Skip to main content
sharethis

วันนี้(24 กันยายน)หลิ่มหลีได้มีโอกาสไปฟังอาเจก เอ้ย ไม่ใช่ อาจารย์ยิ้ม ... ไปพูดเรื่อง ประวัติศาสตร์โรมาเนีย สนุกมากถึงมากที่สุด โดยปกติ หลิ่มหลีจะค่อนข้างเลือกค่ะ ที่จะไปฟังเสวนาอะไรก็แล้วแต่ หลิ่มหลีเลือกที่หน้าตาผู้เสวนาค่ะ อย่างนิติแร่ด เอ้ย นิติราษฎร์เนี่ย หลิ่มหลีไปบ่อย อร๊ายยยย เขิล หลิ่มหลีชอบหล่อๆ อร๊าย ไม่พูดไม่พูด คิดถึงไอดอล .. แต่งานนี้ หลิ่มหลีไม่ไปไม่ได้ค่ะ จริงๆเขาโฆษณามาตั้งนานแล้ว แต่หลิ่มหลีไม่รู้ไม่เห็น แต่พอดี .. อ่ะนะ มีน้องแจ้งมาว่าอาจารย์ยิ้มเชียวนะ เสียงหล่อโค่ดๆเล้ย หลิ่มหลีก็ว่า เออ ไปซะหน่อย ไปซะหน่อย อยากฟัง อยากได้ความรู้ อร๊ายยย คิดได้ไงเนี่ย สลิ่มไม่อยากหาความรู้หรอก หลิ่มหลีติดเชื้อบ้าจากไหนมาเนี่ย หือ หือ และหลิ่มหลีก็เดินทางไปถึงที่ Reading Room สีนม สีลมซอย 19 ค่ะ วันนี้เขาฉายหนังเรื่อง Videograms of a Revolution กับเรื่อง The Autobiography of Nicolae Ceausescu ซึ่งหลังจากหนังจบ ก็มีการเสวนาต่อโดยนักวิชาการสองท่าน ท่านหนึ่งคือ อาจารย์ยิ้ม สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ และอีกท่านคือ นักวิชาการด้านสื่อจากประเทศญี่ปุ่น เคโกะ เซย์ (Keiko Sei) อาจารย์ยิ้มเริ่มประวัติของโรมาเนียอย่างกับกำลังสอนหนังสือที่มหาลัยฯ ฮ่าๆๆๆ หลิ่มหลีชอบมาก เหมือนได้กลับไปเป็นนักเรียนหลังห้อง อาจารย์เริ่มต้นประวัติประเทศโรมาเนียตั้งแต่ยุค 1856 สมัยเป็นของอาณาจักรอ๊อตโตมันเติรกส์ อะไรประมาณนั้น และในปี 1938 ก็มีคิงคาโรล ซึ่งลาออกจากตำแหน่งไปแต่งเมีย เอ้ย แต่งงานกับสาวต่างศาสนา แล้วก็มารู้ว่าการไร้อำนาจนั้นมันน่าโหยหาแค่ไหน (อันนี้หลิ่มหลีเขียนใส่อารมณ์ให้มันส์ แต่อาจารย์เองก็มันส์อยู่เหมือนกัน แต่หลิ่มหลีลืม... สลิ่มนะค้า สมองมีน้อย ประหยัดการใช้งานให้หน้าตึงเสมอๆ) ท้ายที่สุดคิงคาโรลแกก็เลยยึดอำนาจมา ได้ทั้งเมียได้ทั้งอำนาจ ฉลาดจริงๆเลย โดยการยึดอำนาจนี้มีข้อตกลงกับทหารเป็นอย่างดี หลิ่มหลีไม่เล่าละเอียดมากนะคะ มันยาว หลิ่มหลีไม่ชอบอะไรยาวๆ ชอบอะไรมันส์ๆมากกว่า พอโรมาเนียเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สองกับฝ่ายอักษะ คือ ฝ่ายเยอรมันนั่นเอง โรมาเนียก็มีคิงคนใหม่ซะแล้วที่ชื่อว่า คิงมิฮาย