ป่วนกระแส โดย บุญชิต ฟักมี: ควันหลงเลือกตั้ง

มาตรการเลือกตั้งสำหรับประเทศที่คิดว่าพลเมืองคิดไม่เป็น ห้ามขายเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ หลังหกโมงเย็นของวันก่อนวันเลือกตั้งจนถึงเที่ยงคืนของวันเลือกตั้ง ห้ามทวีตหรือเฟซบุ๊คชมเชียร์ผู้สมัครรัเลือกตั้งหรือพรรคการเมือง หลังเวลาหกโมงเย็นวันก่อนวันเลือกตั้งไปจนถึงเวลาปิดหีบ ข้อห้ามของ กกต. ที่เราๆท่านๆ คงจำได้ขึ้นใจแล้ว ข้อห้ามที่ทำให้เราต้องตุนขนซื้อเหล้าเบียร์กันตั้งแต่เที่ยงของวันที่สอง หรือต้องรีบปิดวอลบนเฟซบุ๊กหนีกันก่อนหกโมงเย็น ได้ยินว่าร้านขายยาบางที่ คนจะไปซื้อแอลกอฮอล์ล้างแผลก็ไม่กล้าขายให้ - กลัวใครอุตริเอาไปผสมเหล้ากินแล้วเภสัชกรต้องมีธุระไปติดคุก ไม่เป็นไรครับ เราเข้าใจว่า ท่านผู้ร่างกฎหมายหรือตีความกฎหมายเขาปรารถนาดี เขาคงกลัวว่า ถ้าให้ซื้อเหล้าตอนเย็นหลังวันเลือกตั้งได้ คนอาจจะกินเหล้าเมาเละไปฟื้นอีกทีห้าโมงเย็นวันเลือกตั้ง จะอดไปใช้สิทธิกัน หรือไม่ก็ กลัวว่า ถ้าปล่อยให้มีการทวิตหรือโพสต์ข้อความเชียร์ผู้สมัครรับเลือกตั้งในเวลาวิกาล อาจจะเกิดคุณไสยมนต์ดำ ทำให้คนที่ตั้งใจจะเลือกเบอร์ใดเบอร์หนึ่งไว้แล้วเกิดไขว้เขว เห็นข้อความทวิตหรือบนวอลเฟซบุ๊คแล้ว โอ้ กูข้าตาสว่าง เปลี่ยนใจมันกลางทางเสียอย่างนั้น บางคนเขาบอกว่า – เอ๊ เอ็งนี่พูดจาไปเรื่อย เขามีไว้เพื่อป้องกันการจัดเลี้ยงหาเสียงโว้ย ครับ ก็ว่ากันไป เอ้า เชื่อก็ได้ แต่จริงๆ งานเลี้ยงไม่ต้องมีเหล้าก็จัดได้ ไม่ใช่เหรอครับ หรือจะซื้อเสียง เราจะจัดเลี้ยงเอิกเกริกรอคุณพ่อ กกต. มาสอยไปหรือไร ถ้าอย่างนั้นไม่ห้ามออกจากบ้าน หรือห้ามพบปะกันเกิน 3 คน ไปเสียเลยละครับ ตรงประเด็นกว่าไหม เอาเถอะครับ ไหนๆก็ไหนๆ ถ้าเผื่อเขาคิดว่า ประชาชนพลเมืองภายใต้บังคับกฎหมายนั้น สามารถถูกชักจูงกันได้ง่าย ถูกหลอกกันได้ง่ายๆ เรามาช่วยเขาร่างข้อห้ามช่วงเลือกตั้งกันดีกว่า ว่า พฤติกรรมใดไหนอื่นอีก ที่พลเมืองโง่ๆ ไม่ควรจะทำ เพราะอาจจะส่งผลให้การเลือกตั้งไม่ยุติธรรม เริ่มจาก เย็นวันก่อนวันเลือกตั้ง ถึง ก่อนปิดหีบ ห้ามมิให้เปิดไฟหรือประดับไฟที่มีสีใดสีหนึ่งที่ประกอบอยู่ในตราสัญลักษณ์หรือโลโก้พรรคการเมือง ก็ไม่มากอะไรฮะ แดง น้ำเงิน เขียว เหลือง ชมพู ม่วง ฟ้า คราม ฯลฯ เพราะถ้าไม่ห้ามไว้เช่นนี้ ต่อให้ห้ามหาเสียง ห้ามโพสต์ลงอินเตอร์เน็ต ก็อาจจะมีรายการลักไก่ กระพริบไฟแวบๆ เป็นสีเพื่อเชียร์คนที่รักพรรคที่ชอบได้ ไอ้ที่ลำบากหน่อย เห็นจะเป็นสัญญาณไฟจราจร ในวันก่อนวันเลือกตั้งถึงวันเลือกตั้ง สงสัยต้องเอาฟิล์มดำมาปิด ให้เป็นไฟจราจรเวอร์ชั่นขาวดำไปพลางๆ เลือกตั้งเสร็จค่อยแกะออก และทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ควรห้ามผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง จาม ฉี่ ตด หัวเราะ ในรัศมีห้าเมตรจากหน่วยเลือกตั้งด้วย – เพราะบางคนอาจจะตดเพื่อบอกใบ้ให้เลือกเบอร์ แปด หรือแกล้งจาม เสียงดัง ฮ้าาาา ชิ้ว หรือหัวเราะ ฮ่าๆๆ บอกใบ้ให้เลือกเบอร์ห้า หรือแกล้งฉี่เสียงดังเป็น เบอร์ ฉี่... อ้อ ข้าวเหนียวนึ่ง ก็ห้ามเอามาขายแถวนั้น เดี๋ยวพ่อค้าแม่ค้าจะเนียน ยิ่งบางสำเนียง ออกเสียง นึ่ง เป็น หนึ่งอีก จะกลายเป็นหาเสียงกันหน้าหน่วยเนียนๆไป .................................................. แพนด้าผู้น่าสงสาร เรื่องเล็กๆ ที่ออกจะสะเทือนใจคนรักสัตว์อยู่พอสมควร คือ การที่คุณโสภณ ดำนุ้ย ผู้สมัคร ส.ส. พรรค ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่สร้างความฮือฮาด้วยการถ่ายรูปปักป้ายหาเสียงคู่กับแพนด้าน้อย “หลินปิง” แพนด้าน้อยที่เคยเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย ที่เฝ้าติดตามตั้งแต่เกิด โต ขนงอก กินไผ่ ถึงขนาดต้องมีการวัดปริมาณขี้ในแต่ละวัน และถึงกับเป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์หากวันไหนไม่ได้ขี้ เรียกว่า หลินปิงเป็นศูนย์รวมความรักของคนไทยจนเล่นเอา ช้าง เสือ จระเข้ น้อยใจไปเพนต์ลายแพนด้ากันเป็นแถบๆ เมื่อผู้สมัครท่านนี้ เอาไม้ตายอย่าง แพนด้าผู้เป็นที่รักยิ่งนี้มาอุ้มโฆษณาลงป้ายหาเสียงว่า “เลือกเรานะ แล้วเราจะอุ้มแพนด้าอยู่อย่างนี้ตลอดไป” เช่นนี้ เขาน่าจะได้คะแนนเสียงจากผู้รักแพนด้า (ที่อนุมานได้ว่าน่าจะอยู่ท่วมท้นล้นประเทศไทยเหมือนกระแสฟีเวอร์ตอนนั้น) ใช่ไหมครับ อย่าว่าแต่ลงเลือกตั้ง ส.ส. เขตเล็กๆเลยครับ นายกก็ลงได้ คนรักแพนด้ามีเป็นล้านๆ แต่เมื่อเช้าผมเปิดเวบ กกต. เช็คคะแนนน้าแกดู เพราะตรวจรายชื่อพรรคที่ได้ที่นั่งในกรุงเทพฯแล้วไม่เห็น ก็พบว่าน้าแก... ได้คะแนนไป 407 คะแนนเท่านั้น ห่างจากผู้ที่ได้รับเลือกตั้งในเขตนั้นที่ได้ประมาณ 38,000 คะแนน อยู่ประมาณ … เกือบๆร้อยเท่า เท่านั้นเอง ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้ ! ทำไมอุ้มแพนด้าแล้วยังแพ้รูดขนาดนี้ คนไทยไม่รักแพนด้ากันแล้วหรือไร ? แพนด้าที่เคยเป็นที่รักของเรา หรือเราไปรักตัวอะไรแทนแล้วก็ไม่รู้ รับไม่ได้จริงๆ – บรรดาแพนด้าแฟนคลับกล่าวทั้งน้ำตา แต่เมื่อผมถามว่า แล้วน้องเลือกน้าแกหรือเปล่า – เปล่าค่ะหนูโนโหวต ไม่ให้สัตว์เข้าสภา แป่ววว !!! น่าจะเป็นบทเรียนสำหรับผู้ชอบอุ้มโน่นชูนี่ ว่า อย่าหาเสียงสุ่ม 4 สุ่ม 5 แบบนี้ นอกจากท่านจะเสียหมาเองแล้ว สิ่งที่ท่านอุ้มอยู่ก็จะเสียเซลฟ์ไปด้วย เหมือนน้องแพนด้าหลินปิงนี่แหละครับ .................................................. ว่าด้วยการศึกษาและวิจารณญาณ หลังจากผลเอ็กซิทโพล (ปัจจุบันอาจจะเรียกว่า “เก็กซิมโพล” ไปแล้วก็ได้) ออกมา เสียงกระหึ่มไปทั่วเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ คือ เสียงร่ำไห้ของบรรดากลุ่มมนุษย์ผู้มีการศึกษาและจริยญญาณชั้นพิเศษ (Special League of Intellectual and Morality – SLIM หรือเรียกสั้นๆว่า “สลิ่ม”) จากนั้นเสียงร่ำไห้ก็เงียบลงเปลี่ยนเป็นเสียงเฮฮากันบ้าง หลังจากพิสูจน์ได้ว่า เอ็กซิสโพลได้กลายร่างเป็นเก็กซิมโพลไปดังกล่าว แต่เมื่อปรากฎชัดเจนในภายหลังว่า ไอ้ที่ว่าแพ้ถล่มทลายน่ะ ไม่ถล่มทลาย แต่ก็แพ้จริงแพ้ยับใช่ย่อยไม่ต้องลุ้นอีกเหมือนกัน คราวนี้เสียงร่ำไห้เปลี่ยนเป็นเสียงบ่นก่นด่าดังกระหึ่มไปทั่ว ว่า เสียงส่วนใหญ่ไม่มีการศึกษาพาชาติล่มจมบ้าง ฝันร้ายของประเทศไร้อนาคตบ้าง ประเทศที่ให้กรรมกรปกครองบัณฑิตบ้าง คนส่วนใหญ่ (นอกจากพวกกูและคนที่เลือกเหมือนกู) ไม่มีจริยธรรมประจำใจ สนใจผลประโยชน์ตัวเองมากกว่าชาติบ้าง ก็ว่ากันไป นึกถึงที่เพื่อนบางคนเคยเล่าให้ฟังว่า เวลาไปฟังคนพวกนี้ ด่าคนเสื้อแดงบ้าง ด่าคนชอบพรรคเพื่อไทย หรือคนรักทักษิณบ้าง ประโยคประจำที่ถ้าไม่พูดแล้วอาจขี้ไม่ออก คือ “คนพวกเนี้ยๆๆ มันโง่ มันไม่มีการศึกษา เลยไม่มีวิจารณญาณพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร” แต่พอถูกโต้แย้งไปด้วยข้อมูล ยกเอกสาร หรือบทความยากๆ ยาวๆ ภาษาไทยบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง ทฤษฎีการเมืองนี่นั่นโน่นบ้าง มนุษย์พิเศษพวกนี้ก็ย้อนกลับมาว่า “อ๋อ พวกเธอน่ะมันเรียนมาก ไปเรียนสูงไป ไปเรียนกับฝรั่ง ไม่รู้บริบทแบบไทยๆ” เล่นเอาคนเถียงแทบจะไปซดสลิ่มสักพันลิตรให้วายปราณ – ตกลงว่า เรียนน้อยก็สำราก รู้มากก็เหน็บแนม – นี่แหละครับ สเปเชียล ลีก ออฟ อินเทลเล็กชวล แอนด์ มอรัลลิตี้ - สลิ่ม !!! เหมือนกับพวกชอบดรามาภัยพิบัติญี่ปุ่นนั่นแหละครับ โอ้ย คนญี่ปุ่นนี่เขาดี มีวินัย เข้าแถวรับความช่วยเหลือกันอย่างพร้อมเพรียงไม่แย่งกัน อีกกี่ชาติคนไทย (โง่ๆ ไร้การศึกษา – ความหมายให้เข้าใจกันเอง) จะทำได้อย่างนั้น แล้วจะพูดอะไรถึงประชาธิปไตย แต่อิคนพูดนั่นแหละครับ พอขึ้นรถไฟฟ้าได้ปุ๊บ คว้าไอแพดขึ้นมาปั๊บ พิงเสาปิ๊บ รูดเล่นปรื้ดๆ ใครเบียดเข้ามาใกล้รัศมี หรือมาขอจับเสา แม่ค้อนด้วยแหนะ ใครขอเบียดเพื่อเข้าไปยืนข้างในๆตัวรถ ก็พบสลิ่มอีกจำพวก ยืนถ่างขายืนดูทีวีอย่างสบายใจ ไม่เห็นมีใครเอาอย่างคนญี่ปุ่น ที่เข้ารถไฟได้ต้องเบียดเข้าไปให้สุดๆ เบียดจนน้ำแตกลูกไหลกันเลย – อืม มีการศึกษา อารยะกันจริงๆ ถ้าไทยยังไม่ถอนตัวออกจากมรดกโลกนี่จะขอจดทะเบียน “สลิ่ม” เป็นมรดกโลกที่น่าทึ่งที่สุดกันเลยทีเดียว ..................................................

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท