Skip to main content
sharethis

เหตุการณ์สะเทือนขวัญในประเทศอย่างนอร์เวย์ กลายเป็นตราประทับของความโหดร้ายอีกกรณีหนึ่งที่มนุษย์กระทำต่อกัน ทั้งเหตุระเบิดสถานที่ราชการและการกระหน่ำยิงเยาวชนในค่ายของพรรคแรงงาน สิ่งที่ตามมาหลังเหตุร้ายคือการเสาะหาบางสิ่งบางอย่างเพื่อที่จะประณาม และสิ่งที่สื่ออเมริกันจะยกมาประณามนั้นก็ไม่พ้นต้องเป็นกลุ่มก่อการร้ายชาวมุสลิมหรืออะไรที่ใกล้เคียงกัน และพวกเขาคงช็อคมากเมื่อพบว่าผู้ก่อเหตุที่ยอมรับสารภาพ จริงๆ แล้วเป็นฝ่ายขวาที่เกลียดชังนโยบายพหุวัฒนธรรมเสียอีก รายงานชิ้นนี้ไม่ได้ต้องการเจาะจงว่าแนวคิดการเมืองหรือศาสนาใดที่ทำให้เกิดความรุนแรง แนวคิดทางการเมืองและศาสนาเพียงอย่างเดียวไม่เคยทำให้ความรุนแรงหากมีความอดกลั้นและยอมรับความต่าง เพียงแต่รายงานชิ้นนี้ต้องการสะท้อนให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งจากการเมืองฝั่งตะวันตก และการใช้สื่อในการปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังผู้มีความคิดทางการเมืองตรงกันข้ามหรือมีความเชื่อต่างกัน อาการตื่นกลัวเกินเหตุของสื่อโลกตะวันตก ทันทีที่เกิดเหตุ ทอม ลิสเตอร์ จากสำนักข่าว CNN ผู้ท่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ก่อการอุกฉกรรจ์เช่นนี้ เขาก็เริ่มกล่าวหาโดยโยงถึงกลุ่มมุสลิมเสียแล้ว \มันอาจจะเป็นฝีมือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งกว้างๆ แต่ประเด็นคือ อัล-เคด้า ในตอนนี้ไม่ได้มีความเป็นองค์กรสักเท่าใดแล้ว มันน่าจะเป็นจิตวิญญาณของคนกลุ่มนี้มากกว่า ที่เป็นปัจจัยในการขับเคลื่อน\" ลิสเตอร์ถึงขั้นสัญนิษฐานถึงแรงจูงใจของพวกเขาอย่างมั่นใจ \"พวกคุณต้องลองดูที่เป้าหมายที่เป็นที่ทำการนายกรัฐมนตรี และสำนักงานของหนังสือพิมพ์ค่ายใหญ่ที่อยู่ติดกัน มันดูเกี่ยวโยงกันยังไงน่ะหรือ ก็เพราะหนังสือพิมพ์ของนอร์เวย์ได้ตีพิมพ์การ์ตูนล้อพระศาสดามูฮัมหมัดที่ถือเป็นการลบหลู่สำหรับโลกมุสลิม... นี่คือประเด็นที่สร้างความคับแค้นให้กับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงทั่วโลก\" ขณะที่ พอล ครุกแชง นักวิเคราะห์ด้านการก่อการร้ายของ CNN ก็กล่าวออกอากาศในวันเดียวกันว่า \"นอร์เวย์ตกเป็นเป้าหมายของ อัล-เคด้า มาระยะหนึ่งแล้ว\" เขาบอกด้วยว่าเหตุระเบิดนี้ \"เป็นตราประทับขององค์กรก่อการร้าย อัล-เคด้า ในตอนนี้\" ถึงค่อยพูดเสริมว่า \"พวกเราไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ\" ในรายการโอ รีลลี่ส์ แฟกเตอร์ ของช่อง Fox News Channel ผู้ร่วมรายการที่ชื่อ ลอร่า อินกราแฮม ประกาศว่า \"การก่อการร้ายในนอร์เวย์ น่าจะเป็นผลงานของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงอีกแล้ว\" แม้กระทั่งหลังจากที่บรีวิค คนร้ายตัวจริงถูกทางการจับกุมตัวแล้ว จอห์น โบลตัน อดีตเอกอัครราชฑูตประจำสหประชาชาติในสมัยรัฐบาลบุชก็ยังไม่เชื่อ เขาบอกว่าพฤติกรรมเช่นนี้ดูไม่น่าจะเป็นฝีมือชาวนอร์เวย์ น่าจะเป็นภัยทางการเมืองในระดับวงกว้างมากกว่าฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายขวา โดยก่อนหน้านี้โบลตันกล่าวว่ามันน่าจะเป็นการก่อการร้ายของชาวมุสลิมเนื่องจากมีกลุ่มผู้อพยพจากตะวันออกกลางเข้ามาในนอร์เวย์อยู่จำนวนหนึ่ง บทบรรณาธิการของ วอล สตรีท เจอร์นัล ถึงขั้นบอกว่าเหตุที่เกิดขึ้นนี้ เป็นราคาที่ชาวนอร์เวย์ต้องจ่ายให้กับการที่นอร์เวย์ธำรงไว้ซึ่งความอดกลั้นและเสรีภาพ และแม้กระทั่งว่าคนร้ายตัวจริงถูกจับกุมตัวแล้ว บทบรรณาธิการของ วอล สตรีท เจอร์นัล ก็ยังคงแสดงความอคติอย่างไม่ลดรา โดยระบุว่า คนร้ายได้แรงบันดาลใจมาจาก อัล-เคด้า \"การก่อการร้ายโดยเจาะจงเป็นลายเซนต์ของพวก อัล-เคด้า แต่พวกลอกเลียนที่มีเป้าหมายต่างกันก็อาศัยวิธีการแบบเดียวกัน\" \"ทีโมธี แมคเวจ และ แอนเดอร์ บรีวิค ใช้ระเบิดและกระบอกปืน ส่วนพวกคลั่งลัทธิใช้โวหารและนโยบาย\" ไม่ใช่เรื่องใหม่กับนิสัย 'ด่วนสรุป' โดยเฉพาะเรื่องการประณามว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุตัวจริง เรื่องนี้มีมาตั้งแต่เหตุระเบิดในโอคลาโฮมาเมื่อปี 1995 มาแล้ว มีนักวิจารณ์หลายท่านออกมาให้ความเห็นว่าต้องเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายในตะวันออกกลางเป็นแน่ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งเหตุในนอร์เวย์ปี 2011 และในโอคลาโฮมาปี 1995 ล้วนเป็นฝีมือของกลุ่มฝ่ายขวาหัวรุนแรงโดยทั้งสิ้น ในปี 1995 เหตุระเบิดในโอคลาโฮมาเป็นฝีมือของ ทีโมธี แมคเวจ ทหารผ่านศึกเหรียญตราทองแดงจากสงครามอ่าว ขณะที่ในปี 2011 เป็นผลงานของแอนเดอร์ เบอห์ริง บรีวิค ผู้ชิงชังอิสลาม มาร์กซิสม์ และแนวทางพหุวัฒนธรรม ทั้งสองต่างเชื่อว่ารัฐบาลในสมัยของตนกำลังทำลายสิ่งที่พวกตนเชื่อถือ ปิแอร์ ทริสแทรม บรรณาธิการเว็บข่าว FlagierLive.com เขียนแสดงความเห็นว่าผู้ก่อการทั้งสองรายนี้ต่างก็เป็นผู้มีความคิดเอียงขวาและเป็นคนที่เชื่อว่าเชื้อชาติของคนผิวขาวเหนือกว่าเชื้อชาติอื่น และในขณะที่สื่อของอเมริกันต่างออกความเห็นอย่างเข้าใจผิดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มอิสลาม พวกสื่อเหล่านี้เองก็เผยให้เห็นความคลั่งลัทธิของตนเองอยู่ ส่วนเหล่านักการเมืองและนักวิจารณ์เคร่งลัทธิเหล่านี้เองก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่พวกเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดปีศาจในตัวชายสองคนนี้แท้ๆ \"ทั้งแมคเวจและบรีวิคต่างก็เป็นผู้ที่ย้ำเตือนถึงบาปกำเนิดของวัฒนธรรมตะวันตก คือการเชื่อว่าเชื้อชาติของตนเหนือกว่า ซึ่งบาปนี้ยังคงอยู่และติดตัวคนจำนวนมากจนเป็นชนวนให้เกิดสิ่งต่างๆ\" ทริสแทรมกล่าวอีกว่า นอร์เวย์ก็เช่นเดียวกับหลายประเทศในยุโรปและในสหรัฐฯ ที่อยู่ท่ามกลางการฟื้นคืนของผู้คลั่งไคล้ฝ่ายขวา ในรายงานของ เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ เสนอว่าพรรคการเมืองบางกลุ่มมีการพยายามเน้นย้ำความรู้สึกสูญเสียอัตลักษณ์ของชาติ โดยการพยายามนำการวิพากษ์วิจารณ์ชนกลุ่มน้อย ผู้อพยพ รวมถึงชาวมุสลิม ตามร้านเหล้าและในอินเตอร์เน็ตเข้ามาสู่นโยบายการเมืองกระแสหลัก ทำให้แม้ว่าพรรคการเมืองอาจจะไม่ได้ลงมือก่อความรุนแรงด้วยตนเอง แต่ก็ทำให้เกิดบรรยากาศของความเกลียดชังในข้อถกเถียงทางการเมือง นำพาให้เกิดความรุนแรงในระดับปัจเจกบุคคล \"สังคมที่เน้นการอยู่ร่วมกัน ความอดกลั้น การเปิดใจกว้าง และแน่นอนว่าแนวคิดพหุวัฒนธรรม ทั้งหมดนี้กำลังถูกล้อมปราบโดยแนวคิดเคร่งลัทธิซึ่งเกิดขึ้นในทุกๆ ส่วนของสังคม ทั้งในด้านวัฒนธรรม การเมือง เศรษฐกิจ ศาสนา\" ทริสแทรม กล่าวในบทความ \"ทีโมธี แมคเวจ และ แอนเดอร์ บรีวิค ใช้ระเบิดและกระบอกปืน ส่วนพวกคลั่งลัทธิใช้โวหารและนโยบาย\" ระวังการมองแบบขาวกับดำ เหล่าประเทศในสหภาพยุโรปเปิดรับเหล่าผู้อพยพจากภายนอกและการเคลื่อนไหวอย่างอิสระของประชาชน ซึ่งตรงจุดนี้ก็ค่อยๆ ก่อความไม่พอใจให้กับกลุ่มชาตินิยม นโยบายการอพยพอย่างเสรีในกลุ่มประเทศยุโรปทำให้ เกิดผู้อพยพเข้าประเทศจำนวนมาก ทั้งผู้ที่หนีจากภัยต่างๆ และผู้ที่เข้ามาเพื่อหาแหล่งทำมาหากิน และจำนวนมากเป็นชาวมุสลิม ทำให้เหล่าพรรคการเมืองฝ่ายขวาหยิบยกประเด็นนี้มาเพื่อพยายามเรียกร้องความสนใจ อย่างไรก็ตามบทความของ ฮวน โคล อาจารย์สอนด้านประวัติศาสตร์ตะวันออกกลางและเอเชียใต้จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ก็ย้ำเตือนว่าอย่าได้มองอะไรเป็นขาวกับดำ โคลเขียนระบุในบทความเรื่องมุมมองการอพยพว่า การอพยพนั้นไม่ใช่กระบวนการที่ราบลื่นและจากประวัติศาสตร์ในสหรัฐฯ กลุ่มสังคมผู้อพยพไม่เคยอยู่ในข่ายที่ 'เหนือกว่า' แต่บรีวิค ผู้ก่อเหตุในออสโลกลับมองว่า ผู้อพยพเป็นภัยต่ออัตลักษณ์ของยุโรป เขากลัวว่ายุโรปจะกลายเป็นเพียงอิหร่านขนาดใหญ่หากชาวตะวันออกกลางอพยพเข้ามาเรื่อยๆ โคลบอกว่าการแบ่งแยกว่าชาวคริสต์คือยุโรปนั่นฟังดูเขลา เนื่องจากอิสลามเป็นศาสนาที่มีอยู่ในยุโรปมากว่า 1

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net