โรมาเนียผู้เลือกฝั่งอักษะมาแต่แรกก็กลับย้ายข้างมาเป็นฝ่ายพันธมิตร และทำให้โรมาเนียมารบกับอักษะเอง นกสองหัวเนอะ เหมือนใครหนอ ??? แต่แล้ว เมื่อฝ่ายอักษะแพ้ โรมาเนียเองที่ทรยศฝ่ายอักษะมาเข้ากับฝ่ายพันธมิตรแล้วหวังว่าจะรอดตัวเหมือนสยามเมืองสยองของเรา แต่ก็กลับไม่รอดแฮะ โดนรัสเซียครอบงำไปซะได้ไงเนี่ย ... ทำให้ยุโรปตะวันออกเป็นพวกเดียวกัน เก้าประเทศในฐานะประเทศที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์โดยมีพี่ใหญ่คือรัสเซียในสมัยนั้น ซึ่งในปี 1947 ระบบสมบูรณญาสิทธิราชก็โดนแฮฟถล่มตายคาบาทาคอมมิวนิสต์ซะ ซึ่งในขณะนั้นบุคคลที่เป็นผู้นำคือ นาง อานา เพาเกอร์ แล้วเจ๊แกก็โดนโค่นล้มโดยนายพล เกอร์เก เกอร์กิอู แล้วจัดตั้งพรรคเดจ ขึ้นมา ...ซึ่งชื่อเดจเป็นชื่อเล่นของพรรคคอมมิวนิสต์ของประเทศโรมาเนียนี่แหละค่ะ พรรคเดจมีข้อเด่นในการบริหารประเทศอยู่ หลายข้อ หลิ่มหลีคุ้นมากเลย ก็ได้อาจารย์ยิ้มเนี่ยแหละค่ะมายิ้มให้หลิ่มหลีแล้วชี้แนะทางตาสว่างให้ หุหุ พรรคเดจเป็นคนเริ่มต้นระบบแผนเศรษฐกิจ 5 ปี ที่รัสเซียเริ่ม ซึ่งเป็นแผนเศรษฐกิจที่จะมีในประเทศสังคัง เอ้ย สังคมนิยมเท่านั้น ..ซึ่งประเทศพวกนี้ประสบความสำเร็จมากกับแผนนี้ ทำให้อเมริกาพี่เบิ้มของเราอยากจะทดลองใช้บ้าง แต่ไม่กล้าใช้ในประเทศตัวเองเพราะดันไปประกาศความเป็นประเทศทุนนิยมสุดขั้ว หันซ้ายหันขวา มองไปมองมา แหม๊ มีโง่ๆอยู่ประเทศหนึ่ง ลองอะไรก็ได้ผลไปไหม ลองให้กลัวผีคอมมิวนิสต์ ..พี่เทยก็กลัวจริง...ได้ผลวุ้ย ลองให้ซ้อมรบกองกำลังงูเห่า พี่เทยก็ดีใจ ปลื้ม...ได้เงินเข้ากระเป๋าใคร? พี่แกก็เลยให้ลองใช้แผนเศรษฐกิจ 5 ปีดูบ้าง สร้างอุตสาหกรรมหนัก มีรัฐวิสาหกิจ ธนาคารของรัฐเหมือนโรมาเนียบ้าง แต่โชคดีไม่เอามาซะหมด ไม่งั้น หุหุ ไม่รู้จะเป็นยังไงกันนะสิ นะเนี่ย หึหึ ต่อมาท่านเกอร์กิอูก็สิ้นชีวิตอย่างสงบ พี่เชาเชสกู Nicolae Ceausescu ก็ขึ้นมาปกครองบ้านเมือง แกเป็นพวกรากหญ้ามาก่อนค่ะ แล้วแกก็หาหนทางไต่เต้าได้จนมาแทนท่านเกอร์กิอูได้ เก่งเนอะ พอแกขึ้นมาเป็นผู้นำ เป็นประธานาธิปดี แกก็ดันเมียแกขึ้นมาด้วย เอเลนา เปเตรสคู Elena Petrescu แล้วทั้งสองก็สถาปนาตัวเองเป็นพ่อแม่ของแผ่นดินโรมาเนีย เอาวันเกิดของตัวเองเป็นวันหยุดราชการ แล้วก็สร้างโฆษณาชวนเชื่อว่าประเทศนี้ขาดแกสองคน ประเทศคงแตกเป็นเสี่ยงๆ แกสองคนก็เหมือน