ยันผ่าศพมุสลิมทำได้ กรรมการสิทธิทำคู่มือแจก

กรรมการสิทธิฯรุดทำคู่มือผ่าศพมุสลิมแจก นักวิชาการยกคำวินิจฉัยยันผ่าศพมุสลิมทำได้ถ้าจำเป็น ชี้ตัวอย่างในมาเลเซีย หากจะใช้ในไทยต้องออกกฎหมายชารีอะห์ ทีมหมอ ม.อ.เสนอตั้งศูนย์นิติเวชที่ยะลา นายโสพล จริงจิตร ผู้อำนวยการสำนักคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) เปิดเผยว่า เร็วๆนี้ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ร่วมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) จัดสัมมนาหัวข้อแนวทางการตรวจชันสูตรศพตามกระบวนการทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ตามหลักศาสนาอิสลาม เพื่อระดมความคิดเห็นเรื่องนี้ ซึ่งที่ประชุมมีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ซึ่งที่ประชุมมีข้อสรุปว่า ตามหลักศาสนาอิสลามสามารถผ่าชันสูตรศพได้ แต่ขึ้นอยู่กับการอนุญาตของญาติผู้เสียชีวิต นายโสพล จริงจิตร เปิดเผยอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีการจัดทำคู่มือที่ชื่อว่าเอกสาร การชันสูตรพลิกผ่าศพในอิสลาม จัดพิมพ์ทั้งฉบับภาษาไทยและภาษามลายู อักษรยาวีสำนวนปัตตานี นายอับดุรรอฮมาน บินแวยูโซะ อาจารย์ประจำภาควิชาชารีอะห์ มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา เปิดเผยว่า ประเทศมาเลเซียอนุญาตให้มีการชันสูตรผ่าศพได้ ในกรณีที่มีการตายผิดธรรมชาติ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะมาเลเซียเป็นรัฐอิสลาม มีการตั้งศาลชารีอะห์ ซึ่งเป็นศาลที่ว่าด้วยกฎหมายอิสลาม สามารถบังคับใช้กับมุสลิมได้อย่างครอบคลุมทุกมิติของชีวิต “หากจะนำกระบวนการชันสูตรผ่าศพมาใช้ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องเตรียมความพร้อมในหลายๆด้าน โดยเฉพาะการมีกฎหมายชารีอะห์ มีแพทย์นิติเวชมุสลิมที่ทำการชันสูตรผ่าศพมุสลิมและมีความรู้เรื่องกฎหมายชารีอะห์ มีคำวินิจฉัยจากผู้นำศาสนาอิสลามว่า สามารถกระทำได้ในกรณีที่ตายผิดปกติ” นายอับดุลรอมาน กล่าว นายอับดุลรอมาน เปิดเผยว่า ตนทำวิทยานิพนธ์ เรื่องชันสูตรพลิกศพตามบทบัญญัติอิสลามเมื่อปีการศึกษา 2549 เสนอต่อมหาวิทยาลัยอิสลามยะลา ผลของการวิจัยพบว่า การศึกษาวิจัยการชันสูตรพลิกศพตามบทบัญญัติของอิสลาม ยังเป็นประเด็นปัญหาที่นักวิชาการและนักกฎหมายอิสลามในปัจจุบันมีความเห็นที่แตกต่างกัน สาเหตุมาจากไม่มีตัวบทกฎหมายที่ชี้ชัดถึงการห้ามหรือการอนุโลมในการชันสูตรพลิกศพทั้งในคำภีร์อัลกรุอาน สุนนะฮ์(วัจนะ การปฏิบัติและการยอมรับ) ของท่านศาสนทูตมุหัมมัดและตำราศาสนาของปราชญ์อิสลามในยุคแรก นายอับดุลรอมาน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม จะพบทัศนะของบรรดานักปราชญ์ ด้านนิติศาสตร์อิสลามเกี่ยวกับกรณีการผ่าศพหญิงมีครรภ์ที่เสียชีวิต เพื่อเอาทารกที่อยู่ในครรภ์ออกมาหากมั่นใจว่าทารกยังมีชีวิตอยู่ และกรณีการผ่าท้องศพที่ได้กลืนทรัพย์สินมีค่าลงในท้องก่อนตาย เพื่อนำออกมา ซึ่งทั้งสองกรณีเป็นตัวอย่างที่ใกล้เคียงกับประเด็นการผ่าเพื่อการชันสูตร นายอับดุลรอมาน กล่าวว่า ทั้งสองกรณีเป็นการกระทำที่รุนแรงและละเมิดเกียรติศพ เช่น การผ่าชันสูตรศพในขณะที่อิสลามให้ความสำคัญต่อการให้เกียรติศพ และการทำร้ายศพประหนึ่งทำร้ายเขาขณะยังมีชีวิต