Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 


ภาพจาก ernstl (CC BY-SA 2.0)     

 

การรับเรื่องราวร้องทุกข์ของสภาเครือข่ายกลุ่มผู้ป่วยจากการทำงานและสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทยในวันนี้เราได้ยินจากปากคนงานจากการสอบถามข้อเท็จจริง มีคนงานกรณีหนึ่ง ปัญหาของคนงานที่ทำงานในโกดังสินค้าชื่อดังที่เปิกองทุนเงินทดแทนดสาขาทั่วประเทศ ใครจะรู้ว่าคนงานที่ต้องมีหน้าที่แบกขนของตามใบสั่งของหัวหน้างานวันหนึ่งๆ เป็นร้อยๆ ชิ้น ตามใบสั่ง ของที่ต้องขนยกนั้น มีทั้งหนักบ้างเบาบ้าง เช่น บางครั้งก็ต้องแบกกล่องกระดาษ แบกยกโทรทัศน์เครื่องใหญ่ ตู้เย็น ที่มีน้ำหนักมาก จนคนงานเกิดอาการปวดหลังจำนวนมาก

"อักษร" ได้เข้ามาปรึกษากับสภาเครือข่ายฯ และได้รับคำแนะนำจนได้เข้ารับการวินิจฉัยกับคลินิกโรคจากการทำงาน(คลินิกแพทย์อาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อม) แพทย์ได้วินิจฉัยอาการตามคำบอกเล่าและการสอบประวัติการรักษาอย่างละเอียด แพทย์ได้ระบุชัดเจนในใบรับรองแพทย์ว่า นายอักษรปวดหลังและกล้ามเนื้อโครงสร้างกระดูก เพราะเกิดจากการยกของหนักจากการทำงาน

อักษรส่งเรื่องเข้าใช้สิทธิทางกองทุนเงินทดแทน ซึ่งกองทุนเงินทดแทนก็ใช้ระยะเวลาวินิจฉัยถึง 6 เดือน ผลการวินิจฉัยออกมาว่า อักษรเป็นโรคสืบเนื่องจากการทำงาน ด้วยความไม่รู้ อักษรไป รพ.ตามสิทธิประกันสังคม โดยเอาผลการวินิจฉัยของกองทุนเงินทดแทน และใบรับรองแพทย์จากคลินิกโรคจากการทำงาน ไปให้ รพ.ในประกันตนดูด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า คนงานได้ไปพบแพทย์ ใน รพ.ที่ประกันตน แพทย์กลับไม่ยอมระบุในใบรับรองแพทย์ตามคำวินิจฉัยของกองทุนเงินทดแทนและคลินิคโรคจากการทำงาน เจ้าหน้าที่ว่ากล่าวคนงานว่า "คุณจะเอาอะไร ให้เข้าประกันสังคมไปซะ" แล้วก็จัดการส่งเรื่องของอักษรส่งกลับไปใช้สิทธิเข้าประกันสังคม เป็นการป่วยนอกงาน ซึ่งไม่ใช่ความต้องการของคนงานเลย ทำให้อักษรรู้สึกงงงวยว่า ตนเองมีสิทธิอยู่กับกองทุนแล้วทำไมถูกผลักไปใช้สิทธิประกันสังคมซึ่งเป็นการป่วยนอกงานไป อักษรถามว่าผมจะเสียสิทธิไหมนี่

นอกจากนี้ อักษรพยายามขอใบรับรองแพทย์กลับมาเก็บไว้เป็นหลักฐานที่ได้ป่วยรักษาตัวเป็นคนไข้ในแต่ถูกปฎิเสธ ทั้งๆ ที่ยืนยันว่าต้องการขอใบรับรองแพทย์ อักษรเล่าว่าต้องทนตื้ออยู่นานจึงได้ใบรับรองแพทย์กลับมา แล้วแพทย์ก็ไม่ยอมออกใบรับรองแพทย์ให้ลาหยุดต่อเนื่องอีก เพียงแต่เขียนว่าวันนี้คนไข้ได้มาพบแพทย์ ทั้งที่อักษรยังเจ็บปวดมาก ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทั้งที่เป็นสิทธิที่คนงานพึงจะได้รับตามกฎหมาย เพราะกฎหมายกองทุนเงินทดแทน เปิดให้คนงานมีสิทธิหยุดพักรักษาตัวโดยได้สิทธิทดแทนการลาหยุดงานถึง 1 ปีโดยได้รับค่าจ้าง 60% ของรายได้ และเป็นหน้าที่ของแพทย์ที่จะต้องออกใบรับรองแพทย์ให้กับคนงาน

อักษรสงสัยว่าทำไมการเจ็บป่วยจากการทำงานมันจึงได้เข้าถึงสิทธิยากเย็นเช่นนี้ อย่างนี้นี่เองเพื่อนๆ ถึงยอมเจ็บตัวฟรี อักษรรู้สึกเครียดมากและรู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมในการปฎิบัติ ทั้งของแพทย์และของที่ทำงานที่ตนอยู่ แต่อักษรก็ห่วงอนาคตตนเองว่า ถ้าไม่ได้พักรักษาตัวตอนนี้ คงต้องเป็นคนพิการต่อไปแน่ๆ ทั้งยังห่วงเพื่อนๆ ในที่ทำงานที่เขาเจ็บป่วยปวดหลังกันมาก แต่ยังต้องกัดฟันทนทำงานต่อไป และถ้าใครทนไม่ได้ก็ต้องลาออกไปเอง โดยไม่ได้รับสิทธิอะไรเลย

ที่สำคัญก็คือถ้ายังเป็นอย่างนี้คนงานจำนวนมากก็คงต้องเวียนวนป่วยปวดหลังแบบนี้แล้วก็พิการออกไป บางครั้งเราเห็นพี่น้องคนงานที่ขนของลงจากรถที่บรรทุกของมาส่งตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ พอรถเทียบปุ๊บ คนงานที่ขนของซึ่งมีเพียง 1 หรือ 2 คนก็จะหันหลังให้คนบนรถและเรียงสิ่งของใส่หลังจนท่วมหัว แล้วก็แบกของ บางครั้งก็เป็นน้ำดื่มหรือรังกล่องต่างๆ เอาเข้าไปเก็บ ขนอยู่อย่างนั้นจนพอแล้วก็ออกรถไปส่งที่อื่นอีก ก็เลยอยากฝากผ่านมายังพี่น้องคนงานทั้งหลายที่ต้องทำงานในลักษณะนี้ว่า มันสะดวกต่อการขนของก็จริงแต่ถ้าต้องขนแบบนี้ต่อไปโดยไม่มีรถเข็นหรือเครื่องทุ่นแรงต่อแบบนี้ไปนานๆ สักปี 2 ปี กระดูกสันหลัง แขน บ่า ไหล่ จะแย่ อาจเป็นอย่างอักษรก็ได้

อยากให้สถานประกอบการนายจ้างมองปัญหาตรงนี้ด้วย ควรป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะการร้องเรียนผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สภาเครือข่ายฯช่วงนี้กรณีคนงานปวดหลังกันมากเหลือเกินในทุกๆ อุตสาหกรรม

 

 
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net