Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมใดๆ ที่ตัดขาดจากรากฐานสังคมเดิมอย่างสิ้นเชิง แม้หลายครั้งพลังที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจะมาจากภายนอก แต่ผลของมันจะออกมาในรูปใดล้วนเกิดจากการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งที่เป็น “เนื้อดิน” เดิมของสังคมนั้นๆ แม้แต่การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 ที่เกิดพร้อมกับ “อวสานสมบูรณาญาสิทธิราชย์สยาม” เมื่อเกือบ 80 ปีก่อนก็เกิดขึ้นภายใต้ข้อจำกัดเช่นนี้ แต่สิ่งที่ทำให้สยาม/ไทยแตกต่างจากสังคมอื่น โดยเฉพาะเพื่อนบ้านนั้น อาจเป็นเพราะเราไม่เคยแตกหักกับระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ผ่านการปฏิวัติประชาชาติอย่างในประเทศที่ตกเป็นอาณานิคมโดยตรง “มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์ยังอยู่กับทุกอณูของปัจจุบัน” นี่คือข้อเสนอของธงชัย วินิจจะกูล ในปาฐกถา “มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปัจจุบัน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุมนุมปาฐกถา 70 ปี ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2554 ธงชัยเสนอว่า สมบูรณาญาสิทธิราชย์สยาม “ไม่ใช่เพียงแค่ระบอบการเมืองทางการที่จบไปแล้ว แต่หมายถึงยุคสมัยหรือช่วงขณะที่เป็นรากฐานของไทยสมัยใหม่ หมายถึงระบอบอำนาจ ภูมิปัญญา วัฒนธรรม และวาทกรรมสำคัญๆ ที่ก่อรูปเกิดขึ้นท่ามกลางการเคลื่อนตัวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ และกลายเป็นรากฐานของสังคมไทยสมัยใหม่ต่อมาอีกนาน ไม่ใช่แค่ช่วง 50 ปีนับจากปลายรัชกาลที่ 5 ถึงสิ้นรัชกาลที่ 7” ในมุมมองของธงชัย มรดกสำคัญที่สมบูรณาญาสิทธิราชย์สยามทิ้งไว้ ได้แก่ ระบบการปกครองแบบรวมศูนย์ ลัทธิรัฐเดี่ยวที่แข็งทื่อ ประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยม พุทธศาสนากับความเป็นไทย และสังคมอินทรียภาพที่มีอำนาจทรงธรรมเป็นหัวใจขององคาพยพทั้งหมด โดยมี (สถาบัน) พระมหากษัตริย์เป็นปัจจัยร่วมที่ยึดโยงรากฐานเหล่านี้ของรัฐไทยสมัยใหม่เข้าด้วยกัน ณ ปัจจุบัน มรดกของสมบูรณาญาสิทธิราชย์สยาม ยังปรากฏให้เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันตามสื่อต่างๆ เช่น “‘ป๋าเปรม’ รับไม่ได้ 3 จว.ใต้ ขอใช้ภาษามลายูในราชการ” (มติชนรายวัน, 25 มิถุนายน 2549) “ศรีสะเกษลุกฮือชุมนุมใหญ่ทวงคืน ‘เขาวิหาร’ 14 ก.ย. ลั่นไม่ยอมเสียแผ่นดินไทยแม้นิ้วเดียว” (ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 12 กันยายน 2552) “‘เสรี’ นำทีมประชาสันติปฏิญาณ ร.5 ดันพุทธศาสนาประจำชาติ” (ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 10 มิถุนายน 2554 ) “‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ นำปฏิญาณ ถวายคืนพระราชอำนาจแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานผู้นำปฏิรูปการเมือง” (ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 12 พฤศจิกายน 2548) แต่มรดกที่เป็นรากฐานของปัญหาเรื้อรังในสังคมการเมืองไทยปัจจุบันเหล่านี้ เกิดจากสมบูรณาญา-สิทธิราชย์สยามเพียงฝ่ายเดียวหรือ? หรือที่จริงแล้วเป็นมรดกที่อีกหลายฝ่ายร่วมกันสร้าง? เป็นมรดกของใครกันแน่? ฟ้าเดียวกัน จึงได้เชื้อเชิญผู้รู้อีก 5 ท่านมาร่วม “วิวาทะ” กับธงชัย ประกอบด้วย นิธิ เอียวศรีวงศ์ พระไพศาล วิสาโล อนุสรณ์ ลิ่มมณี ธเนศวร์ เจริญเมือง และกุลลดา เกษบุญชู-มี้ด ประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกันคือ ปัญหาของการเมืองไทยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางในปัจจุบันนั้น เป็น “มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์” หรือเป็น “ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งสร้าง” ในยุคหลัง และไม่มีความต่อเนื่องกับสถาบันกษัตริย์ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์? บทความ “พระบารมีปกเกล้าฯ ใต้เงาอินทรี : แผนสงครามจิตวิทยาอเมริกัน กับการสร้างสถาบันกษัตริย์ให้เป็น ‘สัญลักษณ์’ แห่งชาติ” ของณัฐพล ใจจริง ได้เปิดประเด็นให้เห็นว่า