Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

สืบเนื่องจากกรณี ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ตั้งคำถามต่อแถลงการณ์คณะนิติราษฏร์ ก่อนหน้านี้หนึ่งในคำถามนั้นได้พาดพิงถึงการอภิวัฒน์ 2475 และอ.ปรีดี โดยจัดให้ อ. ปรีดีมีฐานะเดียวกันกับ สฤษดิ์ ถนอม ประภาส และสุจินดา คำถามดังกล่าวย่อมกระทบต่อฐานะทางประวัติศาสตร์ของ อ.ปรีดี และทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดได้ว่า อ.ปรีดีไม่ได้แตกต่างจากเผด็จการที่ผ่านมา พวกเรากลุ่มเพื่อนรุ่นพี่ อ.สมคิด เลิศไพฑูรย์ขอโอกาสแนะนำน้องสักครั้งเถอะ ก่อนที่น้องจะสูญเสียจิตวิญญาณธรรมศาสตร์จนไม่เหลืออีกต่อไป พยานหลักฐานที่ถูกลบหายอย่างตั้งใจ อ.สมคิดต้องมีความกล้าหาญ เปิดเผย และเคารพตนเอง ไม่ควรหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ในเฟซบุ๊ค พอมีข้อความไหนที่เป็นผลร้ายก็ลบทิ้ง ส่วนข้อความไหนเป็นผลดีจึงเปิดเผยต่อสาธารณชน . กรณีอ.ดุษฏี บุญทัศนกุล (พนมยงค์) บุตรีท่านอ. ปรีดี พนมยงค์ โพสต์ข้อความเมื่อ 29 ก.ย. 54 สอบถามกรณีที่อ.สมคิดพาดพิงถึงท่านอ.ปรีดี โดยจัดให้ท่านอ.ปรีดีเป็นหนึ่งในคณะรัฐประหารรวมอยู่กับสฤษดิ์ ถนอม ประภาส สุจินดานั้น ถามว่าทำไมต้องร้อนรนลบทิ้งไปเสียหมดเกลี๊ยงในเฟชบุ๊คของท่าน [*** ดูรายละเอียดในมติชนออนไลน์ 29 ก.ย 54 ข่าวการเมือง] ครั้นพออดีต สสร.ปี2550 คุณอภิชาติ ดำดี โพสต์ข้อความแก้ต่างปกป้องท่านกรณีถูกคณะศิษย์เก่าโจมตีเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2554 วันรุ่งขึ้นท่านก็รีบแผยแพร่ข้อความแก้ต่างทันที ทำไมท่านไม่เปิดเผยตัวตนและความคิดที่แท้จริงของตนเอง หากท่านมีหลักฐานข้อมูลและเหตุผลที่ดี สังคมย่อมให้ความเป็นธรรมต่อท่านแน่นอน ยิ่งปกปิดซ่อนตัวหรือให้คนอื่นที่ไม่รู้ความคิดที่แท้จริของท่านมาแก้ต่าง ก็ยิ่งฟ้องต่อสาธารณชนว่าท่านซ่อนแร้นความผิดพลาดอะไรไว้แน่นอน ต้องเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะและยอมรับความเป็นจริง ท่านต้องเรียนรู้และรับฟังการท้วงติงคัดค้านกรณีที่ท่านพาดพิงท่านอ.ปรีดี ก่อนหน้านี้ เริ่มจากกรณีอ.ดุษฎีท้วงติงท่านจนนำไปสู่การก่อตัวประท้วงของคณะ ศิษย์เก่าธรรมศาตร์ ที่หน้าหอประชุมใหญ่ธรรมศาตร์เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา บุคคลเหล่านั้นล้วนเป็น รุ่นพ่อ รุ่นพี่ของท่าน ต้องให้เกียรติให้ความเคารพกันบ้าง ดูหน่อยสิครับว่าใครเป็นใครยังมีรายชื่ออีกหลายร้อยในช่วง 2-3วันที่ผ่านมา(ดูได้ที่www.tudemoc.comครับ) ไม่ควรกล่าวลอยๆ ในเฟซบุคส่วนตัวของท่านว่า “เป็นการบิดเบือน เอาเรื่องไม่จริงมาโจมตี” ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ท่านออกอาการถึงขนาดโพสต์ข้อความว่า “หากวิญญาณท่านอ.