Skip to main content
sharethis

28 ก.ค. 54 - สภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ฉบับที่ ๒/๒๕๕๔ เรื่อง“การปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน” สนับสนุนพรรคเพื่อไทยทำนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ให้เป็นจริง โดยมีรายละเอียดของแถลงการณ์ดังนี้ แถลงการณ์ฉบับที่ ๒/๒๕๕๔ เรื่อง“การปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน” ต้องยอมรับความจริงว่าในสังคมไทยนั้นมีความเหลื่อมล้ำในด้านรายได้ของบุคคลทุกสถานประกอบการของภาคเอกชนผู้ที่มีตำแหน่งทั้งหลายรายได้จะสูงผู้จัดการบางคนรายได้หลักล้านต่อเดือนก็มีแต่ผู้ใช้แรงงานจำนวนมากรายได้เพียงขั้นต่ำที่คณะกรรมการไตรภาคีได้กำหนดขึ้นมาเท่านั้นนายจ้างบางคนออกมาพูดว่าค่าจ้างบ้านเราสูงกว่า พม่า,ลาว,เขมรและเวียดนาม สภาฯไม่ขอเถียง หากค่าจ้างประเทศเหล่านี้สูงกว่าบ้านเรา เราคงไม่มีคนงานต่างด้าวมากมายขนาดนี้ ต้องตั้งคำถามว่าทำไมประเทศที่ค่าแรงสูง จึงมีความเจริญขึ้นมีการพัฒนาดีขึ้นผู้คนต้องการที่จะไปอยู่ บางครั้งต้องยอมขายนาขายวัว ขายควายเพื่อหาเงินไปทำงานต่างประเทศที่มีค่าจ้างสูงๆ แล้วทำไมบ้านเราจึงขาดแคลนแรงงาน เพราะนายจ้างชอบจ้างค่าแรงต่ำๆและไม่มีสวัสดิการที่ดีให้กับคนงาน เอาเปรียบแรงงานทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ผลประโยชน์เข้าตนเองมากที่สุด ชอบอ้างว่าคนจะไม่เข้ามาลงทุนอาจจะหนีไปที่เวียดนาม พม่า ลาวและเขมร สภาฯอยากให้นายทุนบ้านเรารีบไปลงทุนที่ประเทศเหล่านี้ให้มากๆแล้วแรงงานต่างด้าวเหล่านี้จะได้ไม่หนีมาอยู่บ้านเรา ข่าวต่างๆที่เกิดจากแรงงานต่างด้าวที่กระทำกับคนไทยจะได้ไม่มี นายทุนที่ชอบใช้แรงงานราคาถูกมักมีข้ออ้างจำนวนมาก บางโรงงานตั้งมา30ปี บอกลูกจ้างว่าขาดทุนมาตลอดไม่ยอมขึ้นค่าแรงให้กับลูกจ้างเลยอย่างนี้ก็มีด้วยในประเทศไทยหากเรายังมีนายทุนประเภทนี้มากเท่าไร เราจะพัฒนาประเทศไทยไปได้อย่างไร? เพราะผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศที่ทำงาน ยังมีรายได้ไม่เพียงพอที่จะใช้จ่าย การขึ้นค่าจ้างวันละ 300 บาทเมื่อเปรียบเทียบกับรายจ่ายของผู้ใช้แรงงานแล้วจะเห็นว่าไม่เพียงพอด้วยซ้ำ การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในช่วง ๑๐ ที่ผ่านมา (ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๔๕-๑ มกราคม ๒๕๕๔) ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๕.๗ ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อสะสมในช่วง ๑๐ ปีดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ ๒๘.๑ ทำให้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศปรับน้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อร้อยละ ๒.๔ ส่งผลให้ในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมาผู้ใช้แรงงานได้รับความเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น การปรับอัตราค่าจ้างเป็นวันละ ๓๐๐ บาทหรือเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำร้อยละ ๔๐ เป็นการยกระดับมาตรฐานการประกันรายได้ขั้นต่ำเพื่อสร้างความเป็นธรรมและลดช่องว่างของการกระจายรายได้ให้กับลูกจ้างในระบบประกันสังคมจำนวนประมาณ ๙ ล้านคน ตามที่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้ตราอนุสัญญาฉบับที่๑๓๑ว่าด้วยการกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำโดยประเทศสมาชิกที่ให้สัตยาบันอนุสัญญาฉบับนี้จะต้องกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำมาใช้สำหรับผู้ประกอบการอาชีพที่มีรายได้กลุ่มต่างๆ ตามที่เห็นสมควรโดยคำนึงถึงความจำเป็นขั้นพื้นฐานของลูกจ้างและครอบครัว (รวม ๓ คน) ความสามารถในการจ่ายของนายจ้างมาตรฐานความเป็นอยู่ในส่วนอื่นของระบบเศรษฐกิจและระดับการพัฒนาเศรษฐกิจฯลฯ ได้มีนักวิชาการด้านแรงงานหลายท่านที่ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับค่าจ้างเช่น รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ ประธานมูลนิธิ อารมณ์ พงศ์พงัน รศ.