มิ่งขวัญของประชาชนชาวโรมาเนีย The Soul of the Nation โอ้ มันยอดมากเลยนะ นาย... แล้วแกก็มีลูกชายเจ้าชู้ประตูดินอยู่หนึ่งคนชื่อ Nicu Ceausescu ซึ่งเป็นคนที่ใช้การไม่ได้ แต่ความที่ใช้ไม่ได้กลับทำให้เขารอดชีวิตได้ หุหุ นโยบายของพี่เชาเชสกูนี่ดีอยู่อย่าง แกเปิดตัวเองไปคบค้าพวกตะวันตก เก่งซะจนได้ลงนิตยสารTime คบค้าคนไปทั่ว จนกู้เงินเขาได้ทั่วโลก แล้วเอาเงินมาพัฒนาประเทศเล็กๆน้อยๆ แกกู้เงินอยู่สิบกว่าปี 1970 แต่พอ 1982 แกดันหยุดกู้แล้วประกาศคืนหนี้สินให้หมด หลิ่มหลีคิดว่า นี่มันบ้าหรือโง่หวะ ... หรือว่าโดนบีบบังคับจากใคร หือ ๆๆๆ ๆๆ เห็นไหม ...และแล้วคนที่มันเคยๆสบายๆ กู้เงินมาใช้จ่ายสบายๆ พอต้องมาประหยัดรัดเข็มขัด ใช้หนี้ ..ประชาชนก็ชักโมโห อดอยากไม่ว่า อดดูทีวีด้วยนี่ยิ่งแย่ คุณเคโกะบอกว่า ทีวีในสมัยเชาเชสกูนี่ ฉายวันละแค่ 2 ชั่วโมง และแน่นอนแหละ ฉายแต่เรื่องของแก โฆษณาคุณงามความดีของแกสองคนผัวเมีย ประชาชนอดอยากหนักเข้า โวยวายก็โดนปราบปรามอย่างหนักหน่วง ก็เลยเกิดการปฏิวัติขึ้นมาซะนี่ ... แล้วก็ทำสำเร็จในปี 1989 แล้วอาจารย์ยิ้มก็กลับบ้าน .. พร้อมกับชัยชนะของประชาชนชาวโรมาเนีย คุณเคโกะเลยมาเล่าต่อ ว่า ไอ้หนังสองเรื่องที่ฉายในวันนี้ มันมีดียังไง การปฏิวัติของโรมาเนียถือเป็น The Landmark of Media ทีเดียว เพราะนี่คือการปฏิวัติที่ใช้สื่อโดยเฉพาะสื่อทีวีเป็นเครื่องมือในการทำปฏิวัติให้สำเร็จ ซึ่งจริงๆแล้วการปฏิวัติโดยประชาชนของโรมาเนียนั้นเกิดขึ้นภายหลังจากการปฏิวัติของประเทศเพื่อนบ้านรอบตัวกันหมดแล้ว แต่ประชาชนชาวโรมาเนียเองไม่ได้รับรู้อะไรพวกนี้หรอก ก็เพราะว่าพวกเขามีทีวีให้ดูแต่เรื่องที่โดนบังคับให้ดู ดังนั้นการปฏิวัติของโรมาเนียจึงเป็นการปฏิวัติที่มาจากประชาชนมากกว่า ในช่วงท่ีเชาเชสกูครองอำนาจ เขารู้ดีว่าการคุมอำนาจให้อยู่มือ สิ่งหนึ่งที่ต้องคุมให้ได้คือ คุมสื่อทีวี ดังนั้นจะมีการสอนกันตลอดว่า ถ้าเราจะโดนปฏิวัติ เราต้องปกป้องสถานีทีวีของเราให้ได้ แต่ก็ .. อะนะ การปฏิวัติครั้งนี้มันปฏิวัติโดยประชาชน ประชาชนก็เลยรู้ว่าเราต้องไปปกป้องทีวีเอง พวกเขาก็เลยไปยึดทีวีซะ ซื่ออย่างที่เรียนมาจริงๆ ... เชาเชสกูก็เลยซวยไป แล้วก็โดนจับได้พร้อมลูกเมีย แล้วตัวท่านเองก็โดนขึ้นศาล (ศาลข้างเดียว ไม่ได้ให้เขาได้ต่อสู้เลย ปฏิวัติเพื่อเป็นประชาธิปไตยอะไรกันนี่ ...