Skip to main content
sharethis

ปัญชาคนสยาม จัดงานสัมมนาหัวข้อเรื่อง “เลือกตั้งใหญ่ใกล้ถึง เลือกใครดี?” อดีตนายก อมธ. สมัย 14 ตุลา ชี้ เลือกพรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อขจัดทุนผูกขาดของทั้งสองพรรค และต้องเป็นพรรคการเมืองที่เกรงใจประชาชน ยุคทักษิณไม่เกรงใจประชาชนเพราะคิดว่าคุมสื่อคุมคนได้หมด ประชาธิปัตย์ก็ไม่เกรงใจประชาชน เมื่อวันอังคารที่ 28 ที่ผ่านมา กลุ่มปัญชาคนสยาม จัดงานสัมมนาหัวข้อเรื่อง “เลือกตั้งใหญ่ใกล้ถึง เลือกใครดี?” ณ ห้องประชุมชั้น4 วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยมีนาย บุลกิต อำนาจวรประเสริฐ เป็นผู้ดำเนินการสัมมนา พิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อดีตนายก อมธ. สมัย 14 ตุลา และอดีต สสร. 2550 กล่าวว่า จากโพลสำรวจความคิดเห็น ปรากฎว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ เป็นเรื่องน่าแปลกประหลาดมากที่โพลล์ของพ.ศ.นี้ กลับกลายเป็นว่าพรรคที่มีอดีตที่ไม่ดี เช่นจัดตั้งกลุ่มเสื้อแดง ทำไมโพลล์ถึงได้ชี้ออกมาเป็นอย่างนี้ ส่วนหนึ่งเพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์ ปัจุบันทำผลงานไม่เข้าตาประชาชนเลย และยังทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกไม่ดีในหลายเรื่องหลายกรณี ประชาชนตั้งความหวังไว้สูงว่าจะแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน แต่เหมือนกับสุภาษิตโบราณที่ว่าขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ เหลาลงไปเป็นบ้องกัญชา เพราะปัญหาใหญ่หลายเรื่องแก้ไม่ได้เลย เช่นปัญหาข้าวของแพง รายจ่ายสูง รายได้ต่ำ ซึ่งแก้ไม่ได้เลย คนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดคือกลุ่มนายทุนขนาดใหญ่ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณ(รัฐบาล) มีเวลาตั้ง2ปีครึ่ง คุณไม่สามารถทำให้ปัญหาความยากจนลดลงไปเลย ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทย ยังมีความขัดแย้งในสีเสื้อ และปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ในขณะที่คุณไปกล่าวหาทักษิณเค้าว่าโกงกินหลายแสนล้านบาท แต่รัฐบาลชุดนี้ก็มีการทุจริตคอรัปขั่นสูงมาก จนในภาคธุรกิจที่ไม่เคยบ่นก็ยังออกมาบ่น เพราะบางโครงการทุจริตสูงถึง 70-80% ซึ่งเป็นยุคที่แย่ที่สุดในประเทศ เค้กที่กว่าจะมาถึงประชาชนถูกกัดกินจนเละเทะหมดแล้ว การทุจรริตคอรัปชั่นสูงกว่าสมัยทักษิณเสียอีก การเลือกตั้งก็มีการโกงกิน เป็นการโกงกินที่เอาเงินมาจากภาษีของประชาชนอีกที เช่นบางรายแจกคูปอง แจกสลากกินแบ่ง แจกเงินเริ่มต้นที่หัวละพัน บางที่ยึดบัตรประชาชน กกค.