Skip to main content
sharethis

Lady and Gentleman... กราบสวัสดีอำมาตย์ ไพร่ สลิ่ม ทั้งที่มีเกียรติและถูกเกลียดทุกท่าน วันนี้ดิฉัน รุ้งรวี ศิริธรรมไพบูลย์ รู้สึกปลาบปลื้ม ยินดี และเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มายืนอยู่บนเวทีนี้ (ในชุดของอาร์มานี่) เพื่อมาทำหน้าที่ประกาศผลรางวัล Prachatai Awards อันทรงเกียรติ ก่อนที่จะถึงช่วงนาทีระทึกใจ ว่าใครจะได้รับรางวัลอะไรบ้างในค่ำคืนนี้ ดิฉันขอพาทุกท่านย้อนกลับไปยังเมื่อหลายปีที่แล้ว แฟนนานุแฟนเว็บไซต์ประชาไทคงจะพอจำกันได้ว่า เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ดิฉัน...รุ้งรวี ศิริธรรมไพบูลย์ เขียนบทความขึ้นมาชิ้นหนึ่ง วิเคราะห์ป้ายหาเสียงของบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งหลากหลายคน ไม่นานหลังจากที่ลงในเว็บไซต์ประชาไท ไทยรัฐก็นำมุกนี้ไปเล่นด้วย ตามด้วยที่อื่นๆ อีกมากมาย แล้วพอมาถึงการเลือกตั้งในครั้งนี้ ก็กลายเป็นประเพณีที่ทุกสื่อลุกขึ้นมาวิเคราะห์ป้ายหาเสียงกันอย่างจริงจัง ดูเป็นงานเป็นการ บางคนอ้างอิงทฤษฎีอีกล้านแปด ไม่ว่าจะเป็นคริส เบเกอร์ หรือสมเถา สุจริตกุล ดิฉันก็เลยต้องหลีกทางให้ เพราะไม่มีทฤษฎีอะไรกับเค้า แต่ถ้าถามว่ายิ่งลักษณ์ทำผมแบบไหน แต่งหน้าแบบไหน อันนั้นพอตอบได้ เพราะถ่ายแฟชั่นทุกวันนี้ก็ประมาณนี้ล่ะค่ะ กลับมาที่รางวัล Prachatai Awards กับการแจกรางวัลให้แก่ป้ายหาเสียงยอดเยี่ยมในแต่ละสาขาประจำการเลือกตั้งครั้งนี้ ปีนี้เป็นปีแรกที่จัดขึ้น แต่ขอการันตีถึงความเที่ยงธรรม ยุติธรรม เพราะผลรางวัลทุกรางวัลในค่ำคืนนี้ ตัดสินมาจากคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติจากหลากหลายสาขาอาชีพ ไม่แบ่งชั้นวรรณะ มีทั้งไพร่ ทั้งอำมาตย์ ทั้งสลิ่ม ปนๆ กันไปในจำนวนที่เท่าๆ กัน เป็นการลงคะแนนลับๆ ไม่มีบัตรผี บัตรเสีย หรือปิดหีบหลังบ่าย 3 ที่สำคัญไม่มี (พรรคการเมืองไหนอยากจะ) การซื้อเสียง ดังนั้นผลรางวัล Prachatai Awards จึงเชื่อถือได้ยิ่งกว่าคำพูดของนักการเมืองคนไหนๆ เอาล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอนำทุกท่านเข้าสู่งานประกาศผลรางวัล Prachatai Awards ณ บัดนาว! เริ่มกันที่รางวัลเล็กๆ เพื่อกระตุ้นความตื่นเต้นกันก่อน ประเดิมด้วยรางวัล ‘Best Costume’ หรือรางวัล ออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม เดี๋ยวนี้เรื่องรูปหาเสียงใส่สูท ใส่ชุดครุย ถือว่าเชยมากๆ แล้วค่ะ ชุดราชการประโคมเครื่องราชย์ฯ ว่ายศไหนชั้นไหน ก็ไม่มีใครสนใจมานั่งนับเหรียญ นับแถบกันแล้ว ชุดเสื้อเชิ้ตสไตล์ลำลองแบบพับแขน ปลดไท ที่ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เคยเป็นผู้นำเทรนด์ในการเลือกตั้งซีซั่นก่อน ก็ถูกก๊อปจนเกลื่อน และในปีนี้ผู้ที่ได้รับรางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยมได้แก่...