Skip to main content
sharethis

24 พ.ค. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ10) กล่าวว่า ตามที่ ครม. ได้ประกาศให้พื้นที่ กทม. อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ความมั่นคง โดยเห็นชอบรวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 มีกำหนด 15 วัน ตั้งแต่ วันที่ 9 ก.พ. ถึง 23 ก.พ. ครั้งที่ 2 วันที่ 24 ก.พ.ถึง 25 มี.ค. ครั้งที่ 3 มีกำหนด 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. จนถึง 24 เม.ย. ครั้งที่ 4 ครั้งสุดท้าย มีการต่ออายุอีก 30 วัน นับตั้งแต่ 25 เม.ย. จนถึงวันนี้ (24 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ที่ประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) จึงมีมติว่า จะไม่มีการต่อ พ.ร.บ.อีก โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะใช้กฎหมายปกติเข้าไปควบคุมดำเนินการได้หากเกิดเหตุการณ์อันอาจจะกระทบกับความมั่นคง พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า จากการประเมิน ผลกระทบหากจะเกิดจากการชุมนุมนั้นจะมีแค่บางพื้นที่ ประกอบกับขณะนี้มีกฎหมายเลือกตั้ง และเชื่อมั่นว่ากฎหมายเลือกตั้งสามารถเข้ามาช่วยเหลือในการดูแลความสงบเรียบร้อยได้ จึงไม่น่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม การปิดศูนย์ ศอ.รส.นี้ไม่ได้หมายความว่าภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ดำเนินการมาถึง 105 วัน จะสิ้นสุดโดยทันที แต่จะกลับไปสู่การใช้ระบบศูนย์ปฏิบัติการ หรือ ศปก.บช.น. ดำเนินการวางกำลังดูแลสถานที่หรือพื้นที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ ที่เคยประกาศกฎหมายพิเศษ หรือทางการข่าวเชื่อว่าน่า จะมีการดูแลพิเศษรวมถึงตัวบุคคลด้วย โดยทาง บช.น. จะรับหน้าที่ดูแลต่อไป ขณะเดียวกัน การสืบสวนหาข่าวติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงผู้ชุมนุม จะดำเนินการต่อไป การติดตามการปราศรัยการหาเสียงจะใช้กฎหมายเลือกตั้ง เป็นแกนหลักในการดำเนินการ หากพบว่า มีการกระทำผิดกฎหมายไม่ว่าจะเข้าข่ายกฎหมายใดก็ตาม จะดำเนินคดีไปตามปกติ ส่วนคดีที่จำเป็นต้องส่งให้ทางดีเอสไอ ก็จะดำเนินการต่อไป .................. เรียบเรียงจาก: เว็บไซต์ไทยรัฐ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net