ปรีดี มีอยู่จริงขอให้ลงโทษที่เอาชื่อเสียงของท่านมาใช้กลั่นแกล้งคนอื่น” โปรดตั้งสติหน่อยครับอ.สมคิด จนป่านนี้ยังไม่รู้หรือว่าท่านทำท่านอ.ปรีดีเสียหายขนาดไหน? จนทายาทของท่านเองรับไม่ได้ต้องออกมาท้วงติงอย่างสุภาพมากๆ และรู้ไหมว่าในกลุ่มคณะศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ที่มาประท้วงท่านนั้น ล้วนเป็นบุคคลที่มีเกียรติภูมิ ลูกศิษย์ท่านอ.ปรีดี สมัยตมธก.หลายยุคหลายสมัยก็มาร่วมด้วย คนเหล่านี้เขามาปกป้องคุณูปการท่าน อ.ปรีดี พนมยงค์ และมาร่วมต่อสู้เพื่อปรัชญา-จิตวิญญาณของมหาวิทยาลัยนี้อย่างจริงใจ คุณประสิทธิ์ ข้าราชการอาวุโส นักเรียนทุนฝรั่งเศส ได้ให้สัมภาษณ์ไว้สื่อทีวีช่อง 11 ที่ถามว่า “หากวิญญาณท่านปรีดียังวนเวียนอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้ คิดว่าท่านจะรู้สึกอย่างไรต่อเหตุการณ์นี้” คำตอบคือ “ถ้าดวงวิญญาณอ.ปรีดียังสถิตย์และวนเวียนอยู่ในมหาวิทยาลัยนี้ ท่านคงรู้สึกเสียใจ รวมทั้งลูกศิษย์ของท่านอีกจำนวนมาก” เรื่องจริงเป็นอย่างไร อ.สมคิดย่อมรู้อยู่แก่ใจดีว่า ตัวเองพลาดไปเพียงวรรคเดียวเท่านั้น ไม่ใช่วรรคทอง แต่เป็นวรรคสีดำที่ทำให้ อ.สมคิด ไม่สามารถสู้ความจริงได้ จึงต้องหลบซ่อนไม่ยอมออกมาพูดหรือแถลงต่อประชาคมธรรมศาตร์และสาธารณชน อย่าเอาแต่พร่ำเพ้อหรือเบี่ยงเบนประเด็นอีกต่อไป ออกมาสู้ความจริงเสียเถิด ถ้าท่านคิดว่าท่านทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่แล้วและ เป็นถึงศาสตราจารย์นักกฏหมายย่อมมีความรู้ความสามารถทางกฏหมายสูงอยู่แล้ว จะมัวกลัวอะไรอยู่ละครับ หลักฐานทางเอกสารชัดแจ้ง โพสต์เองก็ปิดปากตัวเอง ความผิดพลาดของอ.สมคิดคืออะไร? ขอบอกตรงๆและเชื่อว่าท่านก็รู้เป็นอย่างดีแล้ว เราศิษย์สำนักเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักกฏหมายด้วยกันย่อมอ่านทางกันออก แต่คนทั่วไปอาจยังไม่รู้หรืออาจสับสนได้ มาสะสางให้ความจริงปรากฎต่อสาธารณชนเสียทีดีไหม อ.สมคิดรู้ดีอยู่แก่ใจตั้งแต่ต้นแล้วและตั้งใจโพสต์ข้อความพาดพิงท่าน อ.ปรีดีโดยหวังเอาสถานะของ อ.ปรีดีมาสนับสนุนความคิดของตนเองในการตอบโต้กับนักวิชาการ”คณะนิติราษฏร์” อย่างมีนัยยะแอบแฝง กรรมย่อมส่อเจตนา วาจาย่อมส่อความคิด ใช่-ไม่ใช่ก็ดูหลักฐานที่อ.สมคิดโพสต์ข้อความตั้งคำถามถึงคณะนิติราษฏร์ไว้ว่า “ถ้าเรายกเลิกกฏหมายที่เรายกเลิกไปแล้วได้ เราจะล้มเลิกการกระทำทั้งหลายและลงโทษคณะรัฐประหารกี่ชุด สุจินดา ถนอมประภาส สฤษดิ์ จอมพลป. อ.ปรีดี หรือจะลงโทษเฉพาะคณะรัฐประหารที่กระทำต่อนายกทักษิณ” อ.สมคิดต้องกล้าหาญและเคารพตนเองโดยออกมาตอบต่อสาธารณชนเสียที่ว่า มีเหตุผลอย่างไรและหลักฐานทางประวัติศาตร์อะไรที่อ้างอิงได้ว่าท่าน อ.