Skip to main content
sharethis

ประชาชนไทย-กัมพูชา และนักกิจกรรมนานาชาติกว่า 100 คนร่วมเดินธรรมยาตราร้องเรียกร้องให้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบและกลับคืนสู่โต๊ะเจรจาและแสดงวุฒิภาวะความเป็นผู้นำที่มีศักยภาพและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง 01 ตัวแทนเยาวชนเมล็ดพันธ์สันติภาพ เตรียมดอกไม้ต้อนรับประชาชนจากฝั่งกัมพูชา 02-03 บางส่วนของผู้เข้าร่วมขบวนธรรมยาตราฝั่งไทย 04 ขบวนธรรมยาตราจากกัมพูชา 05 -06 ขบวนธรรมยาตราจากฝั่งไทย ต้อนรับขบวนธรรมยาตราจากกัมพูชา 07 สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ต้อนรับพระสงฆ์ไทย-กัมพูชา 08 ชาวบ้านจากกัมพูชาและไทย สวมกอดกันและกันหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว 09 -11 ขบวนธรรมยาตราฝั่งไทย นำโดยพระสงฆ์ 12 ส่วนหนึ่งของผู้ร่วมขบวนธรรมยาตราจากฝั่งไทย 13 วิสิทธิ์ ดวงแก้ว ตัวแทนชาวบ้านจากภูมิซรอลเข้าร่วมธรรมยาตราเพื่อสันติภาพ 16 พ.ค. พระภิกษุ ภิกษุณี แม่ชี และประชาชนไทย และนักกิจกรรมนานาชาติ ประมาณ 100 คน ร่วมเดินธรรมยาตรา จากวัดใหม่ไทรงาม อ.อรัญประเทศ สู่ด่านตรวจคนเข้าเมืองคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ. สระแก้ว เป็นระยะทาง 7 กม.โดยมีนักกิจกรรมชาวกัมพูชามาร่วมสมทบบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชาร่วม 20 คน พระไพศาล วิสาโล กล่าวเปิดงานธรรมยาตราสองแผ่นดินว่า การเดินธรรมยาตราท่ามกลาวอากาศที่ร้อนแต่มีจิตใจชุ่มเย็น เพราะได้แสดงความเป็นมิตรกับเพื่อนต่างแดน ซึ่งหากมีน้ำใจ มีความเมตตากรุณาต่อกัน แม้ว่าอากาศภายนอกจะร้อนรุ่มเพียงใด ก็มีความสุขได้ ธรรมยาตราสองแผ่นดินเป็นความพยายามของคนกลุ่มเล็กๆ ที่พยายามหยิบยื่นความมีน้ำใจระหว่างคนสองแผ่นดิน แลเป็นการประกาศให้คนทั่งสองประเทศและคนทั้งโลกได้รู้ว่าประชาชนไทยและกัมพูชามีความเป็นมิตร มีนำใจต่อกัน พระไพศาลกลาวต่อไปว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลแต่ไม่เกี่ยวกับประชาชน ประชาชนไทยและกัมพูชายังเป้นพี่น้องกัน มีความเป็นเพื่อน มีความรักกัน แม้ว่าธรรมยาตราจะชื่อว่าธรรมยาตราสองแผ่นดิน แต่จริงๆ แล้วทั้งไทยและกัมพูชาอยู่บนแผ่นดินเดียวกัน เพียงแต่มีการลากเส้นสมมติผ่านทำให้เกิดการแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย และแม้ภาษาจะต่างกัน แต่มีหัวใจเดียวกัน มีศาสนาเดียวกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่จะเสริมสร้างควาเมป็นเพื่อนเป็นมิตรเป็นพี่น้องให้กระชับแน่นขึ้น แม้ว่าประเทศมีพรมแดน แต่มิตรภาพไม่มีพรมแดน ธรรมยาตรครั้งนี้ก็เพื่อยืนยันว่ามิตรภาพของประชาชนสองประเทศไม่มีพรมแดน และการที่จัดธรรมยาตราเนื่องในโอกาสที่จะถึงวันวิสาขบูชาก็มีเหตุผลสำคัญมาก นั่นคือเพื่อระลึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ทำให้คนพ้นจากความมืดความหลง ซึ่งในกรณีของความขัแย้งชายแดนไทยกัมพูชาก็คือการหลงอยู่กับความแตกต่างทางเชื้อชาติ “เมื่อเราระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ จิตใจเราก็จะสว่างและเห็นว่าที่จริงแล้วเราทุกคนแนพี่น้องกัน แม้จะมีความแตกต่างทางศาสนา เชื้อชาติ ศาสนา หรือพรมแดนก็ตาม” พระไพศาล วิสาโลกล่า สุทธา โรส ตัวแทนชาวกัมพูชา เล่าถึงการเดินธรรมยาตราในกัมพูชา ว่ามีคนเข้าร่วมประมาณ 200 คน ได้ชุมนุมกันเมื่อวันที่ 14 และสิ้นสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. โดยใช้ระยะทาง 22 ก.