Skip to main content
sharethis

วันนี้ (1 ก.ย.54) เวลา 9.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 910 ศาลอาญา รัชดา ศาลออกนั่งบัลลังก์สืบพยานโจทก์ คดีหมายเลขดํา อ.1167/2553 ที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนางสาวจีรนุช เปรมชัยพร ผู้อำนวยการและผู้ดูแลเว็บบอร์ดประชาไท เป็นจำเลยในความผิดตามมาตรา 14 และ 15 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 กรณีมีผู้โพสต์ข้อความในเว็บบอร์ดที่เข้าข่ายขัดต่อกฎหมายดังกล่าว

ร.ต.อ.คีรีรักษ์ มารักษ์ กองบังคับการอำนวยการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พยานโจทก์ เบิกความถึงการดำเนินงานในขณะประจำการที่ศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำ ผิดทางเทคโนโลยี (ศตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีใจความโดยย่อว่า ได้รับหนังสือจากกองบังคับการปราบปรามให้ทำการตรวจสอบข้อความไม่เหมาะสมที่ ถูกโพสต์ลงในเว็บไซต์ประชาไท เมื่อวันที่ 15 ต.ค.51 เพื่อหาที่ตั้งและชื่อผู้ดูแลเว็บไซต์ ซึ่งตรวจสอบพบว่าผู้ดูแลเว็บไซต์ประชาไทคือนางสาวจีรนุช จำเลยในคดี จึงรายงานต่อผู้บังคับบัญชา โดยไม่ได้เป็นผู้ตรวจสอบกรณีการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสม

ด้าน พ.ต.ท.สุรพงศ์ ธรรมพิทักษ์ สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ เบิกความมีใจความโดยย่อว่า ขณะเกิดเหตุอยู่ในตำแหน่งสารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (2550-2553) ได้ตรวจสอบข้อความหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ในเว็บไซต์ประชาไท และนำข้อความดังกล่าวมาประชุมร่วมคณะทำงานพิจารณาพบว่าข้อความดังกล่าวมี ความไม่เหมาะสม จึงมีการสืบสวนหาผู้โพสต์ โดยพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือสอบถามไปยังผู้ดูแลเว็บไซต์คือนางสาวจีรนุช จากนั้นได้นำข้อมูลที่ได้รับการตอบกลับไปตรวจสอบกับผู้ให้บริการอิน เทอร์เน็ต ทำให้ได้ข้อมูล และมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้โพสต์ข้อความดังกล่าว โดยไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับจำเลยร่วมด้วยในคดีดังกล่าว

สำหรับบรรยากาศในการเข้าฟังการสืบพยาน มีตัวแทนองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั้งในและต่างประเทศ อาทิ คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล (The International Commission of Jurists-ICJ) คณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (EU Delegation) ผู้แทนสถานทูตอเมริกา ผู้แทนสถานทูตเยอรมัน องค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (RSF) สมาพันธ์ผู้สื่อข่าวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAPA) และ Media Defense Southeast Asia พร้อมด้วยผู้แปลภาษารวมกว่า 30 คน หลังเสร็จสิ้นการสืบพยานในเวลาประมาณ 12.00 น.ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งต่อไปเวลา 9.00 น.วันที่ 2 ก.ย.54

อนึ่ง การสืบพยานครั้งนี้มีการเปลี่ยนผู้พิพากษารวมทั้งอัยการจากที่ได้เริ่มสืบ พยานไปก่อนหน้านี้ เป็นเวลา 5 วัน ซึ่งสืบพยานโจทก์ไปแล้ว 5 ปาก จากทั้งหมด 14 ปาก โดยการสืบพยานนัดแรกมีขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.พ.54 จากนั้นเมื่อวันที่ 11 ก.พ.54 ศาลอาญามีคำสั่งยกเลิกวันนัดสืบพยานวันที่ 15-17 ก.พ.54 และวันนัดสืบพยานโจทก์ครั้งต่อไปคือ วันที่ 1-2, 6-9, 20-21 ก.ย.54 และนัดสืบพยานจำเลย วันที่ 11-14 ต.ค.54

อัยการแถลงในวันนั้น (11 ก.พ.54) ด้วยว่า เนื่องจากการสืบพยานคดีนี้มีข้อซักถามและซักค้านพยานจำนวนมาก ทำให้การสืบพยานล่าช้ากว่ากำหนด และหมดวันนัดสืบพยานโจทก์ไปแล้ว การติดตามพยานมาเบิกความตามวันนัดที่เหลือจึงประสบปัญหาเรื่องหมายเรียกของ ศาลที่เลยวันนัดและการลาราชการของพยาน ประกอบกับช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ข้าราชการต้องโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่ง โจทก์จึงขอยกเลิกวันนัดสืบพยาน ดังนั้น การสืบพยานจึงเริ่มดำเนินการต่อในวันนี้ (1 ก.ย.54)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net