ปรีดีเป็นหนึ่งในคณะรัฐประหารและสมควรรวมท่านเข้าไปในกลุ่มสฤษฎิ์ ถนอม ประภาส สุจินดา หากท่านตอบไม่ได้หรือไม่กล้าตอบด้วยตัวเอง ข้อความดังกล่าวก็จะเป็นหลักฐานทางเอกสารผูกมัดเองว่าท่านเจตนาอย่างไร? บิดเบือนหรือไม่? เราๆท่านๆที่ได้อ่านข้อความเหล่านี้มาแล้ว ย่อมเข้าใจและตีความได้เองด้วยสติปัญญาของเรา เพียงแต่ยังอยากให้โอกาส อ.สมคิดพูดความจริงอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่ใช่หลบๆซ่อนๆอย่างนี้ เป็นไปได้ไหมว่าอ.สมคิดจนแต้มหมดทางไปแล้ว สาเหตุสำคัญเพราะได้โพสต์ข้อความตอบคุณดุษฎีไปว่า \ผมเข้าใจท่านครับ การรัฐประหารกับการปฏิวัติต่างกันครับ” ข้อความวรรคนี้ตอบในตัวเองว่า อ.สมคิดรู้เป็นอย่างดีว่า การปฏิวัติ 2475 หรือการอภิวัตน์ 2475 ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยท่าน อ.ปรีดีและคณะราษฏรนั้น ต่างกันโดยสิ้นเชิงกับการทำรัฐประหารที่ฉีกรัฐธรรมนูญและล้มการปกครองระบอบประชาธิปไตย เเต่ที่ อ.สมคิดต้องเอาสองสิ่งนี้มายำรวมกันโดยเจตนาก็เพื่อเป็นการรองรับสนับสนุนความคิดเห็นส่วนตัวของอ.สมคิด โดยลืมไปว่าแล้วฐานะทางประวัติศาตร์กับคุณูปการของท่านอ.ปรีดีจะเป็นอย่างไร? จะเสียหายแค่ไหน? ท่านจะเห็นดีเห็นงามกับการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 จนกระทั่งได้เข้าร่วมร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ให้กับคณะรัฐประหารอย่างไรนั้น เป็นสิทธิ์ส่วนตัวของท่าน ในสังคมประชาธิปไตยย่อมต้องเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างและเหตุผลของปัจเจกบุคคล ท่านอาจเห็นว่าเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายกำจัดอดีตนายกทักษิณ ไม่ว่าวิธีการอะไรก็ได้ไม่สำคัญ ส่วนแนวคิด หลักการ อำนาจอธิปไตยของประชาชน หรือ หลักนิติรัฐ ก็เก็บเข้าตู้หนังสือไปก่อน กฏหมายกับการเลือกตั้งแก้ปัญหาไม่ได้ก็ต้องใช้ปืน ก็แล้วแต่จะคิด แต่ท่านไม่มีสิทธิ์โดยสิ้นเชิงที่นำสถานะของท่าน อ.ปรีดี มาเป็นเครื่องมือรองรับสถานะตัวเองให้ชอบธรรมถูกต้องฝ่ายเดียว โดยท่าน อ.ปรีดีไม่สามารถมาท้วงติงอะไรได้อีกแล้ว ทางออกที่ง่ายที่สุด สุดแต่ท่านจะเลือก ไม่มีใครกลั่นแกล้งใครหรอกครับ รุ่นพี่ไม่ทำกับรุ่นน้องแบบนั้นแน่นอน ลูกศิษย์ย่อมไม่ทำกับอาจารย์อย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้เช่นกัน เรายังเชื่อในความเป็นสุภาพบุรุษธรรมศาตร์ ถ้าท่านเอาแต่พร่ำพูดอยู่เสมอว่า ”ผมรักและยกย่องท่าน อ.ปรีดีตลอดชีวิตและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป” หากคำพูดนี้มีความจริงใจหลงเหลืออยู่จริง ก็ขอให้พิสูจน์ด้วยการกระทำอย่างจริงใจและเป็นรูปธรรมด้วยเถิด ขอร้องเถอะครับ ทำอะไรก็ได้ โปรดอย่าเอาท่าน อ.