Skip to main content
sharethis

ชาวบ้านทุ่งลุยลายต้องคดีรุกที่ป่า 2 คน จาก 10 คน เข้ารายงานตัวอัยการแล้วหลังชาวบ้านชุมนุมร้องนายอำเภอชะลอส่งสำนวนคดี ด้านอัยการแจ้งนายประกันถอนประกัน-เตรียมส่งคดีฟ้องศาล คนที่เหลือนัดต่ออย่างช้าไม่เกิน 29 ก.ย.นี้ วานนี้ (6 ก.ย.54) นายทอง กุลหงส์ และนายสมปอง กุลหงส์ ชาวบ้านทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหา2 คน จาก 10 คน ที่ถูกจับกุมพร้อมแจ้งความดำเนินคดีกรณีสวนป่าโคกยาวในข้อหาบุกรุก แผ้วถาง ก่นสร้าง และทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาต ไปรายงานตัวที่สำนักงานอัยการจังหวัดภูเขียว ตามที่ได้มีการประสานงานมายัง กำนัน ต.ทุ่งลุยลาย ในฐานะนายประกันของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เนื่องจากอัยการได้จัดทำสำนวนคดีครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 ก.ค.54 นายประทีป ศิลปะเทศ นายอำเภอคอนสารร่วมกับเจ้าหน้าฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และ อส.จำนวนกว่า 200 นาย สนธิกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่บริเวณพิพาทสวนป่าโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ และควบคุมตัวชาวบ้านจำนวน 10 คน ไปที่สถานีตำรวจภูธรห้วยยาง เพื่อสอบปากคำและแจ้งข้อหาบุกรุก แผ้วถาง ก่นสร้าง และทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่สำนักงานอัยการจังหวัดภูเขียว เจ้าพนักงานได้แจ้งความก้าวหน้าการดำเนินคดีแก่นายทอง และนายสมปอง โดยแจ้งถึงการถอนประกันของนายประกัน พร้อมระบุว่าจะส่งฟ้องศาลจังหวัดภูเขียว ทำให้ชาวบ้านต้องหาหลักทรัพย์ค้ำประกัน ตามที่ศาลได้กำหนดวงเงินประกัน คนละ 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 200,000 บาท กระทั่งเวลาประมาณ 16.30 น.ชาวบ้านได้พยายามทำการรวบรวมเงินจนครบตามจำนวน และดำเนินการประกันตัวทั้ง 2 คน ออกมาได้ในที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวมีชาวบ้านถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 10 ราย จำแนกเป็น 4 คดี คาดว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้จะมีการนัดหมายไปพบอัยการจังหวัดเป็นลำดับต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าได้ทำสำนวนเพิ่มเติม ใกล้เสร็จสิ้นหมดแล้ว อย่างช้าที่สุดจะนัดภายในวันที่ 29 ก.ย.นี้ และมีแนวโน้มที่นายประกันที่เป็นผู้ใหญ่บ้านและสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลจะถอนประกันแบบเดียวกับคดีนายทอง และนายสมปอง ชาวบ้านทุ่งลุยลาย บ้านโนนศิลา และชุมชนบ้านบ่อแก้ว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ จำนวนกว่า 120 คน ชุมนุมบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอคอนสาร เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ส.ค.54 ชาวบ้านทุ่งลุยลาย บ้านโนนศิลา และชุมชนบ้านบ่อแก้ว อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ จำนวนกว่า 120 คน ได้รวมตัวชุมนุมบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอคอนสาร เรียกร้องให้นายอำเภอคอนสารชะลอการส่งสำนวนคดีดังกล่าวต่ออัยการ โดยในวันนั้นนายอำเภอคอนสารระบุว่าจะขอดูสำนวนการสอบสวนเพิ่มเติม รวมทั้งจะขยายเวลายื่นต่อไปยังอัยการอีก 7 วัน ทำให้ชาวบ้านยอมรับข้อเสนอและสลายตัวไป ทั้งนี้ พื้นที่สวนป่าโคกยาวเป็นพื้นที่พิพาท และมีกระบวนการแก้ไขปัญหามายาวนาน โดยเมื่อปี พ.ศ.2548 คณะทำงานตรวจสอบพื้นที่ที่มีนายธนโชติ ศรีกุล ปลัดอาวุโสอำเภอคอนสารเป็นประธาน ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถือครองทำประโยชน์ที่ดิน และการสำรวจรังวัดพื้นที่ กระทั่งมีมติว่าสวนป่าโคกยาวได้สร้างผลกระทบต่อชาวบ้านที่ถูกอพยพ ขับไล่ออกจากพื้นที่จริง และให้ดำเนินการช่วยเหลือชาวบ้านผู้เดือดร้อน ต่อมาคณะอนุกรรมการสิทธิที่ดินและป่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้มีรายงานผลการละเมิดสิทธิ โดยมีมติว่าการปลูกสร้างสวนป่าโคกยาวได้ละเมิดสิทธิในที่ดินของผู้ร้อง และให้ยกเลิกสวนป่าโคกยาว ทั้งนี้ ในระหว่างการแก้ไขปัญหาจนกว่าจะได้ข้อยุติ ให้ราชการผ่อนผันให้ราษฎรผู้เดือดร้อน สามารถทำกินในระหว่างร่อง แถวของสวนป่าไปพลางก่อน จากนั้น นายก อบต.ทุ่งลุยลาย ได้มีหนังสือไปยังผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา เพื่อขอให้ราษฎรผู้เดือดร้อนสามารถเข้าทำประโยชน์ที่ดินในพื้นที่พิพาท โดยทำกินในระหว่างร่องระหว่างแถวของสวนป่า จนกว่าการแก้ไขปัญหาจะได้ข้อยุติ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 18 เม.ย.54 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกรณีพื้นที่ป่าไม้ของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย โดยมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทพื้นที่ป่าไม้ ทั้งสิ้น 9 กรณี โดยมีกรณีสวนป่าโคกยาวรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ตามการดำเนินการแก้ไขปัญหายังไม่มีความคืบหน้า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net