Skip to main content
sharethis

ท่ามกลางสายฝนที่พร่างพรูลงมาเกือบทั้งวันในประเทศกรุงเทพ หลิ่มหลีมีนัดกับพี่พี่วงการกระลิ้มกระเหลี่ยหนุ่มเกาหลี ชวนกันไปดูหนังรอบสื่อมวลชน เรื่อง Come Rain Come Shine ที่ โรงหนัง สกาล่า สยามสแควร์ การจราจรที่ติดหนักไม่สามารถหยุดยั้งการเดินทางโดยมอเตอร์ไซด์รับจ้างและรถไฟฟ้าบีทีเอส (ที่ได้ยินข่าวลึกลับว่า กำลังเปลี่ยนระบบการควบคุมรถไฟจากของชาติฝรั่งอั่งม๊อ ไปเป็นของชาติหนุ่มซินตึ้ง.. ประเทศที่เพิ่งเกิดเรื่องรถไฟความเร็วสูงมีอุบัติเหตุจนต้องระงับการขยายทั้งระบบ แฮ่ อันนี้ไปถาม กทม กันเอาเอง ทำอะไรกันเงียบเชียว หือ หือออ) หลิ่มหลีก้าวย่างเข้าสู่โรงหนังสุดคลาสสิกใจกลางเมือง กับทางเดินที่โดดเด่นและบันไดหรูที่ต้องร้องเพลงออกมาว่า “นี่คือสถานแห่งบ้านทรายทองที่ฉันปองมาสู่” เป็นโรงหนังที่เหลืออยู่ไม่กี่โรงที่คงอยู่เคียงข้างอายุที่เพิ่มขึ้นของหลิ่มหลีมานาน สไตล์การตกแต่งที่สวย เท่ มีป๊อบคอร์นราคาแค่ 30 บาท เบียร์สปอนเซอร์อร่อยของญี่ปุ่นที่มาเป็นสปอนเซอร์ให้หนังเกาหลี แหม๋ คันปาก แต่ไม่คันหู ... ขอพูดถึงโรงหนังโรงนี้อีกนิด โรงหนังสกาล่าที่แสนหรู และยังคงความหรู ที่กลายเป็นโรงหนังทางเลือกที่หาได้ยาก จริงๆแล้วหลิ่มหลีอาจจะชอบโรงหนังที่อยู่ตามห้างมากกว่านะคะ เพราะว่าระหว่างรอดูหนัง เราได้ช๊อปปิ้ง ดูของจากร้านเก๋ๆ (แต่ไม่ซื้อ) หรือหาของกินจากร้านเท่ๆ แต่แพงชิบเป๋งเลย แต่การที่เราจะซื้อของจากข้างนอกเข้ามาแล้วมาโดนตรวจค้นอาหารแล้วโดนยึดไว้ หรือโดนบังคับให้ฝากไว้ มันเหมือนโดนตัดสิทธิการดำรงชีวิตบางอย่างไป แล้วค่าน้ำค่าป๊อบคอร์นในโรงหนังหลัก มันก็แพงเกือบจะสองเท่าของข้างนอก บวกกับค่าบัตรที่แพงมาก และโฆษณาที่เยอะมากๆ ทุกอย่างมัน commercial หนักเข้าไปทุกที ก็รู้นะว่าทำเพื่ออยู่รอด เพราะมันคือธุรกิจ แต่...มันทำให้หลิ่มหลีห่างเหินจากโรงหนังหลักๆได้ง่ายๆเหมือนกัน แล้วหลิ่มหลีสบายใจขึ้นทันทีที่มาโรงสกาล่าหรือได้ไปดูหนังที่ลิโด้ เอ่อ... บอกเหตุผลไม่ได้ มันเหมือนกับ การต่อต้านจากส่วนลึกของจิตใจมันกระแทกออกมา หลิ่มหลีไม่อยากคุยเรื่องกระแสการต่อต้านวัฒนธรรมเคป๊อบของชาวอาทิตย์อุทัยและของชาวน้ำทิพย์อุทัย รบกวนให้น้องรุ้งรวีจัดหนักแทน ฮ่าๆๆๆๆ หลิ่มหลีชอบอยู่กับโลกสวย ไร้สมอง อย่าให้หลิ่มหลีต้องคิดมาก หลิ่มหลีชอบคิดน้อยๆ เด๋วหยักสมองทำงานหนัก จะแก่เร็ว สลิ่มที่ดีต้องมีผู้นำที่คิดแทน เลือกหนังให้เราดู เลือกเพลงให้เราฟัง เลือกรายการให้เราสนุก ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ เราจะไปโลกสวยกับซีรีย์เกาหลี บอยแบนด์เกาหลี แล้วก็ไปเที่ยวตามรอยซีรีย์เกาหลี โดยที่เราจะไม่เห็นหมีด้วย Come Rain Come Shine เป็นหนังเกาหลีที่พระเอกคนดังมาแรงได้เล่นเป็นเรื่องสุดท้ายก่อนที่เขาจะเข้าไปรับใช้ชาติในการฝึกทหารเป็นเวลาอย่างน้อยสองปี Hyun Bin พระเอกที่เล่นเรื่อง My Name is Kim Sam Sun เรื่อง Snow Queen และเรื่องที่เป็นซีรีย์ที่ไม่ดู ไม่ได้ ไม่ดูแล้วถือว่า พลาดซีรีย์อย่างร้ายกาจ คือเรื่อง The Secret Garden Hyun Bin พระเอกสุดโปรดของหลิ่มหลีเล่นหนังใหญ่ทั้งที ไม่ดูได้อย่างไรกัน อีกอย่างได้บัตรฟรีมาด้วย