ดร.แล ดิลกวิทยรัตน์คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจคณะบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตได้กล่าวถึงค่าจ้างในปัจจุบัน ว่าไม่สะท้อนความเป็นจริงที่ผู้ใช้แรงงานควรได้รับ รวมทั้งคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยได้ลงพื้นที่สำรวจค่าจ้างที่ลูกจ้างจะดำรงชีพอยู่ได้นั้นจะต้องจำนวน ๔๔๑ บาทต่อวันและได้เรียกร้องไปแล้วด้วย ตามนโยบายพรรคเพื่อไทย สภาฯเห็นว่าสามารถทำได้ หากผู้ประกอบการไม่ต้องการให้ประเทศไทยขายแรงงานราคาถูกอีกต่อไปแต่ต้องการจะแข่งขันฝีมือแรงงานกับกลุ่มประเทศต่างๆ ในภูมิภาคนี้ความคาดหวังที่ผู้ประกอบการจะแสวงหาแรงงานราคาถูกในประเทศไทยเพื่อสร้างผลกำไรสูงสุดควรจะต้องหมดไปจากประเทศไทยผู้ประกอบการจะได้รับความยุติธรรมจากการร่วมมือของลูกจ้างเพื่อสร้างผลผลิตที่ดีมีคุณภาพให้กับองค์กร หากดูสภาวะการว่างงานของแรงงานไทยน้อยมาก ปัจจุบัน ณ เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔ อยู่ที่ ๐.๘ ประมาณ ๒.๘ แสนคนโดยในช่วง๒ปีที่ผ่านมาอัตราการว่างงานเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ ๑.๓ การปรับค่าจ้างขั้นต่ำจะช่วยสนับสนุนการปรับโครงสร้างระบบประกันสังคมให้ตรงกับความเป็นจริงเพื่อรองรับการเกษียณอายุซึ่งเดิมจะได้รับบำนาญเพียง ๑,๔๐๐-๓,๐๐๐ บาทปรับเป็น ๒,๐๐๐-๕,๐๐๐ บาทโดยประมาณ ตามปกติการลงทุนเพื่อการผลิตสินค้าและบริการทั่วไปสัดส่วนค่าจ้างแรงงานจะคิดเป็นจำนวนเงินประมาณ ๕-๖% ของงบประมาณการลงทุนทั้งหมดถือว่าน้อยมาก การสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ลงทุนSMEที่ใช้แรงงานเข้มข้นที่มีต้นทุนมากถึง๑๕% สภาฯเห็นว่ารัฐคงต้องหารือที่จะมีมาตรการเสริมพิเศษเพื่อให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้ ตารางเปรียบเทียบอัตราค่าจ้างขั้นต่ำกับอัตราเงินเฟ้อทั้งประเทศ 10 ปีย้อนหลัง (ตั้งแต่ปี 2545 - 2554) ปี อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ อัตราการเปลี่ยนแปลง อัตราเงินเฟ้อ (ร้อยละ) เฉลี่ยทั้งประเทศ (บาท) ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ร้อยละ) 2545 137.0 0.2 0.7 2546 138.3 0.9 1.8 2547 139.7 1.0 2.7 2548 148.1 6.0 4.5 2549 149.4 0.9 4.7 2550 154.0 3.1 2.3 2551 162.1 5.3 5.5 2552 162.1 0.0 -0.9 2553 165.3 2.0 3.3 2554(พ.ค.) 175.8 6.4 3.5 รวม (2545 - 2554) 25.7 28.1 เฉลี่ยต่อปี 2.57 2.81 เพราะฉะนั้นการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ๓๐๐ บาท ไม่ใช่เป็นสิ่งเฟ้อฝัน สามารถทำได้หากเราทุกคนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแรงงานให้มีฝีมือไม่ต้องการแรงงานราคาถูกที่นายจ้างหวังแต่ผลกำไรสภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทยต้องการเห็นการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมเพื่อลดความเหลี่ยมล้ำของคนในสังคมต่อไป โดยสภาองค์การลูกจ้างสภาศูนย์กลางแรงงานแห่งประเทศไทย วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๔

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net