(เสียงวงออร์เคสตร้าประโคมอย่างตื่นเต้น แต่น...แตน...แต๊นนน...) โสภณ ดำนุ้ย จากพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน เรียกได้ว่าเป็นตัวเต็งมาตั้งแต่แรก และยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงอีกหลายรางวัล เป็นที่ฮือฮาตั้งแต่ป้ายหาเสียงปรากฏตามที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ แล้ว กับภาพในชุดกราวนด์สีเขียวอุ้มหมีแพนด้า (คาดว่าจะเป็นหลินปิง) งานนี้ได้รับคะแนนเสียงจากสลิ่มผู้รักสัตว์ (ยกเว้นอีกา แร้ง ตะกวดฯลฯ) อย่างท่วมท้น และเขาเป็นถึงอดีตผู้อำนวยการองค์กรสวนสัตว์ เรื่องเสื้อผ้าที่เป็นเหมือนชุดกาวนด์ของหมอที่ใส่เวลาเข้าห้องผ่าตัดนั้น อาจจะไม่เริ่ดเท่าไหร่ แต่พร็อปที่เป็นหมีแพนด้าหลินปิงนี่สิ ทำให้คอสตูมง่ายๆ ดูมีอะไรขึ้นมาทำให้คนพูดถึง อีกทั้งหมีแพนด้าก็เป็นแมสคอตสัตว์ยอดนิยมของสลิ่ม งานนี้จึงได้รับคะแนนเสียงโหวตอย่างท่วมท้น ส่วนคณะกรรมการที่เป็นไพร่นั้น ต่างถามไถ่กันว่าถ้าได้รับเลือกตั้งขึ้นมาจริงๆ ต้องเอาแพนด้าเข้าไปนั่งในสภาด้วยหรือเปล่า นี่หมายถึง 1 ที่นั่งหรือ 2 ที่นั่ง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ดิฉันขอไม่อนุญาตให้ผู้ได้รับรางวัลขึ้นกล่าวขอบคุณใดๆ เพราะเดี๋ยวจะเป็นการหาเสียง ผิดกฎ กกต. อีก (เดี๋ยวก็หาว่า Prachatai Awards ไม่ยุติธรรม สีนั่นสีนี่ จัดงานขึ้นมาเพื่อให้นักเมืองพรรคนั้นพรรคนี้ขึ้นมากล่าวหาเสียงอีก) ขอข้ามไปยังรางวัลต่อไปเลยแล้วกันค่ะ รางวัลลำดับที่สองของค่ำคืนนี้ ดิฉันขอประกาศรางวัล ‘Best Make Up’ แต่งหน้าทำผมยอดเยี่ยม ซึ่งเราๆ ท่านๆ ก็คงรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นตัวเต็งสำหรับรางวัลนี้ เพราะแค่เมื่อรูปหาเสียงออกมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงอลหม่าน วิเคราะห์กันถึงแก่นว่าใช้เทคนิคอะไร จัดแสงแบบไหน รีทัชตรงไหน หน้าถึงได้มีอายุกว่าตัวจริง ดัดผมแบบไหน ใช้เจล หรือสเปรย์ ปลายผมแบบนี้มีความหมายทางโลกย์ทางธรรมว่ายังไง ยาว...กันไปเลยทีเดียว และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาดิฉันขอประกาศรางวัลแต่งหน้าทำผมยอดเยี่ยม ได้แก่...(เสียงดนตรีอันเดิมนั่นแหละ) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัครรับเลือกตั้งระบบปาร์ตี้ลิสต์จากพรรคเพื่อไทย งานนี้แม้ฝ่ายอำมาตย์จะกดโหวต ‘NO’ ทุกคน แต่ผลรางวัลนี้ก็ตกเป็นของเธอโดยมติเอกฉันท์คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง เนื่องด้วยฝ่ายสลิ่มแม้จะไม่ชอบเสื้อแดงเท่าไหร่ แต่ก็เป็นพวกแฟชั่นนิสต้า เห็นป้ายหาเสียงยิ่งลักษณ์แล้วก็คิดได้ประหนึ่งว่าหน้าปกโว้ก เลยลงคะแนนให้ เพราะถึงอย่างไรวันเข้าคูหาก็กาเบอร์ 10 อยู่แล้ว Prachatai