Skip to main content
sharethis

กลุ่มผู้ค้าสุนัขภาคอีสาน 10 จังหวัด ชุมนุมเรียกร้องยืนหนังสือถึงผู้ว่าฯ นครพนมขอผ่อนผันการค้าสุนัขออกไปก่อนจนกว่าจะหาอาชีพอื่นได้ ส่วนชาวสกลนครไม่พอใจที่สื่อประโคมข่าวกินเนื้อสุนัขเกินจริง ด้านสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ฯ เดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณสัตว์ 26 ส.ค. 54 - เมื่อเวลา 11.00 น. กลุ่มผู้ค้าสุนัขจาก 10 จังหวัด คือ จังหวัดสกลนคร, นครพนม กาฬสินธุ์, ศรีสะเกษ, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, นครราชสีมา และนครสวรรค์ จำนวน 500 คน นำรถกระบะกว่า 100 คัน ที่ใช้ตระเวนรับแลกสุนัข เดินทางจากบ้านท่าแร่ มายังจังหวัดนครพนม เพื่อเรียกร้องให้จังหวัดนครพนมผ่อนผันการจับกุมการค้าสุนัข ไปก่อน จนกว่ากลุ่มผู้ค้าสุนัขจะหาอาชีพอื่นรองรับได้ เนื่องจากกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก นายศวง เดชาเลิศ แกนนำกลุ่มผู้ค้าสุนัข กล่าวว่า กลุ่มผู้ค้า 10 จังหวัดมีความเดือดร้อน หลังถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ห้ามตระเวนรับแลก จำหน่าย และบริโภคเนื้อสุนัข ทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากไม่สามารถประกอบอาชีพได้ บางคนมีหนี้สินมากต้องหวังพึ่งรายได้จากอาชีพนี้ บางรายนำโฉนดที่ดินไปจำนองกับสถาบันการเงิน เพื่อนำเงินไปดาวน์รถยนต์กระบะเพื่อตระเวนรับแลกสุนัข แต่ ไม่มีเงินส่งค่างวด ทำให้บ้านและรถกำลังจะถูกยึด และไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว จึงขอเรียกร้องจากทางจังหวัด 4 ข้อ 1. ขอเปิดเสรีให้ทำการค้าสุนัขได้ถูกต้องตามกฎหมาย 2.เปิดเสรีในการบริโภคเนื้อสุนัข 3. ขอความอนุเคราะห์จากผู้มีอำนาจให้อนุญาตประกอบอาชีพนี้โดยสุจริต และ 4.ขอกรอบเวลาในการประกอบอาชีพ และให้จัดหาอาชีพรองรับผู้เดือดร้อน นายโชค อินธิราช ผู้ประกอบการค้าสุนัขชาวท่าแร่ เปิดเผยว่า หลังจากส่งตัวแทนเข้าหารือกับรองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมยื่นข้อเรียกร้องไปแล้ว หากทางการอนุญาตให้ค้าสุนัขได้ ทางกลุ่มผู้ค้าสุนัขก็พร้อมปฏิบัติตามทุกอย่าง แต่หากทางการไม่ออกใบอนุญาตให้ ทางกลุ่มก็จะทำต่อไปเนื่องจากขณะนี้ทุกคนที่มาชุมนุมได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก คงต้องยึดอาชีพนี้ไปก่อน ถึงแม้จะถูกจับกุมก็ตาม ชาวสกลนครไม่พอใจที่สื่อหลายแขนงประโคมข่าวว่ากินเนื้อสุนัขและจำหน่วยเนื้อสุนัข เกินความเป็นจริง ส่วนที่ จ.สกลนคร ชาวสกลนครกว่า 300 คน รวมตัวกันแสดงความไม่พอใจที่สื่อต่างๆ ประโคมข่าวโจมตีว่า คนสกลนครเป็นต้นต่อในการกินเนื้อสุนัข และจำหน่ายเนื้อสุนัขชำแหละ สร้างความเสียหายเป็นการทำลายชื่อเสียงของจังหวัด ทั้งๆ ที่เหตุเกิดจากที่อื่น และเสนอข่าวเกิดความเป็นจริง นายโกมุฑ ฑีฆทนานนท์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสกลนคร พร้อมด้วยประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร และประชาชนชาวตำบลท่าแร่ 300 คน เดินทางมาชุมนุมที่ถนนหน้าศาลกลางจังหวัดสกลนคร เพื่อคัดค้านแสดงความไม่พอใจที่สื่อต่างๆ ประโคมข่าวโจมตีและให้ร้ายชาวสกลนคร ว่าเป็นต้นต่อในการกินเนื้อสุนัข และจำหน่ายเนื้อสุนัขชำแหละ ซึ่งสร้างความเสียหายและเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของจังหวัดสกลนครอย่างมาก ที่ผ่านมาชาวจังหวัดสกลนคร ได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการค้าเนื้อสุนัขมาโดยตลอด แต่ก็ยังมีสื่อบางสถานีฯ ออกมาเสนอข่าว ให้ให้ร้ายจังหวัดสกลนครอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอด ทั้งๆ ที่เหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากพื้นที่จังหวัดอื่น ขอวอนสื่ออย่าได้โยนบาปให้กับชาวสกลนครอีกเลย สิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมที่จังหวัดสกลนครยังมีอีกหลายอย่างที่ควรตีแพ่ นายโกมุท ฑีฆทนานนท์ กล่าวอีกว่า ต่อจากนี้ไปจะเดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงและขอความเป็นธรรมให้กับพี่น้องชาวจังหวัดสกลนคร พร้อมทั้งเรียกร้องให้สื่อที่โจมตีให้ร้ายชาวสกลนครเกินความเป็นจริง จะต้องออกมาขอโทษผ่านสื่อมวลชน จนกว่าจะเป็นที่พอใจของชาวสกลนครด้วย สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ฯ เดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณสัตว์ วันเดียวกันนี้ (26 ส.ค. 54) ที่รัฐสภา สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศ (TSPCA) โดยนายสวรรค์ แสงบัลลังค์ เลขาธิการสมาคมฯ และคณะกรรมการ พร้อมผู้นำองค์กรคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ภาคเอกชนในประเทศ และต่างประเทศกว่า 20 องค์กร เข้าพบนายสมศุกดิ์ เกรียติสุรนนท์ ประธานสภา เพื่อขอความร่วมมือผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. …. ซึ่งเป็นร่างที่กรมปศุสัตว์ สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย และสภาทนายความร่วมกันพัฒนา พร้อมนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา นายสวรรค์ แสงบัลลังค์ เลขาธิการสมาคมฯ และคณะกรรมการ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการส่งออกสุนัขที่ผิดกฎหมายไปจำหน่ายยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งหลังจากที่สื่อได้มีการนำเสนอข่าวการจับกุมผู้กระทำผิดในการส่งออกสุนัขอย่างผิดกฎหมายที่จังหวัดนครพนม และมีประชาชนจำนวนมากทยอยเข้ามาให้ความช่วยเหลือ และเรียกร้องให้มีการออกพ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ขึ้น โดยที่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายแม่บทใดๆ นำมาซึ่งความเสื่อมเสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์แก่ประเทศ ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: ครอบครัวข่าว, มติชน, สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net