ก็รู้ แต่ทำเป็นไม่รู้ ขนาดตนยังรู้เลย แถมกกต. ยังไม่ต่างประเทศอีก ต้องขอประณามว่ากกต. ทำหน้าที่ไม่เหมาะสมเลย และหวังว่าการเลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้จะไม่มีความผิดพลาดอีก สิ่งเหล่านี้ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตกต่อลง คิดว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้รักพรรคเพื่อไทยจริงๆหรอก แต่ว่าเป็นแนวร่วมมัมกลับ ที่ไม่พอใจประชาธิปัตย์หันมาเลือกพรรคเพื่อไทย แนวร่วมมุมกลับแบบนี้น่าจะสัก 205 เหตุที่เป็นอย่างนี้เพราะการเมืองไทยเราถูกผูกขาดด้ยสองพรรคใหญ่ซึ่งมีกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลัง อาจกล่าวได้ว่าเป็นทุนผูกขาดและขนาดใหญ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำไมการเมืองไทยต้องอยู่ภายใต้กลุมทุนผูกขาดสองกลุ่มเท่านั้น จริงๆแล้วการเมืองไทยควรจะเป็นการเมืองที่กระจายอำนาจ ตนอยากจะแนะนำว่าควรเลือกพรรคการเมืองระดับเล็กให้มากขึ้น เพราะท่านทั้งหลายก็เห็นแล้วว่าทั้งสองพรรคทำผลงานได้ไม่ดีทั้งคู่ แต่ปัญหาคือคะแนนเหล่านี้ จะสามารถผลักดันให้เป็นรัฐบาลหรือปล่าว เพราะพรรคขนาดกลางเหล่านี้ต้องเกาะพรรคใหญ่ นี่คือจุดอ่อนของพรรคขนาดกลางและขนาดเล็ก การตัดสินใจจะเลือกพรรคการเมือง 1.คือเราควรเลือกพรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อขจัดทุนผูกขาดของทั้งสองพรรค และต้องเป็นพรรคการเมืองที่เกรงใจประชาชน ยุคทักษิณไม่เกรงใจประชาชนเพราะคิดว่าคุมสื่อคุมคนได้หมด ประชาธิปัตย์ก็ไม่เกรงใจประชาชน เห็นจากการประชุมครม. ทิ้งทวนครั้งสุดแล้วเพื่อผ่านงบประมาณแสนล้านบาท 2. ควรจะเลือกพรรคที่ทำเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ ไม่ใช่เห็นแก่ตัวหรือโกงกิน หรือนโยบายประชานิยม ซึ่งนำเงินมาใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก แล้วเดี๋ยวก็จะเป็นแบบประเทศกรีซที่ล้มละลาย จะก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ ผลที่จะเกิดตามมาหลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองขนาดใหญ่ก็จะได้มาเป็นรัฐบาล เท่าที่ดูขนาดนี้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลสูง แต่ว่าการที่ประชาธิปัตย์ ไปปราศรัยที่เซนทรั่ลเวิร์ลทำให้คะแนนเพื่อไทยลดลงและ ประชาธิปัตย์ กระเตื้องขึ้นมาหน่อย แต่ว่าจะตามทันเพื่อไทยหรือไม่ต้องติดตามดูต่อไป พรรคเพื่อไทยน่าจะได้คะแนนประมาณ 220บวกลบ10 พรรคประชาธิปัติย์น่าจะได้ราวๆ 170บวกลบ10 ซึ่งพรรคที่สามพรรคคงจะเป็นภูมิใจไทย รัฐบาลใหม่ที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์ คำถามที่อยากจะถามคือรัฐบาลใหม่จะเป็นประโยชน์ต่อภาคประชาชนแค่ไหน ถ้าประชาธิปัตย์ได้ ในความเห็นตนอาจจะเป็นประโยชน์มากกว่า แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะเรื่องการปฎิรูปประเทศของปชป