Skip to main content
sharethis

เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี หรือ “อันเฟรล” แถลงผลการสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ชี้ ภาพรวมถือว่าผ่าน แต่พบผู้เสียสิทธิในการเลือกตั้งล่วงหน้าสูงถึงหนึ่งล้านคน วานนี้ เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (Asian Network for Free Election – ANFREL) หรือ อันเฟรล ออกแถลงการณ์พร้อมรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับผลการสังเกตการณ์การเลือกตั้งในประเทศไทย พบว่าภาพรวมในการจัดการการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม พบว่ามีข้อน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการจัดการการเลือกตั้งล่วงหน้าที่มีปัญหา และความรุนแรงในพื้นที่หลายจังหวัด ประธานเครือข่ายอันเฟรล นายดามาโช แมคบูอัล ให้ความคิดเห็นถึงการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่า การจัดการเป็นไปได้ด้วยดีและไม่มีข้อกังขาใดๆ อย่างไรก็ตาม ทางอันเฟรลได้แสดงความกังวลถึงการจัดการการเลือกตั้งล่วงหน้าของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีความขัดข้อง เนื่องจากทางกกต. ใช้ทะเบียนรายชื่อเก่าจากการเลือกตั้งปี 2550 ส่งผลให้ผู้ที่เปลี่ยนสถานภาพไม่สามารถใช้สิทธิในการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ ซึ่งคิดเป็นประชาชนราว 500,000 -1,000,000 คน หรือราวร้อยละ 50 ของผู้ที่แจ้งใช้สิทธิล่วงหน้า นอกจากนี้ ยังพบว่า ในการเลือกตั้งล่วงหน้า กกต. ได้ลดระยะเวลาการเลือกตั้งลง โดยเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งในปี 2550 การเลือกตั้งล่วงหน้ามีระยะเวลาสองวัน ครอบคลุมเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 – 17.00 น. แต่ในการจัดการการเลือกตั้งในปี 2554 พบว่าเวลาย่นลงมาเหลือเป็นวันอาทิตย์วันเดียว เวลา 8.00 – 15.00 น. เท่านั้น ทำให้ประชาชนจำนวนมากที่ประสบปัญหาการจราจรไม่สามารถไปถึงจุดเลือกตั้งได้ทันเวลา ในรายงานเบื้องต้นของอันเฟรล ยังได้ตั้งข้อสังเกตถึงบัตรเลือกตั้งที่พิมพ์เกินมาจำนวนมาก โดยในครั้งนี้ พบว่ามีการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินมาถึง 12% ซึ่งระดับที่กฎหมายกำหนดนั้นอนุญาตให้พิมพ์ได้ไม่เกิน 7% ของจำนวนทั้งหมดเท่านั้น และเสริมด้วยว่า แม้ในประเทศที่อนุญาตให้ประชาชนกาบัตรใหม่ หากทำบัตรเก่าเสียหรือผิดพลาดนั้น ยังมีจำนวนของบัตรเลือกตั้งที่เกินมาในสัดส่วนที่น้อยกว่านี้มาก ทางอันเฟรลจึงเรียกร้องให้กกต. เปิดเผยที่ไปที่มาของบัตรที่เหลือดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดอยุธยา กาญจนบุรี และขอนแก่น พบว่าทหารที่ใช้สิทธิเลือกตั้ง มีการพกอาวุธปืนเข้าคูหา ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดหลักสากลของการจัดการการเลือกตั้งอย่างร้ายแรง และในรายงานยังระบุว่า การใช้กฎหมายพิเศษ เช่น พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ. ความมั่นคง ในระหว่างการรณรงค์หาเสียง ถือเป็นการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และละเมิดสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร 00000000 แถลงการณ์ การเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ในประเทศไทย เครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (อันเฟรล) ขอแสดงความยินดีกับประชาชนชาวไทยที่ออกมาเลือกตั้งตามกระบวนการประชาธิปไตย เป็นจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ ขอชื่นชมคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งประเทศไทย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ การบินไทย และไปรษณีย์ไทยที่ช่วยสนับสนุนให้การจัดการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคมที่เป็นไปอย่างเรียบร้อย ท่ามกลางความกดดันทางการเมืองที่หนักหน่วง คณะกรรมการการเลือกตั้งก็ยังสามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้ผ่านพ้นไปอย่างราบรื่นและได้ผลการเลือกตั้งที่สะท้อนถึงความต้องการของคนส่วนใหญ่ในประเทศ ประเทศไทยได้เผชิญกับความขัดแย้งและความรุนแรงทางการเมืองที่ทำให้เกิดความแตกแยกมาเป็นเวลาหลายปี ขณะนี้ประชาชนคนไทยได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง ด้วยความสงบเรียบร้อยและเป็นไปตามกฎหมายแล้ว นายดามาโซ แมคบูอัล ประธานเครือข่ายอันเฟรลกล่าวว่า การจัดการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 ที่ผ่านมานั้น เป็นไปด้วยดีและปราศจากข้อกังขาใดๆ ในผลการเลือกตั้งที่ออกมา ถึงแม้จะมีกรณีร้องเรียนบ้างก็ตาม