แถมเป็นบัตรฟรีที่ดูโก้ๆ หรูๆ ในโรงหนังเก๋ๆ ท่ามกลางคนเท่ๆในเมืองกรุง สลิ่มสมองกลวงอย่างหลิ่มหลี ได้แค่นี้ก็สุดเกินฝันแล้ว หุหุ ส่วนนางเอก Lim Soo Jung ปกติหลิ่มหลีไม่ชอบพูดถึงนางเอก ผ่านเลยได้ไหมคะ??? อ่ะน่า บอกผลงานสักนิดเผื่อใครจะติดตาม เธอเคยเล่นเรื่อง Sorry, I love You มาแล้วน้า แล้วก็หนังใหญ่เช่น Finding Mr. Destiny Woochi และ Phuket หลิ่มหลีไม่ค่อยถนัดคุยถึงนักแสดงหญิง ฮ่าๆๆๆ ขออภัย ตอนแรกหลิ่มหลีคิดว่าหนังเรื่องนี้เศร้าแน่นอน เพราะเห็นพรีวิวแล้วดูจะเศร้า กรี๊ดด พระเอกดูเหมือนจะเป็นคนเศร้า ไอ่เราหรือก็หวังจะได้เป็นคนดามหัวใจ หุหุ มีคำพูดที่กินใจ ที่ทำให้หลิ่มหลีอยากไปดูหนังเรื่องนี้ “เราจะเปลี่ยนใจที่เปลี่ยนไปแล้วได้ยังไงกัน” โอ้ย กรี๊ด ... ซึ้ง อยากดู กระเสือกกระสน กะว่า ถึงแม้จะไม่ได้บัตรฟรี หลิ่มหลีก็จะรี่ตรงไปแหวกกระแสที่อัดแน่ไปด้วยหนังเรื่องตำนานรักเลอขิ่นกับไอ่ทิ้ง เอ้ย ไม่ใช่ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ฉายอยู่เกือบทุกโรงในประเทศไทยจนเหมือนจะบังคับดู แทบจะไม่เหลือที่ไว้ให้หนังเรื่องอื่นที่คนอยากดูจริงๆเลย หนังเรื่องนี้เป็นฉากที่เล่นอยู่ในช่วงเวลาบ่ายของวันเพียงหนึ่งวัน ในบ้านของพระเอก ช่วงเวลาเพียงแค่นั้นกับความอึดอัดคับข้องใจ การใช้สัญลักษณ์แทนตัวเอกของเรื่อง บ้านที่นางเอกไม่ใส่ใจจะจำความบกพร่อง แมวที่หลงเข้ามาในสถานที่อันแปลกแยก ได้แต่หลบซ่อนอยู่ไม่ให้ใครเห็น แต่แล้วความเย้ายวนของอาหารก็หลอกล่อให้นางเอกออกไป เอ้ย ไม่ใช่ แมวออกมากิน ... คำเคยชินของพระเอกหรือที่กลายเป็นคำปลอบใจตัวเองของนางเอกที่ว่า “คงจะไม่เป็นไร” กับหนทางที่เลือกใหม่เพื่อเติมเต็มบางสิ่งให้กับชีวิต บางสิ่งที่ถึงแม้จะเป็นเพียงอาหารสำหรับแมว แต่มันอาจจะคือความอยากในบางสิ่งในชีวิต มันก็อาจจะเป็นสิ่งที่ต้องการมากกว่าอาหาร มากกว่าความเคยชินที่เธอต้องอยู่ร่วม พระเอกที่ได้ชื่อว่าสะสมของ การจะทิ้งอะไรสักอย่างเป็นเรื่องยาก มันคือการทิ้งชีวิต ทิ้งสิ่งรัก ทิ้งความคุ้นเคย กับนางเอกที่เห็นพระเอกดีไปหมดซะทุกอย่าง จน... บรรยากาศในเรื่องที่ผู้สร้าง Lee Yoon Ki จากเรื่อง My Dear Enemy ได้ทำให้เราได้อารมณ์ร่วมได้นาน อีดอัด คับข้อง เต็มไปด้วยความผูกพันแต่ก็เคยชินจนน่าเบื่อ ความแห้งแล้งในชีวิตคู่ที่ไม่คิดจะจดจำอะไรไว้ ฝนตกจากภายนอกโรงหนัง กับ ฝนตกในเรื่อง ได้ให้ความขะมุกขะมัวในหัวใจได้เป็นอย่างดี เรื่องราวที่ชวนให้คิดต่อ มันมีเหตุผลอะไรมากมายที่ทำให้คนเราเปลี่ยนใจไปเป็นอื่นได้นะ หลิ่มหลีเดินออกมาจากโรงหนังด้วยความคิดมากมาย เฝ้าถามตัวเองจนหลับ ว่า อะไรนะที่ทำให้คนเรา โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเรา เปลี่ยนใจไปจากผู้ชายที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานานไปเป็นของผู้ชายคนใหม่ เกินเลยจนได้ชื่อว่านอกใจได้ คำตอบสิ้นคิดของสาวไทย เพราะเธอ...ดีเกินไป ? _________________ หมายเหตุ หนังเรื่องนี้เข้าในวันที่ 18 สิงหาคม นี้ อาจจะหาดูได้ยากสักนิดนุงส์นะคะ เพราะมีหนังกำลังภายในของไทยฉายอยู่เต็มเกือบทุกโรง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net