ก็ไม่เห็นได้นำมาใช้แล้ว ดังนั้นจึงมีการโหวดโนของพันธมิตร เพื่อจะเป็นการดึงผลคะแนนพรรคการเมือง ถ้ามีถึง5% จะเป็นอันตรายต่อพรรคการเมืองต่างๆมาก ถ้าถามว่าการเมืองไทยจะมีอนาคตไหม โดยส่วนตัวว่าไม่มีเพราะไม่ว่าใครจะมาเป็น ก็จะไม่แก้ปัญหาอะไรได้เลย อยากเห็นรัฐบาลกลางที่ไม่ใช่ ประชาธิปัตย์ หรือเพื่อไทย มาเป็นรัฐบาลสักระยะหนึ่ง เพื่อปฎิรูประเทศอย่างแท้จริง อ.วิภา ดาวมณี อาจารย์ประจำวิทยาลัยนวัตรกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า กระบวนการประชาธิปไตยไม่ใช่การเลือกตั้งอย่างเดียว แต่ต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งเป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย ถ้าเรายังเชื่อว่าผู้ที่เป็นเจ้าของประชาธิปไตยคือประชาชน อ.วิภา ให้ความเห็นต่อไปว่า น่าเสียดายที่พรรคที่เป็นหัวอนุรักษ์นิยมใช้ชื่อว่าประชาธิปัตย์ และพรรคแรงงานในไทยนั้นกลับไม่มีเลย ส่วนพรรคอื่นๆเช่นเพื่อไทย ภูมิใจไทย มาตุภูมิ ก็มีฐานความคิดโดยดูจากชื่อว่าอิงกับระบอบเก่าของความเป็นชาตินิยม และไม่มีพรรคที่แสดงออกชัดของอุดมการณ์เช่น สังคมนิยม ลิเบอรัล ฯลฯ ไม่มีตัวแทนที่เป็นจริงของชนชั้นล่าง ประชาชนที่เป็นชนชั้นล่างคนทำงาน เมื่อไม่มีตัวแทนของพรรคตนเองก็ต้องไปพึ่งพรรคอื่นๆ พรรคที่น่าสนใจเช่นพรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตร ก็มีแนวโน้มความเป็นรัฐสวัสดิการแบบ สแกนดิเนเวีย พรรคการเมืองพรรคใหญ่ๆอาจมีวิธีการต่างกัน แต่ในเชิงนโยบายนั้นไม่ต่างกันเลยยืนอยู่บนหลักเสรีนิยมและประชานิยม ในเชิงความคิดต้องบอกว่าประชาธิปัตย์ เป็นอนุรักษ์นิยม ส่วนพรรคเพื่อไทยที่พิจารณานโยบายที่ไม่ต่างกัน ในเชิงเศรษฐกิจอาจจะต่างออกไปบ้างเพียงเล็กน้อย แต่โดยพื้นฐานของพรรคเพื่อไทยก็ยังยืนอยู่บนแนวเดียวกับที่ประชาธิปัตย์ใช้ พรรคเพื่อไทยอาจจะมีความต่างในเชิงที่ว่า พรรคเพื่อไทยทำประโยชน์ให้กับชนชั้นล่างเป็นส่วนใหญ่ ในเมื่อคนจนไม่สามารถมีพรรคของตัวเองจึงต้องพึ่งกลุ่มทุน สุดท้ายอยากฝากไว้ว่า พลังที่เปลี่ยนแปลงจริงๆไม่ใช่พลังของชนชั้นนำกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นพลังของประชาชนทุกคน อ. อานุภาพ ธีรณิศรานนท์ นักวิชาการอิสระ ให้ความเห็นว่าการเลือกตั้งไปก็เหมือนเดิม ถามว่าคนธรรมดาสามารถลงสมัคร สส.ได้ไหม คำตอบคือไม่ได้ เพราะไม่มีโอกาส คนที่เป็น สส. ได้เพราะมีโอกาสในการโกงมากกว่าเรา ที่จะแย่งชิงทรัพยากรไปจากเรา อ. อานุภาพ กล่าวสนับสนุนให้เลือกชูวิทย์ โดยเชื่อว่าจะมาต้านคอรัปชั่น โดยการเป็นฝ่ายค้าน เพื่อจะได้มาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของแต่ละพรรค

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net