ปรีดีไปปะปนแปดเปื้อนกับพวกรัฐประหารเลยครับ ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลกไปแล้วให้ท่านอยู่กับประวัติศาตร์ตามความเป็นจริงของท่านเถิด จะบอกทางให้อ.สมคิดสักทางง่ายมากๆเลยครับ แทนที่จะต้องลบข้อความเพื่อปิดบังข้อเท็จจริงอย่างที่แล้วมา ขอให้อ.สมคิดไปลบชื่อ อ.ปรีดีออกจากรายชื่อหัวหน้าคณะรัฐประหารในคำถามที่โพสต์ถามไปยังคณะนิติราษฏ์ก็แล้วกัน แอบทำเงียบๆโดยไม่ต้องไปขอโทษ หรือรับผิดชอบอะไรก็ได้ แต่ขอสักอย่างเถิด อ.สมคิดต้องเคารพตัวเอง เคารพจิตวิญญาณชาวธรรมศาสตร์และเคารพต่อบรรพชนที่ต่อสู้เพื่อเอกราขและประชาธิปไตยของปวงชนชาวไทยกับเผด็จการทุกรูปแบบ กลุ่มรุ่นพี่ธรรมศาสตร์ 8 ต.ค. 2554 ป.ล. เพื่อนรุ่นน้องที่เรียนและรู้จักกับ อ.สมคิดฝากมาถามว่า “แค่คำขอโทษ คำเดียวก็จบแล้ว ทำไมไม่ทำ” .......................................... วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 18:34:00 น.{มติชนออนไลน์ 29ก.ย54 ข่าวการเมือง} ลูกสาว \"ผู้ประศาสน์การมธ.\" ถาม \"อธิการฯสมคิด\" - \"ปรีดี\" เกี่ยวข้องรปห.อย่างไร? ล่าสุดข้อความถูกลบแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ตั้งคำถาม 15 ข้อ ฝากไปยังนักวิชาการ \"คณะนิติราษฎร์\" ในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีคำถามข้อหนึ่งระบุว่า \"ถ้าเรายกเลิกกฎหมายที่ถูกยกเลิกไปแล้วได้ เราจะล้มเลิกการกระทำทั้งหลายและลงโทษคณะรัฐประหารกี่ชุด สุจินดา ถนอม ประภาส สฤษดิ์ จอมพล ป. อ.ปรีดี หรือจะลงโทษเฉพาะคณะรัฐประหารที่กระทำต่อนายกฯทักษิณ\" ส่งผลให้นางดุษฎี บุญทัศนกุล บุตรสาวนายปรีดี พนมยงค์ ผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ถูกนายสมคิดกล่าวอ้างถึงในคำถามดังกล่าว เข้ามาโพสต์ข้อความในหน้ากระดานเฟซบุ๊กของอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คนปัจจุบันว่า \"อาจารย์เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ ที่พูดพาดพิงถึงนายปรีดีเกี่ยวกับการรัฐประหาร ( เห็นข่าวจากนสพ.หลายฉบับ ) โปรดอธิบายด้วย\" ต่อมา นายสมคิดได้เข้ามาตอบคำถามของนางดุษฎีว่า \"ผมเข้าใจท่านปรีดีดีครับ การรัฐประหารกับการปฏิวัติต่างกันครับ แต่อยากให้ผู้คนได้คิดหาเหตุผลตรึกตรองในเรื่องต่างๆ\" จากนั้นบุตรสาวนายปรีดีจึงเข้ามาพิมพ์โต้ตอบกลับอีกสองข้อความว่า \"กลับไปอ่านคำให้สัมภาษณ์ของอาจารย์ต่อสาธารณชนก่อนค่ะ\" และ \"ขอบคุณค่ะ ที่นำปรีดี มาเทียบเท่ากับ สุจินดา ถนอม ประภาส สฤษดิ์ จอมพลป.\" ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 29 กันยายน เมื่อตรวจสอบไปที่หน้ากระดานเฟซบุ๊กของนายสมคิดอีกครั้งหนึ่ง พบว่า ข้อความโต้ตอบระหว่างนางดุษฎีและนายสมคิดได้ถูกลบหายไปแล้ว"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net