Awards ไม่น่าจะมีอิทธิพลส่งผลถึงคะเนนเลือกตั้งจริง แต่ไม่รู้เพราะบทความวิพากษ์วิจารณ์ทรงผมกระตุ้นอารมณ์ทางโลกย์และของผู้ชายนั่นหรือเปล่า ยิ่งลักษณ์จึงรีบเปลี่ยนป้ายหาเสียง มีรูปใหม่อีกอันที่รีทัชและไดคัทได้ห่วยแตกสุดๆ รางวัลต่อไปที่ดิฉันจะประกาศในค่ำคืนนี้ คือรางวัล ‘ตัดต่อภาพยอดเยี่ยม’ หรือ หรือ Best Picture Editing รางวัลนี้มีผู้เข้าชิงมากมาย จากหลากหลายพรรค แต่ผลรางวัลตัดต่อภาพยอดเยี่ยมเป็นของ...(แต่น แตน แต๊นนน...) กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยค่ะ...ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ รางวัลนี้เป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในหมู่คณะกรรมการ ว่าป้าย ‘VOTE NO’ ของพันธมิตรฯ นั้นเข้าข่ายตามรัฐธรรมนูญมาตรา เอ้ย! ตามกฎระเบียบของ Prachatai Awards หรือไม่ เนื่องด้วยนี่ไม่ใช่ป้ายหาเสียง และไม่ได้สังกัดพรรคหรือสมัครรับเลือกตั้ง หากพิจารณาตัวบทกฎหมาย ตีความตามตัวอักษรอย่างเคร่งครัดแล้ว จะเห็นได้ว่าไม่เข้าข่ายแน่นอน แต่เนื่องด้วย Prachatai Awards ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย เลือกสี หรืออยู่ข้างใด อีกทั้งคณะกรรมการของเรานั้น ก็ไม่เคยใช้ระบบตุลาการภิวัตน์ (หรือปฏิวัติ?) อย่างที่ศาลไทยชอบใช้ และเห็นว่าป้ายของพันธมิตรนั้นก็อยู่ในกระบวนการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงอนุโลมให้เข้าชิงรางวัลในครั้งนี้ด้วย และผลก็ปรากฏว่าความสร้างสรรค์ในการตัดต่อภาพบรรดาสัตว์เหี้ยห่าสารพัดให้ (คิดไปได้ว่า) เป็นนักการเมือง พร้อมสโลแกนว่า ‘อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภาฯ’ นั้นเป็นแคมเปญที่เก๋ไก๋ สัสันสดใส ป๊อปอาร์ตมากๆ แอนดี้ วอฮอล มาเห็นอาจร้องกรี๊ดได้ แม้จะเป็นเทคนิคการตัดต่อแบบง่ายๆ เด็กอนุบาลหัดทำโฟโต้ช็อป แต่ด้วยความสร้างสรรค์และกลายเป็นกระแสสังคม คณะกรรมการของเราจึงเทคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ ร้อยเสียงในห้องส่งโหวตให้เต็มร้อยเลยทีเดียว แต่เนื่องด้วยถ้วยรางวัลของเราอาจจะไม่เป็นที่ถูกใจกลุ่มพันธมิตร งานนี้เราจึงหล่อถ้วยรางวัลพิเศษขึ้นมาใหม่เป็นรูป ‘เขาพระวิหาร’ เพื่อมอบให้แก่กลุ่มพันธมิตรฯ โดยเฉพาะ (ซึ่งได้ทำจดหมายกราบเรียนเชิญสมเด็จฯ ฮุนเซน มาเป็นประธานในการมอบรางวัลนี้แล้ว แต่...ท่านไม่สะดวก (ใจ) มา จึงขอกราบขออภัยกลุ่มพันธมิตรฯ ไว้ ณ ที่นี่ด้วยค่ะ) เอาล่ะค่ะ...3 รางวัลผ่านไปแล้ว ก่อนที่ดิฉันจะกลับมาประกาศรางวัลต่อไป ขออณุญาตไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ...เชิญแขกผู้มีเกียรติทุกสังกัดอุดมการณ์ทางการเมือง ไปดื่มน้ำ ปัสสาวะได้ค่ะ ดิฉันอนุญาต เดินทางมาถึงรางวัลที่ 4 ของค่ำคืนนี้ เนื่องด้วยคณะกรรมการของเรางงๆ ก่งก๊ง กับรางวัลถ่ายภาพยอดเยี่ยมและองค์ประกอบศิลป์ยอดเยี่ยม (ที่จริงไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ดิฉันขี้เกียจเขียน ชักจะยาวเกินไปละ) จึงขอรวบยอดเป็นรางวัลเดียวกัน โดยใช้ชื่อว่ารางวัล ‘ทัศนศิลป์ยอดเยี่ยม’ หรือ Best Art Direction ซึ่งงานนี้มีผู้เข้าชิงรางวัลที่มีคะแนนคู่คี่สูสีถึงสองรายด้วยกัน นั่นก็คือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ และรางวัลภาพทัศนศิลป์ตกเป็นของ (แต่น แตน...แต๊นนน...) คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์ค่ะ รางวัลนี้คณะกรรมการทำงานกันหนักมาก เนื่องด้วยคุณชูวิทย์ เป็นตัวเต็งมาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งก่อน ทั้งรูปทำท่าถะมึงทึง หรือขี่มอเตอร์ไซต์ ถือกล้องส่องทางไกล แต่พอมาถึงการเลือกตั้งในครั้งนี้ แม้จะยังมี ‘มุข’ เก่าๆ ปรากฏอยู่บ้าง แต่มุขใหม่ๆ อย่างอุ้มเด็ก อุ้มหมา นั้นทำให้ ‘ภาพรวม’ ของป้ายหาเสียงของชูวิษฐ์ไม่ค่อยจะกลมกลืนไปด้วยกัน และรูปเด็ก รูปหมาก็ไม่สวย ไม่อาร์ตสักเทาไหร่ ส่วนของคุณอภิสิทธิ์นั้น โชว์ความสวยงามด้วยเลนส์ซอฟต์ใส ให้บรรยากาศฟุ้งฝัน (หรือชวนฝัน?) มีทั้งชัดลึก ชัตตื้น แบ็กกราวนด์ โฟว์กราวนด์ ครบทุกองค์ประกอบศิลป์ และรูปที่ทำให้คุณอภิสิทธิ์ชนะใจกรรมการไปได้ในสาขานี้ก็คือรูปที่ คุณอภิสิทธิ์ถือแผนที่อยู่ในมือ โอ...รูปนี้ช่างเหมือน...เหมือน...เหมือน...เสียยิ่งกระไร ก่อนที่ดิฉันจะถูกตำรวจหิ้วปีกเข้าคุก ขอประกาศรางวัลต่อเลยแล้วกันค่ะ กลัวว่าจะอยู่ไม่ถึงประกาศผลรางวัลสุดท้าย รางวัลต่อไปคือรางวัล ‘บทหรือประโยคในป้ายหาเสียงยอดเยี่ยม’ หรือ Best Screenplay ซึ่งปีนี้ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดสูสีเข้าชิงถึง 4 พรรค คือพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และพรรครักประเทศไทยของคุณชูวิทย์ และรางวัล Best Screenplay ได้แก่...(แต่น แตน แต๊นนน...) ป้ายหาเสียงจากพรรคภูมิใจไทยค่ะ ขอแสดงความยินดีด้วยค่า... ในสาขานี้ชูวิทย์คะแนนนำโด่งมาตั้งแต่แรก ด้วยประโยคเด็ดๆ หลากหลายประโยคที่อ่านแล้ว ‘ฮุก’ อย่างกับหมัดซ้ายของเขาทราย (ว่าแต่ เขาทรายถนัดหมัดข้างไหนคะ...) ทั้ง ‘การเมืองเหมือนผ้าอ้อม ยิ่งเปลี่ยนยิ่งดี’ พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ก็มีหลายแคมเปญ เด็ดๆ ทั้งนั้น ทั้ง ‘เบนซิน 35 ดีเซล 30’ ‘เกิดวันนี้ 20 ปีมีเงินล้าน’ ส่วนเพื่อไทยก็เล่นตลาดทุกวัยทั้งเบี้ยผู้สูงอายุ ไล่มาเป็นตัวเลขและช่วงอายุเลยทีเดียว หรือเด็กวัยรุ่นอย่างแคมเปญเสนอแทบเล็ตให้คนละเครื่อง (ดิฉันก็อยากได้ไอแพดเหมือนกันนะ) แต่ภูมิใจไทยสามารถคว้ารางวัลนี้ไปได้ ด้วยป้ายหาเสียงที่มีแคมเปญสั้นๆ ง่ายๆ ว่า ‘Sale 2% ทั้งชาติ ถูกทั้งประเทศ’ โอ้...