Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 54 ที่ผ่านมาไทยโพสต์รายงานว่าเวลาประมาณ 10.00 น. ศาลปกครองได้นัดไต่สวนในกรณีที่นายสุรนันท์ วงศ์วิทยกำจร ปฏิบัติหน้าที่แทนคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการสรรหา กสทช. และสำนักเลขาฯ วุฒิสภา เพื่อขอให้ศาลปกครองพิจารณาออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการส่งรายชื่อผู้สมัคร กสทช. จำนวน 22 คน ให้แก่วุฒิสภา เนื่องจากกระบวนการพิจารณาและมติออกคำสั่งทางปกครองในการสรรหา กสทช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นายสุรนันท์กล่าวว่า หากกระบวนการสรรหา กสทช.ยังคงดำเนินต่อไป จะส่งผลเสียหายต่อภาพรวมอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและกิจการวิทยุและโทรทัศน์มากกว่าแสนล้านบาท รวมไปถึงจะกระทบต่อผู้บริโภคในอนาคต เนื่องจากมีการให้บริการไม่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระบวนการคัดสรรหา กสทช.มีการใช้ระยะเวลาเนิ่นนาน แต่เป็นเพราะเหตุใดในช่วงนี้จึงมีการเร่งกระบวนการสรรหาทั้งที่กระบวนการดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย “ศาลปกครองได้นัดไต่สวนในกรณีที่มีการขอคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งตนได้ชี้แจงว่าเนื่องจากกระบวนสรรหา กสทช. ทั้งในบัญชี 1.การคัดเลือกกันเอง และ 2.การสรรหาจะต้องส่งให้แก่วุฒิสภาประมาณสัปดาห์ที่ 2 เดือน มิ.ย.นี้ ดังนั้นหากมีการส่งบัญชีที่มิชอบด้วยกฎหมายจะทำให้เกิดความเสียหาย” นายสุรนันท์กล่าว ทั้งนี้ กระบวนการพิจารณาของศาลจะมี 2 ส่วน คือ 1.มีคำสั่งว่าคุ้มครองหรือไม่ และ 2.การให้ผู้ถูกฟ้องส่งคำให้การภายใน 20 วัน เพื่อประกอบการวินิจฉัยในคดีดังกล่าว นางสาวสุวรรณา สมบัติรักษาสุข ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ในฐานะคณะกรรมการสรรหา กสทช. กล่าวว่า หากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองจะทำให้กระบวนการสรรหาสะดุด และจะกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคมและกิจการวิทยุ-โทรทัศน์ทั้งหมด รวมไปถึงการประมูล 3 จี เพราะจะไม่มีผู้รับผิดชอบ โดยประโยชน์ของประเทศมีมูลค่ากว่าแสนล้านบาทจะไม่มีผู้ใดดูแล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ศาลได้กำหนดกรอบส่งคำชี้แจงเพิ่มเติมภายใน 20 วัน ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการสรรหา กสทช.คงไม่มีการชี้แจงเพิ่มเติม แต่ต้องดูในส่วนสำนักเลขาธิการวุฒิสภาและอัยการว่าจะมีคำชี้แจงเพิ่มเติมหรือไม่ รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายสุรนันท์นั้น เป็นผู้สมัคร กสทช. ในสาขาเศรษฐศาสตร์ โดยมีคะแนนเป็นลำดับที่ 5 แต่เมื่อผู้ผ่านการคัดเลือก 1 ใน 4 คน คือ นายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท อดีตรอง ผอ.สำนักงบประมาณ, ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ถูกตัดสิทธิ์จากคุณสมบัติต้องห้าม นายสุรนันท์กลับไม่ได้เลื่อนขึ้นเป็นตำแหน่งถัดไป แต่กลับเลือกนายยุทธ์ ชัยประวิตร ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 7 เป็นลำดับที่ 4 แทน ทั้งนี้สำหรับสาขานี้ กฎหมายกำหนดให้มี 2 คน แต่การคัดเลือกต้องคัดเลือกเป็น 2 เท่าของสาขานั้น จึงเท่ากับคัดเลือกจำนวน 4 คน ได้แก่ 1.นางจันทิมา สิริแสงทักษิณ (อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง) 2.นายพิษณุ เหรียญมหาสาร (รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, อดีตรองปลัดกระทรวงพาณิชย์) 3.ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิชัย โถสุวรรณจินดา (ผู้ช่วยศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต, อดีต ส.ว.) 4.นายยุทธ์ ชัยประวิตร (อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคมัชฌิมาธิปไตย) แทนนายอรรถชัย บุรกรรมโกวิท อดีตรอง ผอ.สำนักงบประมาณ, ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ถูกตัดสิทธิ์จากคุณสมบัติต้องห้าม.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net