Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ฤดูกาลของพิธีกรรมรับน้องใหม่หวนกลับมาเยือนสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาของไทยอีกครั้งหนึ่งแล้ว ในแต่ละปีของพิธีกรรมนี้มักจะเกิดการบาดเจ็บและถึงขั้นเสียชีวิตจนเป็นข่าวคราวใหญ่โตสร้างความเศร้าโศกแก่ครอบครัวและความเสียหายต่อประเทศชาติที่ต้องสูญเสีย ทรัพยากรมนุษย์อันมีค่า แต่บรรดารุ่นพี่ทั้งหลายก็ยังคงสืบทอดพิธีกรรมนี้อย่างต่อเนื่องทุกปีโดยไม่สนใจใยดีว่าสิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้น นอกเหนือจากไม่ได้ส่งผลดีต่อสังคมไทยโดยรวมแล้ว ยังก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบในระยะยาวแก่สังคมไทยอีกด้วย ผลกระทบด้านลบที่สำคัญของพิธีกรรมรับน้องใหม่ก็คือ การปลูกฝังรุ่นน้องให้ยอมรับและสืบทอดวัฒนธรรมอำนาจนิยมให้ดำรงอยู่คู่กับสังคมไทยต่อไป เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นในสังคมไทยปัจจุบันส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากวัฒนธรรมที่คุ้นชินกับการใช้อำนาจในการดำเนินการและแก้ไขปัญหา การยอมรับในอำนาจ หรือการยอมจำนนต่ออำนาจของคนส่วนใหญ่ ในด้านการเมืองการปกครองเป็นตัวอย่างที่เห็นชัด การปฏิรูปทางการเมือง การผลักดันให้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน (2540) บรรลุผลตามเจตนารมย์ที่วางไว้ยังห่างไกลจากความเป็นจริงส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากวัฒนธรรมอำนาจนิยม พิธีกรรมรับน้องใหม่มองในแง่ดีอาจจะเห็นว่าเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างความสามัคคีกลมเกลียวในหมู่รุ่นพี่รุ่นน้อง สร้างความเหนียวแน่นเป็นปึกแผ่นในหมู่คณะ แต่เป้าหมายที่ว่านี้ก็ สามารถกระทำได้ภายใต้วิธีการหรือกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ซึ่งมีมากมายหลายวิธีไม่จำเป็นต้องเล่นบทโหด รุนแรงอย่างที่กระทำกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะวิธีการที่เลวร้ายไม่สมควรรับใช้หรือเป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ในทางบวก ยิ่งในสภาวะปัจจุบันที่สังคมไทยเผชิญกับปัญหาความรุนแรงในด้านต่าง ๆ ด้วยแล้ว กิจกรรมรับน้องใหม่ที่กระทำกันอยู่นั้นไม่มีเหตุผลทางจริยธรรมใด ๆ รองรับเพื่อให้สืบทอดต่อไปได้ กิจกรรมรับน้องใหม่ที่กระทำกันอยู่เปรียบเสมือนการฝึกฝนให้รับฟังคำสั่งและปฏิบัติตามโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งก็คือการยอมรับในอำนาจ ยอมจำนนต่ออำนาจโดยไม่สามารถโต้แย้งได้เพราะมาตรการลงโทษที่หนักหน่วงทั้งทางร่างกายและจิตใจจะตามมา วิธีการเช่นนี้ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดในการศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย หากเป็นสถาบันการศึกษาด้านความมั่นคง สถาบันการศึกษาของกองทัพ วิธีการนี้อาจจะเหมาะสมเพราะโดยภารกิจต้องข้องเกี่ยวกับความเป็นความตาย การฝึกฝนให้รับฟังคำสั่ง เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง อะไรคือต้นตอของปัญหาหรือความคิดที่อยู่เบื้องหลังผลักดันให้รุ่นพี่ต้อนรับน้องใหม่ด้วยวิธีการที่โหดร้าย แสดงอำนาจบาตรใหญ่สั่งรุ่นน้องให้แสดงพฤติกรรมแปลกประหลาดที่ในชีวิตประจำวันปกติไม่กระทำกัน เช่น ยกมือไหว้เสาไฟฟ้า เกลือกกลิ้งไปมาบนพื้นถนนหรือดินโคลน ใช้เสียงข่มขู่กระโชกโฮกฮากเพื่อให้ยำเกรงหวาดกลัว ฯลฯ ผู้เขียนเห็นว่า ความคิดที่ผลักดันรุ่นพี่ให้มีพฤติกรรมเช่นนี้ต่อรุ่นน้องก็คือ วัฒนธรรมอำนาจนิยมที่ฝังรากลึกมาอย่างยาวนานในสังคมไทย ผ่านกระบวนการอบรมกล่อมเกลาทางสังคม (socialization) ในเรื่องของความสัมพันธ์เชิงอำนาจในระดับต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับครอบครัว เรื่อยมาจนกระทั่งถึงในระดับโรงเรียน เมื่อมาถึงระดับอุดมศึกษาที่ค่อนข้างมีอิสระเสรีจากกฎระเบียบต่าง ๆ พอสมควร รุ่นพี่จึงกลายเป็นผู้แสดงบทบาทสืบทอดวัฒนธรรมอำนาจนิยมนี้เสียเอง แทนพ่อแม่ และครูในโรงเรียนที่ตนเองได้รับการปลูกฝังมา แต่เดิมนั้นคณะที่มีธรรมเนียมประเพณีพิธีกรรมรับน้องใหม่มักเป็นคณะที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจเมื่อจบการศึกษาแล้วไปทำงานโดยเฉพาะในระบบราชการ เช่น คณะรัฐศาสตร์ แต่ปัจจุบันการรับน้องใหม่ได้แพร่กระจายไปยังคณะต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย ยังผลให้เกิดการผลิตซ้ำและสืบทอดความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกันในสังคมให้ดำรงคงอยู่ต่อไป ปัญหาก็คือว่า ขณะที่สังคมไทยกำลังเร่งปลูกฝังอุดมการณ์ประชาธิปไตย รณรงค์ให้ผู้คนทั้งหลายตระหนักในเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียมกัน แต่ในรั้วมหาวิทยาลัยกลับมีการบ่มเพาะให้สมาชิกยอมรับและสืบทอดวัฒนธรรมที่ขัดขวางวิถีประชาธิปไตย การเปลี่ยนแปลงสังคมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้นก็คงยากที่จะประสบความสำเร็จ ฤดูกาลแห่งพิธีกรรมรับน้องใหม่ปีนี้หวังว่า มหาวิทยาลัยทั้งหลาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพทั้งหลาย เช่น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สมาคมสิทธิเสรีภาพเพื่อประชาชน จะให้ความสนใจดูแล และหามาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ เพราะหากปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ การรณรงค์ให้ผู้คนในสังคมคำนึงสิทธิมนุษยชนจะไร้ความหมาย เสียเงินเสียทอง เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เพราะแม้กระทั่งในสังคมมหาวิทยาลัยที่พร่ำสอนผู้คนทั้งหลายให้ตระหนักถึงเรื่องนี้ ผู้คนของตนเองกลับไม่สนใจและกลายเป็นผู้ละเมิดเสียเอง หมายเหตุ : ผู้เขียนได้ส่งบทความนี้เพื่อเผยแพร่ในประชาไท โดยแจ้งว่า เป็นบทความที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์มติชน เมื่อปี 2548

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net