นี่ต้อง Copy Writer มือขั้นเมพขิงๆ เลยทีเดียว แคมเปญหาเสียงยิ่งกว่าป้ายลดราคาห้างพารากอนเสียอีก ดึงดูดใจชะมัด! เชิญรับรางวัลไปเลยค่ะ รางวัลต่อมาคือรางวัล Best Effect หรือ Best Special Effect หรือในภาษาไทยที่ว่า รางวัลเทคนิคยอดเยี่ยม ซึ่งตกเป็นของ (แต่น...แตน แต๊นนน...) ป้ายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทยค่ะ ! เชิญขึ้นมารับไปอีกหนึ่งรางวัลค่ะ รางวัลนี้เป็นการแย่งชิงกันระหว่างสองพรรคที่มีผ้ายหาเสียงคล้ายคลึงกันนั่นก็คือพรรคภูมิใจไทย กับพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่เล่นรูปแบบคล้ายๆ กันคือใช้ ‘ภาพ’ เพื่อดึงดูดสายตา อันสอดคล้องไปกับนโยบายที่เสนอ ดังเช่นพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินที่มีกลุ่มคนหลากหลายอายุ อาชีพ มาชู 2 นิ้วตามแคมเปญต่างๆ แม้จะดึงดูดสายตาและไปกันได้ดีกับนโยบายที่เสนอ แต่เมื่อพิจารณาจากภาพต้องบอกว่าเบๆ ฟลอร์ๆ (พื้นๆ) แต่เมื่อเทียบกับภาพของพรรคภูมิใจไทยที่ใช้เทคนิคอลังการดาวล้านดวง อย่างเช่น เมื่อพูดถึงของราคาถูกลง 2% ก็เป็นภาพชายชูป้าย 2% ทำหน้าดีใจอย่างกับถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง 32 ล้าน! ข้างหลังเป็นเหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตสีทองอร่ามสวยเชียว! หรือแคมเปญสร้างที่ทำกิน 1 ล้านคนก็เป็นคนหาบเร่แผงลอยกับวินมอเตอร์ไซต์ข้างหลังมีวินรถตู้เป็นแบ๊กราวนด์ พร้อมด้วยฟ้าสีทองผ่องอำไพ (เมื่อภูมิใจไทยเป็นใหญ่ในแผ่นดิน) ต้องบอกว่าใช้เทคนิคขั้นเมพขิงๆ (อีกรอบ) จริงๆ มาถึงนาทีระทึกใจกับช่วงสุดท้ายของการประกาศรางวัลแล้ว คิดว่าหลายๆ คนคงตื่นเต้นใช่ไหมคะ ดิฉันก็ตื่นเต้นค่ะ ว่าจะเข้าคุก หรือโดนใคร อะไร ยังไง ฟ้อง (ข้อหาสุดฮิต) หรือเปล่างานนี้ เอาเป็นว่า ขอไม่เปลี่ยนชุดแล้วกันค่ะ ประกาศรางวัลต่อไปเลยแล้วกัน รางวัลต่อไปที่ดิฉันจะประกาศคือรางวัล ‘นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม’ หรือ Best Actor In A Supporting Role ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ได้แก่...(แต่น แตน แต๊นนน...) ทักษิณ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทยค่ะ...ขอเชิญผู้แทนขึ้นรับรางวัลด้วยค่ะ เพราะทักษิณเข้าประเทศไม่ได้ อีกทั้งยังไม่รู้ว่าอยู่ประเทศไหนด้วย ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นจากคณะกรรมการที่มอบให้กับทักษิณชนะขาดในรางวัลนี้ เพราะแม้ตัวจะไม่ได้อยู่เมืองไทย ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็มีข่าวออกมาไม่เว้นแต่ละวัน อย่างกับลงเลือกตั้งเอง น่าจะเปลี่ยนจากคำว่า ‘สมทบ’ เป็น ‘สนับสนุน’ เสียมากกว่า พิสูจน์ได้จากป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่เขียนไว้ว่า ‘ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ’ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้คิดว่าชักใย อุ๊ย! สนับสนุน อุ๊ย! สมทบอยู่เบื้องหลังได้ยังไงล่ะคะ ตามติดมาด้วยรางวัล ‘นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม’ หรือ Best Actress In A Supporting Role ซึ่งได้แก่...(แต่น...แตน...แต๊นนน...) ไม่มีผู้ใดได้รับรางวัลนี้ค่ะ! ที่จริงทางคณะกรรมการกะจะมอบรางวัลนี้ให้แก่บรรดาหญิงสูงศักดิ์ที่หนุนหลัง อุ๊ปส์ ดิฉันหมายถึงคุณหญิงคุณนายผู้ดีเก่าเงินถุงเงินถังสมทบทุนบริจาคให้พรรค\ประชาธิปัตย์ แต่เนื่องด้วยมีหลายคนและแต่ละคนไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งหรือถูกอ้างถึงในป้ายหาเสียงอย่างชัดเจน จึงไม่สามารถมอบรางวัลนี้ให้ได้ ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ เอาล่ะค่ะ มาถึงรางวัลใหญ่สำหรับค่ำคืนนี้ 3 รางวัลสุดท้าย ซึ่งก็คือ นักแสดงนำยอดเยี่ยมทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง และภาพป้ายหาเสียงยอดเยี่ยม มาเริ่มกันที่รางวัล นักแสดงนำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม Best Actress In A Leading Role แน่นอนค่ะ รางวัลนี้จะเป็นของใครไม่ได้นอกจาก ...(แต่น แตน แต๊นนน...) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทยค่ะ เหตุผลกลใด คงไม่ต้องสาธยายนะคะ เอาเป็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เธอเป็น ‘นำหญิง’ ยอดเยี่ยมอย่างไร้ขอ้กังขา ส่วนรางวัล นักแสดงนำชายยอดยี่ยม สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ได้แก่ (แต่น แตน แต๊นนน...) แน่นอนเช่นกันค่ะ รางวัลนี้ตกเป็นของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากเหตุผลป้ายหาเสียงที่โชว์ความหล่อความใส ประหนึ่งทอม ครูซ ในหนังเรื่อง Top Gun (เอ๊ะ! แก่ไปไหม) แล้ว คงไม่มีใครจะเหมาะสมกับตำแหน่ง ‘นำชาย’ ที่พอจะเบียดเสียด คู่คี่ ตีรันฟันแทง สาดโคลน โค่นฐานเสียง กับ ‘นำหญิง’ ได้เท่าอภิสิทธิ์อีกแล้ว แม้จะมีเสียงติติงมาจากคณะกรรมการอีกฟากหนึ่งว่าชูวิทย์ควรได้รางวัลนี้ไป แต่ด้วย ‘รสนิยม’ ของคณะกรรมการแล้วพิจารณาเห็นว่า ชูวิทย์นั้นแม้จะเล่นบทบาทดราม่าได้ถึงพริกถึงขิง อีกทั้งเนื้อเรื่องก็มีทั้งการประชดประชันสียดสี นี่ถ้าเป็นออสการ์คงได้ทั้งบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและดารานำชายยอดเยี่ยมไปแล้ว แต่เนื่องด้วยอภิสิทธิ์นั้นมาเหนือกว่าด้วยบทบาทที่เล่น ‘น้อย’ แต่ได้ ‘มาก’ หรือ Less Is More ซึ่งเป็นเทรนด์ของนักแสดงในตอนนี้ ดูได้จากป้ายหาเสียง ที่แค่ยิ้มหวานๆ แต่กินใจ ใช้องค์ประกอบอื่นๆ อย่างยืนทำท่าเคร่งเครียดถือแผนที่เข้าช่วย นัยว่าบุกไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเอาจริงเอาจังทุกหย่อมหญ้าถิ่นทุรกันดาร นั่งยิ้มหวานพูดกับตาสีตาสาที่ไหนไม่รู้ นัยว่าติดดินเข้าถึงประชาชน หรือยืนสายตามองไปข้างบนเด่นเป็นสง่าข้างหลังเป็นแบ๊กกราวนด์เบลอๆ เหมือนธงชาติหลายๆ ชาติประหนึ่งเป็นผู้นำภูมิภาค เห็นไหมว่า เล่นน้อยแต่ได้มาก ไม่ต้องทำหน้ายักษ์หน้ามาร แสดงอารมณ์มากมาย แถมยังหล่ออีก จะไม่ได้รางวัลนี้ได้อย่างไร Lady And Gentleman อำมาตย์ ไพร่ สลิ่ม ทั้งที่มีเกียรติและถูกเกลียดทุกท่านคะ มาถึงรางวัลสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ที่ทุกท่านรอคอยด้วยความตื่นเต้น ใจจดใจจ่อกันแล้วค่ะ กับรางวัล Best Picture หรือภาพป้ายหาเสียงยอดเยี่ยมสำหรับการหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งทางคณะกรรมการพิจารณาจากทุกองค์ประกอบทั้งหมดที่ได้ให้รางวัลมา และรางวัล ภาพป้ายหาเสียงยอดเยี่ยม Best Picture ประจำการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้แก่...(แต่น..แตน แต๊นนน...) ป้ายหาเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ค่ะ! (ทุกคนยืนปรบมือ Standing Ovation อย่างพร้อมเพียง) ขอแสดงความยินดีกับรางวัลสูงสุดของงานด้วยนะคะ คณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีภาพป้ายหาเสียงยอดเยี่ยมที่สุด ถ้าเทียบเป็นหนังก็เรียกได้ว่ามีครบทุกรส มีทั้งแนวไซไฟ กับภาพรถไฟฟ้าความเร็วสูงปรี๊ดสิ่งอยู่ข้างหลัง แนวบู๊กับภาพใส่หมวกออกไซต์งาน แนวดราม่ากับภาพการถ่ายร่วมกับชาวบ้านหลากหลาย แนวโรแมนติกคอมเมดี้ หรือหนังวัยรุ่นกับภาพถ่ายคู่กับนักศึกษา หรือแนวไซโคอย่างประโยค ‘ผมจะไม่ล้างผิดให้คนใดคนหนึ่ง’ ฯลฯ อีกทั้งยังรวมถึงภาพแคมเปญเดี่ยวๆ ที่กล่าวมาในข้ออื่นๆ อีกที่มีอีกหลากหลายแนว ครบทุกรสทุกชาติ แสดงได้เก่งสมบทบาท สมควรได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมและภาพป้ายหาเสียงยอดเยี่ยมไปอย่างไร้ขอกังขาและข้อติฉินนินทา ดิฉัน รุ้งรวี ศิริธรรมไพบูลย์ ของกราบขอบพระคุณอำมาตย์ ไพร่ สลิ่ม ทั้งที่มีเกียรติและถูกเกลียดทุกท่านที่มาเป็นเกียรติ (และอาจเกลียดดิฉัน) ในการประกาศผลรางวัล Prachatai Awards ครั้งนี้ และกราบขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใดเกิดขึ้น ดิฉันขอให้ทางผู้อำนวยการเว็บไซต์ประชาไทรับไว้แต่เพียงผู้เดียว (อย่ามาข้องเกี่ยวกับดิฉัน) และก่อนที่งานนี้จะจบลงดิฉันขออาราธนา (ใช้คำนี้ถูกต้องไหมคะ...ไม่ค่อยถนัดเรื่องพระเรื่องเจ้าน่ะค่ะ) ท่าน ว.วชิรเมธี ขึ้นกล่าวธรรมะประโยคเด็ดๆ (เอาเด็ดๆ สั้นๆ เลยนะท่าน แบบว่า Copy Writer เห็นต้องร้องว่าเมพขิงๆ คนจำกันได้ทั่วประเทศเอาไปโพสต์ลงเฟซบุ๊คทั้งบ้านทั้งเมืองเลย) เพื่อเป็นการเตือนสติประชาชนชาวไทยทั้งหลายก่อนถึงวันเลือกตั้งค่ะ ส่วนดิฉัน รุ้งรวี ศิริธรรมไพบูลย์ ขอลาแต่เพียงเท่านี้...สวัสดีค่ะ"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net