ม. โดยเป็นการทำงานภายใต้แนวคิดพุทธเนื่องในวันวิสาขบูชา มีคนข้อเท่าหัก 1 ราย โดยธรรมยาตราขณะที่อากาศค่อนข้างร้อน ประมาณ 40 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมกิจกรรมหวังว่าจะมีสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา ระหว่างทางได้สอบถามประชาชนกัมพูชาว่ามีสาสน์อะไรฝากถึงคนไทยหรือไม่ เพราะหลายคนไม่มีพาสปอร์ต ประชาชนกว่า 200 คนส่วนใหญ่ไม่มีพาสปอร์ต ได้ข้ามมาเพียง 23 คนเท่านั้น สาสน์ที่ฝากมาคือขอให้ประชาชนรักกัน ให้มีสันติภาพ ขอให้เป็นพี่น้องกัน นายสุลักษณ์ กล่าวว่ารัฐบาลทั้งสองฝ่ายอาจจะพยายามทำให้เห็นว่าธรรมยาตรานั้นไม่มีความสำคัญเพราะมีคนไม่กี่คน ทุกรัฐบาลเมื่อไม่มีความชอบธรรมจะใช้สงครามเป็นเครื่องมือประหัตประหารกัน เพื่อความอยู่รอดของรัฐบาล แม้แต่กรณีของอังกฤษ นางแทตเชอร์ก่อนสิ้นอำนาจก็ก่อสงครามในหลายพื้นที่ ฮุนเซนก็ทำวิธีเดียวกัน รัฐบาลไทยก็เช่นกัน รวมทั้งคุมสื่อต่างๆ ด้วย ทั้งนี้ นานสุลักษณ์กล่าวว่าดีใจที่มีสื่อหลายฉบับและหนังสือพิมพ์หลายแห่ง รวมถึงโทรทัศน์มาทำข่าว เพราะคนของเราจำนวนน้อย คนเขมรไม่พาสปอร์ตข้ามมาไม่ได้ อย่าไรก็ตามเมื่อมีคนจำนวนน้อย ต้องคิดนอกกระแสหลัก เมื่อรัฐบาลและสื่อกระแสหลักมอมเมา การศึกษากระแสหลักก็มอมเมา สันติภาพไม่ได้มาง่ายๆ การศึกษาไทยทั้งหมดสอนให้คนไทยดูถูกเขมร คนไทยต้องไปขจอโทษเพื่อนกัมพูชา หากเริ่มสำนึกถึงความผิดของตนเองและอ่อนน้อมถ่อมตน นั่นคือสาระของธรรมยาตรา แต่ถ้าไม่เปลี่ยนจากข้างในก็ไม่สามารถสร้างสันติภาพได้ \ไทยโม้ตลอดเวลาว่าไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่ง แต่จิตสำนึกของคนไทยเป็นขี้ข้าฝรั่งที่สุด หากหยุดความคิดแบบจักรวรรดินิยมนี้ได้ไทยก็จะเป็นเพื่อนกับกัมพูชา ลาว พม่า ภูมิภานีต้องร่วมมือกันและราษฎรเท่านั้นที่ร่วมมือกันได้ รัฐบาลทำไม่ได้ เพราะรัฐบาลนั้นบัดซบ เมื่อประชาชนทำได้ผลรัฐบาลจะเดินตาม นักการเมืองจะตาม\" “ธรรมยาตรานี้จะแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เคยปฏิบัติกันมาทางการเมืองต้องลบทิ้งได้แล้ว ประชาชนรักกันพึ่งพากัน ถ้าไม่แสดงออกเช่นนี้ อภิมหาอำนาจทั้งอเมริกันและจีน พร้อมที่จะควบคุมเรา” นายสุลักษณ์กล่าวในที่สุด ตัวแทนเยาวชนเมล็ดพันธ์สันติภาพอ่านแถลงการณ์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายยุติการสู้รบและกลับคืนสู่โต๊ะเจรจาและแสดงวุฒิภาวะความเป็นผู้นำที่มีศักยภาพและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ทั้งเรียกร้องให้ขอให้รัฐบาลอาเซียนรวมทั้ง คณะกรรมการรัฐบาลอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (AICHR) และคณะกรรมการอาเซียนเพื่อการปกป้องคุ้มครองสิทธิสตรีแบะเด็ก (ACWC) เข้ามาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้อพยพพลัดถิ่นทั้งสองประเทศ และร่วมฟื้นฟูความเสียหายร่วมกัน สำหรับกิจกรรม “ธรรมยาตราสองแผ่นดิน” เพื่อมิตรภาพ สันติภาพของประชาชนกัมพูชาและประชาชนไทย จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 15-18 พฤษภาคม 2554 โดยกิจกรรมหลักคือการเดินธรรมยาตราร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศในวันที่ 16 พ.ค. และกิจกรรมสนทนาระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ที่วัดใหม่ไทรงาม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งจะดำเนินต่อเนื่องระหว่างวันที่ 17-18 พ.ค. กิจกรรมดังกล่าว มีประชาชนชาวไทย และชาวกัมพูชาเข้าร่วม พร้อมด้วยนักกิจกรรมนานาชาติ อาทิ พะภิกษุชาวลาว ศรีลังกา ธิเบตและอินเดียราว 100 คน 000 แถลงการณ์ “ธรรมยาตราสองแผ่นดิน” เพื่อมิตรภาพ สันติภาพของประชาชนกัมพูชาและประชาชนไทย วันที่ 15-18 พฤษภาคม 2554 ด่านปอยเปต และด่านคลองลึก อรัญญประเทศ ความขัดแย้งที่ชายแดนระหว่างประเทศกัมพูชาและประเทศไทย นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งชีวิตของทหารและพลเรือน บ้านเรือนทรัพย์สินขิงประชาชน และสถานที่ราชการที่ถูกทำลายจากการสู้รบ สภาพจิตใจที่บอบช้ำของประชาชนทั้งสองแผ่นดิน รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขาดวิ่น แตกร้าว ยากที่จะประสานให้ดีดัวเดิม ประเทศกัมพูชาและประเทศไทยต่างเป็นเมืองพุทธ ประชาชนส่วนใหญ่มีวสิถีชีวิต วัฒนธรรมแบบพุทธ มีความสัมพันธ์เป็นเครือญาติที่ดีต่อกัน ตามธรรมดาของหมู่บ้านชายแดนที่อยู่ใกล้ชิดติดกัน ท่ามกลางสถานการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น ประชาชนทั้งสองฝั่งสูญเสียพอๆ กัน และต้องการยุติความรุนแรงโดยทันที “ธรรมยาตรา” จึงเป็นกลไกที่ประชาชนตัวเล็กๆ ทั้งชาวกัมพูชาและชาวไทยที่ไร้ซึ่งอาวุธ และอำนาจทางการเมืองจะใช้เป็นเครื่องมือในการแสดงออกต่อสาธารณะที่จะส่งสาสน์ความต้องการของพวกเขาไปถึงผู้นำทั้งสองประเทศ และต่อประชาคมโลก พวกเราชาวกัมพูชาและชาวไทยทั้งหมดที่ชุมนุมกัน ณ ที่นี้ เป็นตัวแทนของประชาชนทั้งสองประเทศที่ยืนยันในเจตนารมณ์ของสันติภาพ มิตรภาพ และภราดรภาพระวห่างประชาชนทั้งสองประเทศว่า 1 พวกเราเคารพในความเป็นพี่น้องระหว่างกันและกัน เคารพในความเป็นเพื่อนบ้านและการมีวัฒนธรรมร่วมกันมาในอดีตที่ยาวนาน เรายทนยันถึงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทั้งในอดีตและในอนาคตอันยาวไกลต่อไป 2 ขอแสดงความเสียใจต่อความรุนแรง และความสูญเสียที่ผ่านมากับประชาชนและเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย เรายืนยันว่าประชาชนทั้งสองประเทศต้องการความรุนแรง และการสูรบที่ชายแดนระหว่างทั้งสองประเทศ เราขอวิงวอนให้รัฐบาลทั้งสองหยุดการสู้รบไม่ว่าขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กอย่างถาวรเพื่อคืนประโยชน์สุขให้กับประชาชนตลอดแนวชายแดน 3 ผลจากประชุม สุดยอดผู้นำอาเซียนนำมาซึ่งความสงบชั่วคราว เราอยากให้รัฐบาลทั้งสองประเทศกลับคืนสู่โต๊ะเจรจา โดยยินยอมให้อาเซียนเป็นผู้ประสานให้เกิดความร่วมมือและความเข้าใจที่ดีต่อกัน เราทราบดีว่าขบวนการเจรจาต้องใช้เวลาและความอดทนอดกลั้น เราขอให้กำลังใจรับบาลทั้งสองประเทศและผู้นำอาเซียนประสบความสำเร็จในการตัดการเจรจา แม้ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานแค่ไหน ประชาชนทั้งสองประเทศพร้อมจะเฝ้ารอ ขอให้รัฐบาลทั้งสองประเทศแสดงวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง 4 ขอให้รัฐบาลอาเซียนรวมทั้ง คณะกรรมการรัฐบาลอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (AICHR) และคณะกรรมการอาเซียนเพื่อการปกป้องคุ้มครองสิทธิสตรีแบะเด็ก (ACWC) เข้ามาเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้อพยพพลัดถิ่นทั้งสองประเทศ และร่วมฟื้นฟูความเสียหายร่วมกัน 5 ขอให้รัฐบาลเคารพในเจตจำนงของประชาชนทั้งสองประเทศและสนับสนุนส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระสห่างประชาชนกัมพูชา และประชาชนไทยยั่งยืนตลอดไป ด้วยความคารวะอย่างสูง ธรรมยาตราประชาชนกัมพูชาและประชาชนไทย จัดโดยเครือข่ายกรรมการร่วมกัมพูชา-ไทย เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทีดีระหว่างประชาชนและองค์กรเครือข่ายทั้งกัมพูชาและไทย กว่า 50 องค์กร 16 พฤษภาคม 2554"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net