สถาบันกษัตริย์สมัยใหม่แบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั้น ถูก “สร้าง” ขึ้นโดยสหรัฐอเมริกาในยุคสงครามเย็น และมีลักษณะเป็น “ราชา (ไม่) ชาตินิยม” เพราะยินยอมพร้อมใจทำตามความต้องการของมหาอำนาจ เช่น ยอมให้สหรัฐฯ ใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพโจมตีประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่คำนึงถึงปัญหาเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติแต่อย่างใด ภายใต้สภาวะปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 “รัฐประหารเพื่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” ที่ทำให้การเมืองไทยแบ่งขั้วกันอย่างชัดเจน ดังจะเห็นได้จากผลการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554 ชนบทไทยอันห่างไกลที่เคยเป็นฐานสำคัญของอุดมการณ์กษัตริย์นิยม (ผ่านการเสด็จพระราชดำเนินชนบท ซึ่งเชื่อมโยงกับอุดมการณ์ต่อต้านคอมมิวนิสต์ในยุคสงครามเย็น) ก็ถูกเชื่อมโยงเข้าหากันด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่แตกต่างจากโฆษณาชวนเชื่อฉบับของทางการ ส่งผลให้เกิดอาการ “ตาสว่าง” กันเป็นจำนวนมาก สวนทางกับอุดมการณ์ “รักในหลวง” ของชนชั้นกลางในเมือง ดังที่แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนโดยเฉพาะในเครือข่ายทางสังคมออนไลน์ คำถามก็คือ มรดกที่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ได้ทิ้งไว้นั้น จะมีพลังหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นได้หรือไม่ สถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นปัจจัยยึดโยงมรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์จะ “ตาสว่าง” พอที่จะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้วในระดับรากหญ้า และยอมเปิดช่องทางให้กับการประนีประนอมหรือไม่ หรือยังจะใช้ไม้แข็งเร่งให้สถานการณ์ “สุก” เร็วโดยไม่จำเป็น? เราเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่ฝ่ายสถาบันกษัตริย์และผู้นิยมเจ้านั้นเล่า... สารบัญ บทบรรณาธิการ มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มรดกของใคร? หาเรื่องมาเล่า มลายูมุสลิม สถาบันกษัตริย์ไทยและอำนาจอธิปไตยในสภาวะยกเว้น ดาริน อินทร์เหมือน รัฐไทยกับความรุนแรงตั้งแต่ 2475-ปัจจุบัน :คำถาม กรอบคิด และปัญหา อัญชลี มณีโรจน์ คำขบวน Council Communism ลัทธิคอมมิวนิสต์สภาแรงงาน ภัควดี วีระภาสพงษ์ ทัศนะวิพากษ์ มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปัจจุบัน ธงชัย วินิจจะกูล มรดกของใคร? นิธิ เอียวศรีวงศ์ พุทธศาสนากับมรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระไพศาล วิสาโล สมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นเพียงปัญหาหนึ่ง อนุสรณ์ ลิ่มมณี เส้นทางสังคมไทย 156 ปี (พ.ศ. 2398-2554) ธเนศวร์ เจริญเมือง ทุนนิยมโลกกับวิวัฒนาการของรัฐไทย กุลลดา เกษบุญชู-มี้ด พระบารมีปกเกล้าฯ ใต้เงาอินทรี แผนสงครามจิตวิทยาอเมริกัน กับการสร้างสถาบันกษัตริย์ให้เป็น“สัญลักษณ์” แห่งชาติ ณัฐพล ใจจริง แผนยุทธศาสตร์ด้านจิตวิทยาของสหรัฐอเมริกาต่อชาวไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านจิตวิทยา อัญชลี มณีโรจน์ (แปล) Rupture รอยแตกข้างหลังภาพ ธนาวิ โชติประดิษฐ บทความปริทัศน์ จินตนาการหรือความจริงเรื่องความรุนแรงที่เล่นซ่อนหาอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่สงบ สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี วิกิลีกส์ “มูลบท” ว่าด้วยราชวงศ์ไทยและการเมืองสมัยปลายรัชกาลฉบับอเมริกัน ธนาพล อิ๋วสกุล ประเทศไทย: แวดวงกลุ่มอิทธิพลภายในสถาบันกษัตริย์ในช่วงชีวิตอัสดงคตของกษัตริย์ภูมิพล เอริก จี. จอห์น รายงานพิเศษ 1 ปีความยุติธรรมที่หายไป คำถามที่ยังค้างอยู่เกี่ยวกับการตายและการชันสูตรศพ กฤตยา อาชวนิจกุล สาวตรี สุขศรี ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือการปฏิเสธความยุติธรรม สาวตรี สุขศรี การเมืองในการสร้างความทรงจำว่าด้วยความตายเดือน เม.ย.-พ.ค. 53 ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net