สตอเบอรี่เหมือนประเทศเทยเลยเนอะ ) และโดนตัดสินอย่างเร่งด้วยพร้อมภรรยาให้มีการประหารชีวิตทันที ไม่ได้ต่อสู้ในชั้นศาลอะไรกับเขาได้เลย น่าสงสาร แต่ไปไปมามา ลูกชาย นิคู กลับรอดชีวิตมาใช้ชีวิตปกติได้ เพราะเขาเห็นว่าไม่มีภัยอะไร วันๆก็กินขี้ปี้นอน ก็เลยปล่อยตัวมาแล้วก็เสียชีวิตในปี 1996 นี่เอง การเริ่มต้นปฏิวัติของโรมาเนียเริ่มต้นที่แคว้นทรานซิสเวเนียซึ่งชนกลุ่มใหญ่มีเชื้อสายฮังการี และกระหายอยากรับรู้ข่าวสารมาก จึงแอบสร้างเสารับสัญญาณทีวีกัน แล้วทีวีฮังการีก็เสี้ยมน่าดูกับการออกข่าวถึงความเลวร้ายของชาวโรมาเนียในแคว้นทรานซิสเวเนีย สมัยนั้นก็แย่จริงๆนะคะ ...เฮียเชากะเมียอยากจะยึดที่ดินตรงไหน ไปสร้างโรงงานสร้างปราสาทอะไร ก็สักแต่ชี้ชี้ชี้ แล้วก็ไล่ที่ ไล่ที่ ชาวโรมาเนียฮังการีในทรานซิสเวเนียก็ได้แต่หลบๆหนีๆ โดยความช่วยเหลือของพระรูปหนึ่ง แล้วพระรูปนี้ก็ถูกจับ คนก็โมโหรวมตัวกันแล้วทำให้เกิดการก่อการปฏิวัติขึ้นมาจนนำไปสู่ความสำเร็จ คือมันมีอะไรที่มากมายที่ทำให้ประชาชนเขาทนไม่ไหวด้วย แต่ไม่มีอะไรที่เด่นชัดเท่ากับ การถ่ายภาพด้วยวีดีโอที่ก่อให้เกิดการปฏิวัตินี้ได้ Media turned History and History turned into Drama. หุหุ ยังไงอย่างนั้น ที่น่าแปลกใจคือ คุณเคโกะมาค้นพบว่า ก่อนหน้าการประท้วงไม่นานนัก เธอได้ยินข่าวลือมาว่า พานาโซนิกจะให้กล้องถ่ายวีดีโอกับชาวทรานซิสเวเนีย แหงสิ เฮียเชาเชสกูไม่ให้ใครง่ายๆหรอก ขนาดทีวียังให้ดูแค่ 2 ชั่วโมงเอง แล้วจะมาให้ประชาชนพกกล้องมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ก็เหมือนเมืองไทยไม่ได้ 3G สักทียังไงอย่างนั้น อุ๊ปส์ ..อร๊ายยยยย ไม่เกี่ยวค้า ไม่เกี่ยวเลย แล้วหลังจากการปฏิวัติสำเร็จ เธอก็สังเกตุเห็นพานาโซนิกโฆษณาคล้ายๆกับว่า กล้องของประชาชนเปลี่ยนประวัติศาสตร์ การปฏิวัติเกิดขึ้นได้เพราะกล้องของประชาชน แล้วก็มีรูปกล้องของตัวเองในโปสเตอร์พร้อมกับเห็นภาพลางๆเป็นรูปเหรียญและปราสาทของประเทศโรมาเนีย อร๊ายยยยย อะไรกันนี่ พ่อค้าทำมาหากิน.. พลังการค้าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกประเทศกันเลยเชียวหรือนี่ แต่นี่เป็นเพียงข้อสังเกตุของเธอเท่านั้น ไม่ได้แปลว่าเป็นความจริงนะคะ แฟนขวักของหลิ่มหลีอย่าคิดมาก อย่าคิดตาม เด๋วแก่เร็วค้า ที่มากกว่านั้นที่เธอสังเกตุคือ มันมีสารคดีเกี่ยวกับการปฏิวัติโรมาเนียที่มีคนดูเยอะที่สุดในญี่ปุ่นที่สร้างโดยNHK แล้วNHK ก็โปรโมทให้ประชาชนติดตั้งจานดาวเทียมพร้อมกับบอกว่า ชาวทรานซิสเวเนียก็ต้องการมัน หุหุ ...แล้วหลังจากนั้น เธอก็ไปตามหาชายชาวโรมาเนียคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ถ่ายภาพ Footage เกี่ยวกับการปฏิวัติครั้งนี้มากที่สุด ..แล้วเธอก็พบว่า เขาทำงานอยู่ใน NHK แล้ว กรี๊ดดดดดดด สลบ อะไรกันนี่ อย่างไรก็ตาม การปฏิวัติครั้งนี้ได้สร้างความฉงนให้กับนักข่าวสื่อต่างๆมากมายจนพวกเขาต้องปรึกษากันว่า ไอ้สิ่งที่พวกเขาเห็นมันใช่ความจริงหรือไม่ เพราะในFootage มีการนำศพมาอ้างว่าเป็นฝีมือของเชาเชสกูกับภรรยา แต่ตอนหลังก็ค้นพบว่า มันไม่ใช่เลย พวกเขาไปขุดศพที่ตายไปแล้วมาอ้างว่านี่คือเหยื่อสังหารของเชาเชสกู แล้วทำให้พวกผู้สื่อข่าวเกิดความสงสัยว่านี่เป็นการปฏิวัติจริงหรือไม่ หรือนี่คือรัฐประหารโยกอำนาจสร้างสถานการณ์กันแน่ เพราะท้ายสุดผู้สื่อข่าวชาวโรมาเนียเองก็ยอมรับเองว่า ใช่พวกเขาขุดศพขึ้นมาโดยไม่รู้ว่านี่คือเหยื่อสังหารของเชาเชสกู แต่ยังไงก็แล้วแต่คนเหล่านี้ก็คือเหยื่อการบริหารงานของเชาเชสกูนะ... เอ่อ...พี่คะ...หนักนะเนี่ย ไปไปมามา การปฏิวัติครั้งนี้ทำให้ผู้สงสัยมากมายทำการย้อนกลับมาไล่ดูFootage ภาพ หนังสั้น ทุกอย่าง แล้วเรียงลำดับกันใหม่หมด ...ออกมาเป็นหนังสองเรื่องนี้ Videograms of a Revolution กับเรื่อง The Autobiography of Nicolae Ceausescu ซึ่งบอกให้รู้ว่าการปฏิวัติในโรมาเนียเป็นการปฏิวัติครั้งแรกที่ใช้สื่อทีวีเป็นเครื่องมือ ที่น่าสงสัยคือ มันเหมือนการปฏิวัติแบบจัดฉาก ...อร๊ายยยยยยยย โรมาเนียกับประเทศเทยนี่ ใครก๊อบปี๊ใครกันนะ ... สุดท้าย เคโกะสรุปให้ฟังในการที่เธอไปค้นพบมากมายว่า สามัญชนหลายๆคนที่เป็นแม้กระทั่งคนขี้ฟ้องจับคนเข้าคุกมากมาย แต่เมื่อถึงเวลาปฏิวัติขึ้นมา พวกเขาก็พร้อมกลับกลายเป็นนักปฏิวัติเองเพราะพวกเขากลัวในพลังของประชาชน ในขณะที่นักปฏิวัติเอง เมื่อทำสำเร็จแล้วกลับกลายเป็นเผด็จการปกครองบ้านเมืองไปอย่างเสียของเสียความรู้สึก ตบดิ้นเลย เรายังไม่รอดนะฮาฟ เรายังไม่จบนะฮาฟ..... ท่านผู้ร่วมประเทศทั้งหลาย หุหุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net