แต่ด้วยเหตุผลของความจำเป็นและผลประโยชน์ที่สำคัญกว่า ทำให้การกระทำดังกล่าว เป็นประเด็นสำคัญที่นักวิชาการมุสลิมหลายท่าน ได้นำมาเป็นข้อพิพาทในการพิพากษาอนุโลมหรือไม่ในอิสลาม เช่น การชันสูตรพลิกศพมุสลิม นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากการศึกษาดูงานเรื่องระบบงานการชันสูตรผ่าศพที่ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 25 - 30 มกราคม 2554 ในนามกลุ่มแพทย์นิติเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิยาลัยสงขลานครินทร์(ม.อ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ พบว่า ประชาชนชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ที่เป็นมุสลิม เชื่อมั่นต่อวิชาชีพแพทย์และกระบวนการชันสูตรผ่าศพ เพราะแพทย์นิติเวชส่วนใหญ่เป็นมุสลิม และได้รับมอบหมายจากศาลซารีอะห์เป็นการเฉพาะให้มีการชันสูตรผ่าศพชาวมุสลิม เพื่อหาข้อเท็จจริงทางคดี ในกรณีที่มีการตายผิดธรรมชาติ และกรณีที่ตำรวจขอร้องให้ชันสูตรผ่าศพ เพื่อนำหลักฐานเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นายแพทย์สุภัทร เปิดเผยต่อไปว่า จากการศึกษาดูงานครั้งนี้ มีข้อเสนอแนะว่า 1.ต้องมีการทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับทุกในเรื่องการชันสูตรผ่าศพชาวมุสลิม ทั้งในระดับชุมชนและผู้รู้ทางศาสนา โดยนำประสบการณ์และบทเรียนจากประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนเหนือและรัฐปีนังของมาเลเซีย ซึ่งมีบริบททางสังคมที่คล้ายกับวิถีชีวิตวัฒนธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายแพทย์สุภัทร เปิดเผยอีกว่า ส่วนข้อที่ 2. คือ มีข้อเสนอให้กระทรวงสาธารณะสุข จัดตั้งศูนย์นิติเวชที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลาภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยต้องมีแพทย์นิติเวช 2 คน และมีหนึ่งคนเป็นมุสลิม โดยมีการเสนอผ่านผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณะสุขไปแล้ว ขณะนี้ยังไม่เห็นมีการสั่งการใดๆ นายแพทย์สุภัทร เปิดเผยว่า ปัจจุบันการชันสูตรผ่าศพในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะต้องส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเท่านั้น ส่วนการชันสูตรพลิกศพทั่วไปทำได้ทุกโรงพยาบาล “ช่วงแรกประชาชนมาเลเซียไม่เชื่อมั่นต่อการชันสูตรผ่าศพ รัฐบาลจึงต้องใช้เวลา 20 - 30 ปีในการทำความเข้าใจต่อประเด็นดังกล่าว โดยนำคำฟัตวา (คำวินิจฉัยทางศาสนาอิสลาม)ระดับนานาชาติ มาอธิบายให้ประชาชนทราบ” นายแพทย์สุภัทร กล่าว นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการโครงการเข้าถึงความยุติธรรมและคุ้มครองทางกฎหมาย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่า มีกระดูกของผู้ตายจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้มีการชันสูตร ทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมได้ หากมีการชันสูตรผ่าศพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจเป็นส่วนหนึ่งในการที่ติดตามผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และสามารถที่เยียวยาแก่ญาติพีน้องของผู้ที่เสียชีวิตได้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท