เห็นเถียงกันมากกว่าบัตรเหลืองใช้เลือกตั้งได้หรือเปล่า ฯลฯ ทำไมต้องไปกำหนดกฎเกณฑ์ในยุ่งยาก ในเมื่อก่อนวันเลือกตั้ง คนไทยทุกคนที่มีสิทธิย่อมได้รับจดหมายที่แจ้งชื่อและลำดับการใช้สิทธิของตนเองอยู่แล้ว บัตรที่นำไปแสดงในวันเลือกตั้ง ขอให้เป็นบัตรอะไรที่รัฐออกให้และยืนยันตัวบุคคลนั้นได้ ก็น่าจะใช้ได้ ในบางประเทศ อย่างเช่นที่รัฐแอริโซน่า สหรัฐฯ นั้น ในกรณีที่เราอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (คนอเมริกันทุกคนที่ต้องการเลือกตั้ง เมื่ออายุครบ 18 ปี ต้องไปจดทะเบียน (register) ภายในวันที่กำหนดของแต่ละรัฐ ทำครั้งเดียว ยกเว้นมีการย้ายที่อยู่) เมื่อถึงวันเลือกตั้ง เขากำหนดให้เราแสดงบัตรประจำตัวอะไรก็ได้ที่ หน่วยงานของรัฐออกให้และมีรูปติดอยู่ (จะเป็นบัตรที่ออกโดยรบ.กลาง ระดับรัฐหรือท้องถิ่นก็ได้ อย่างเช่น ใบขับขี่ บัตรคนพื้นเมือง เป็นต้น เพราะคนอเมริกันเขาไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนเหมือนเรา) แต่ถ้าเป็นบัตรไม่มีรูปต้องเอามาสองใบ หรือถ้าไม่มีบัตรอะไรเลย ให้เอาใบเสร็จรับเงินค่าน้ำประปา โทรศัพท์ ค่าประกันภัยรถยนต์ ฯลฯ อะไรก็ได้มายืนยันสองใบ เขาให้คุณเลือกตั้งได้ (ดู http://phoenix.about.com/od/citiestownsgovernment/a/voterid.htm) และกรณีที่ไม่มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือถ้ามีแล้วมีคนคัดค้านในที่เลือกตั้ง คุณก็ยังมีสิทธิลงคะแนนเสียงได้ โดยเจ้าหน้าที่จะให้บัตรเลือกตั้งชั่วคราว (provisional ballot) กับคุณ แล้วค่อยไปตรวจสอบความถูกต้องกันทีหลัง เช่นเดียวกับการ บริหารงานที่เป็นองคาพยพสำคัญทั่วไป การเลือกตั้งในสหรัฐฯ เป็นกิจการระดับท้องถิ่น สหรัฐฯ เพิ่งจะมี Federal Election Commission ที่ทำหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งระดับชาติเมื่อปี 2518 นี่เอง แต่จะทำหน้าที่เฉพาะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของนักการเมือง และที่มาของค่าใช้จ่ายเหล่านั้น รวมทั้งดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร แต่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับการกำหนดและบังคับใช้กฎเกณฑ์การเลือกตั้งแต่อย่าง ใด เพราะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานระดับท้องถิ่นทั้งนั้น (http://www.fec.gov/ans/answers_general.shtml) ส่วนเรื่องที่บัตรเลือกตั้งของไทยในครั้งนี้ระบุวิธีการกาบัตรเลือกตั้งที่สับสน (“ให้กาข้างหมายเลขพรรคที่ต้องการเลือก” ซึ่งปรากฏว่าช่องข้างหมายเลขนั้นเป็นช่องโลโก้พรรค) เป็นเรื่องงี่เง่าสิ้นดีของหน่วยงานจัดเลือกตั้ง ไม่นับเรื่องที่พิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินมาตั้งเกือบ 10% และสะท้อนปัญหาการรวมศูนย์อำนาจการเลือกตั้ง ผมว่ายุบไปก็ดีเหมือนกันนะ กกต. เนี่ย หน่วยงานแบบนี้มีแต่ควรจะช่วยทำให้การเลือกตั้งง่ายขึ้น ยุติธรรมขึ้น ไม่ใช่ทำให้วุ่นวายและขาดความน่าเชื่อถือเช่นนี้