชนดีดีมีการศึกษาที่ใฝ่ดี และมีมารยาทสูงได้ดีมากเลยนะคะ

หลังจากนั้น อาจารย์วรเจตน์ ไอดอลของหลิ่มหลี ที่เหมือนจะผอมลง.. โอ้ เห็นอาจารย์ดูผอม หลิ่มหลีก็ปวดหัวใจเหลือเกิน

ไอดอลเครียด แฟนคลับก็เครียดไปด้วย

แต่เห็นไอดอลมีกำลังใจ หลิ่มหลีก็มีกำลังใจไปด้วย ทานข้าวเยอะๆ นะคะ บำรุงหน่อย ขาดเหลืออะไรก็บอกหลิ่มหลีได้ เด๋วหลิ่มหลีจัดการให้ เด๋วหลิ่มหลีไปเสริฟ์ให้ถึงห้องทำงาน

อร๊ายยยยยยยยยยยย หลิ่มหลีพูดอะไรไปเนี่ย เด๋วโดนสาวๆกระทีบทั้ง มธ. แน่ๆเลย อร๊ายยยย หลิ่มหลีพูดเล่น กัว กัว กลัวววววววว (ท่องไว้ แกมีเมียแล้ว แกมีเมียแล้ว ท่องไว้ นังหลิ่มหลี)

กลับมาดีกว่า กลับมาเรื่องเดิม อ่ะแฮ่ม

เรื่องของเรื่องมันเกิดจากตอนโน้นนนนน เมื่อสิบธันวาปีที่แล้ว ..แล้วนำมาซึ่งการหมิ่นประมาทอะไรก็ไม่รู้

แล้วพวกฝ่ายบ้าๆบอๆ ก็ไม่ได้ใช้วิธีการทางกฏหมายมาเล่นงานพวกอาจารย์ แต่ใช้วิธีการมาเฟีย ขู่อุ้ม ขู่ฆ่า ขู่โน่น ขู่นี่

หลิ่มหลีว่า พวกอาจารย์คงโดนมากันหนัก ไม่งั้น.. คงไม่มาประกาศชนขนาดนี้หรอก

น่าสงสารเนอะ

ความสงสารเป็นบ่อเกิดแห่งความรัก

อร๊ายยยย หลิ่มหลีเข้าเรื่องพรรณนี้อีกแล้ว โอ้ย ให้ทำไงล่ะค่ะ สมองของหลิ่มหลีโดนกล่อมเกลามาแต่เรื่องรักๆใคร่ๆตามละครทีวี นิยายน้ำเน่า หนังสือรักโรแมนติก ภาพยนตร์รักๆ ใคร่ๆ จะให้คิดอะไรซีเรียส หลิ่มหลีก็ทำไม่เป็น คิดไม่เป็น หลิ่มหลีอยากมีแต่ผัว ผัว ผัว

แต่ที่หลิ่มหลีประทับใจ ก็คง... เป็นเรื่องการร่วมมือกันยืนเคียงข้างอาจารย์ฉมฉัก .. หลิ่มหลีนะ ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ แต่เพื่อนๆเสรีชนบอกว่า พวกที่มาลงชื่อเคียงข้างอาจารย์ฉมฉักนี้นะ ส่วนใหญ่ตบเกรียนกันไปมาจนเกลียดขี้หน้ากันมาแล้ว

แต่พอถึงเวลาที่อาจารย์ฉมฉักโดนสั่งให้ปิดปาก ด้วยข้อกฏหมายเลขคล้ายๆกับโทรศัพท์เดลิเวอรี่ของพิซซ่า

พวกเขาก็หันกลับมาร่วมมือกัน จับมือกัน เคียงข้างกัน เพื่อความถูกต้องของสังคม และเสรีภาพในการแสดงออก

หลิ่มหลีเห็นแล้วก็เฉยๆ .. แต่เห็นเพื่อนเสรีชนข้างๆเขาน้ำตาคลอเบ้า เลยรู้ว่า อ้า..เวอร์ชั่นนี้ต้องร้องไห้ ..หลิ่มหลีก็สะกิดต่อมน้ำตาตัวเองอัตโนมัติเลยค่ะ อิอิ หลิ่มหลีฝึกแล้ว อิอิ

แต่บอกตรงๆ หลิ่มหลีว่า อาจารย์จะพูดทำไมให้เปลืองตัวคะ แล้วจะพูดทำไมให้เป็นเรื่อง หลิ่มหลีก็สงสารอาจารย์กับสิ่งที่อาจารย์โดนกระทำนะคะ แต่อาจารย์หาเรื่องเองนะคะ หลิ่มหลีว่า

หลิ่มหลีก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะ ว่า มันควรจะต้องมีสิทธิแค่ไหนในการแสดงความคิดเห็น เพราะหลิ่มๆ ส่วนใหญ่ไม่มีสมองคิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาได้ พวกเราชอบนินทา ชอบซุบซิบ การประกาศโต้งๆ อย่างที่อาจารย์ทำ หลิ่มหลีว่า อาจารย์ฉมฉักจะไปเจือกทำไมค่ะ อาจารย์คิดมาได้ยังไง กล้าพูดได้ยังไง ที่สำคัญ

อาจารย์ไปยุ่งทำ...อะไร

หลิ่มหลีคิดอย่างอาจารย์ไม่ได้หรอกค่ะ ปล่อยให้หลิ่มหลีเป็นประชาชนธรรมดาที่อยู่ใน Matrix ไม่รู้เรื่องอะไรไปเรื่องๆก็ดีอยู่แล้วแหละค่ะ

หลิ่มหลีกลัวผี ... ผีที่คุณคำ ผกาว่า หลิ่มหลีอยู่ในความมืด หลิ่มหลีอยู่ในกะลา ไม่มีแสงไฟ ไม่มีแสงเทียน

แต่ในกะลามืดๆ เขาให้ไฟกระพริบๆๆๆ ไว้เต้นโคโยตี้

แค่นี้ หลิ่มหลีก็ดีใจแล้วค่ะ พอเพียงกับชีวิตแล้ว

แดนส์ แดนส์ แดนส์ กันเถอะ เรา...

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net