ในส่วนของกรณีร้องเรียนนั้นอันเฟรลขอเรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดำเนินการไต่สวนโดยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการที่ควรดำเนินการด้วยความเป็นธรรม เป็นมืออาชีพ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ในช่วงระหว่างการหาเสียง ยังเต็มไปด้วยการอภิปรายอันเผ็ดร้อน การกล่าวหาซึ่งกันและกัน การซื้อเสียง และความรุนแรงที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งต่างๆ สิ่งเหล่านั้นกำลังได้รับการตรวจสอบ การซื้อเสียงยังคงเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในกระบวนการเลือกตั้งของไทยในระยะยาว รวมทั้งปัญหาความรุนแรงทั้งก่อน และระหว่างการเลือกตั้ง มีการทำร้ายและข่มขู่หัวคะแนนอยู่ทั่วไป อันเฟรลมีความเป็นห่วงในกรณีของการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 500,000 ถึง 1,000,000 คนไม่สามารถใช้สิทธิได้ เนื่องจากการใช้บัญชีรายชื่อของปี 2550 ทำให้ประชาชนที่เปลี่ยนสถานภาพไม่สามารถใช้สิทธิออกเสียงได้ และไม่ได้รับแจ้งข้อมูลที่เพียงพอจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรณีดังกล่าวนี้เป็นกรณีที่เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ประการต่อมาคือ การลดจำนวนวันเลือกตั้งล่วงหน้าลงจาก 2 วันเป็นเพียง 1 วัน ทำให้ประชาชนไปใช้สิทธิล้นหน่วยเลือกตั้งที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง และทำให้หลายคนไม่สามารถใช้สิทธิได้ทันเวลาที่กำหนดเพราะปัญหาการจราจร อันเฟรลหวังว่าปัญหานี้คงได้รับการแก้ไขปรับปรุงในการจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปในระดับรัฐบาล การจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินกว่า 12% ซึ่งกฏหมายกำหนดไว้ที่เพียง 7% ทำให้เกิดการร้องเรียนขึ้นหลายกรณี ถึงแม้ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะพยายามอธิบายถึงความจำเป็นในการพิมพ์บัตรเกิน แต่ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนว่าทำไมจึงต้องพิมพ์บัตรเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดไว้จำนวนมาก นายดามาโซกล่าวว่า การฝ่าฝืนกฏหมายข้อนี้เป็นเรื่องที่น่าเสียดายและอาจบั่นทอนความชอบธรรมของการเลือกตั้ง รวมทั้งมุมมองในเรื่องของความเป็นกลางและความสามารถในการจัดการของคณะกรรมการการเลือกตั้งในสายตาของสาธารณชนได้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งและบทบาทของผู้นำชุมชน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในบริเวณหน่วยเลือกตั้งนั้น อันเฟรลสังเกตเห็นว่าในช่วงระหว่างการเลือกตั้งในบางพื้นที่ควรมีการป้องปรามอย่างเคร่งครัด โดยนายดามาโซกล่าวว่าบุคคลเหล่านั้นอาจให้คุณ ให้โทษ หรือชี้นำผู้มาใช้สิทธิได้ ในหน่วยเลือกตั้งที่ไม่มีตัวแทนพรรคการเมืองมาร่วมเป็นสักขีพยานและสังเกตการณ์ อันเฟรลเรียกร้องให้ตัวแทนภาคประชาชนเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้ และเรียกร้องให้พรรคการเมืองมีส่วนร่วมสังเกตการณ์มากกว่านี้เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรมในกระบวนการการเลือกตั้ง อันเฟรลรู้สึกยินดีที่เห็นว่าทหารได้แสดงความเป็นกลางและมีความเป็นมืออาชีพในการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีทหารบางส่วนที่มีการติดอาวุธเข้าไปใช้สิทธิในคูหาเลือกตั้งซึ่งเป็นการขัดต่อหลักปฏิบัติของนานาชาติ อันเฟรลขอเรียกร้องให้กองทัพคงความเป็นมืออาชีพและปล่อยให้ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศต่อไปอย่างราบรื่น อันเฟรลขอแสดงความชื่นชมต่อนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ประกาศยอมรับผลการเลือกตั้งและยอมรับความพ่ายแพ้ต่อพรรคเพื่อไทยในคืนวันเลือกตั้ง ท่านนายกฯ อภิสิทธิควรได้รับความชื่นชมเป็นอย่างยิ่งในการกระทำดังกล่าวนี้ ในท้ายที่สุดนี้อันเฟรลมีข้อเสนอแนะ (ตามเอกสารแนบ) ที่รวบรวมมาจากผู้สังเกตการณ์กว่า 60 คนที่ลงพื้นที่ทั่วประเทศไทย ในการแก้ไขปรับปรุงการจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไป อันเฟรลจะดำเนินการสังเกตการณ์กระบวนการเลือกตั้งครั้งนี้ไปจนสิ้นสุด ซึ่งรวมถึงการรายงานผลคะแนนอย่างเป็นทางการ ปฏิกิริยาจากฝ่ายต่างๆ และการจัดการเรื่องร้องเรียนต่างๆ ด้วย อันเฟรลจะรวบรวมรายงานทั้งหมดเป็นรายงานในขั้นตอนสุดท้ายต่อไป นายดามาโซกล่าวสรุปว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ดำเนินไปอย่างสงบเรียบร้อย ถึงแม้จะมีความผิดพลาดในด้านการบริหารจัดการบ้างก็ตาม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net